ช่าวหุ้น TU
เดือนนี้ / เดือนก่อน
ปีนี้ / ปีก่อน
-
hoonsmart
“กลุ่มไทยยูเนี่ยน”ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหาร-ของใช้จำเป็นช่วยเหลือชาวใต้ 04/12/68
HoonSmart.com>>”กลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยน” (TU-ITC-TFM) พร้อมเคียงข้างคนไทย ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและของใช้ที่จำเป็นช่วยเหลือชาวใต้ ก้าวข้ามวิกฤตน้ำท่วม มูลค่ารวม 3.4 ล้านบาท บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลชั้นนำระดับโลก พร้อมด้วย บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมส่งมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ผ่านการสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและของใช้ที่จำเป็น มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3.4 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานอาสาต่างๆ ให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย กลุ่มไทยยูเนี่ยนได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารและของใช้จำเป็น อาทิ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ซีเล็คปลาทูน่า ซีเล็คปลาแมคเคอเรลกระป๋อง อาหารพร้อมทาน นมถั่วเหลือง น้ำดื่ม วัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร และอาหารสุนัขและแมว ผ่านหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรภาคเอกชน และสื่อมวลชน ได้แก่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา สำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ว่าการอำเภอสิงหนคร กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมประมง สมาคมกู้ชีพบัวเพชร มูลนิธิองค์กรทำดี โดย ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี และเพจอีจัน เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
-
hoonsmart
ไทยยูเนี่ยน คว้ารางวัล Global Expansion Award จาก The Leadership Awards 2025 03/12/68
HoonSmart.com>>ไทยยูเนี่ยน (TU ) รับรางวัล The Leadership Awards 2025 สาขา Global Expansion ภายในงาน “Go Thailand 2026 : Beyond Survival จัดขึ้นโดยฐานเศรษฐกิจ ร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยรางวัลที่ได้รับสะท้อนความสำเร็จของบริษัทในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ จนเติบโตเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก นายชู ชง ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านกิจการกลุ่มบริษัท เป็นตัวแทน นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้ารับรางวัล The Leadership Awards 2025 สาขา Global Expansion ภายในงาน “Go Thailand 2026 : Beyond Survival โอกาสไทยในวิกฤต” พิธีมอบรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดยฐานเศรษฐกิจ ร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมี ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้มอบรางวัล ณ พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน เวที The Leadership Awards 2025 จัดขึ้นเพื่อยกย่อง 10 ผู้นำภาคธุรกิจที่มีศักยภาพและบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย โดยรางวัล Global Expansion Award ซึ่งไทยยูเนี่ยนได้รับนั้น สะท้อนความสำเร็จของบริษัทในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ จนเติบโตเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก
-
set
-
thunhoon
TUปี69ซีเล็คทูน่าโต10% สยายปีกตลาดต่างประเทศ 28/11/68
@ปี 68 โต10% สำหรับยอดขายในปี 2568 เติบโตขึ้น 10% หรือคิดเป็น 760 ล้านบาท และเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมทูน่ากระป๋องในประเทศที่ปัจจุบันเติบโต 8% แม้ว่าจะมีสัดส่วนเพียง 5% ของพอร์ตรวม TU โดยปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 57.5% โดยยอดขายส่วนใหญ่ของ SEALECT ยังมาจากภายในประเทศ 95% และต่างประเทศ 5% ซึ่งเป็น CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา แต่ด้วยการมีสัดส่วนที่น้อยจึงไม่ได้มีผลกระทบมาก และยังมีโอกาสในการขยายตลาดในประเทศอื่นโดยเฉพาะลาวกับเวียดนาม รวมถึงยังเปิดโอกาสในการขยายในตลาดอื่นๆ เพิ่มเติม
-
set
-
oppday
-
hoonsmart
‘ซีเล็ค’เบอร์ 1 ทูน่ากระป๋อง โต 10% ชูกลยุทธ์ “มากกว่าโปรตีน”เจาะ 5 กลุ่มลูกค้า 27/11/68
HoonSmart.com>>”แบรนด์ซีเล็ค” (SEALECT) เกาะเมกะเทรนด์ ส่งรายได้ 5% ให้ “ไทยยูเนี่ยนฯ” (TU) ครองส่วนแบ่งตลาดทูน่ากระป๋องในไทย 57.5% ปี 68 โต 10% สูงกว่าอุตสาหกรรมโตเฉลี่ย 8% คาดปี 69 โตต่อ 10% เปิดกลยุทธ์”Smart Protein for All” และเป็นมากกว่าโปรตีน มุ่ง Ready-to-eat เจาะ 5 กลุ่มลูกค้า ขยายฐานนักเรียน นักศึกษา ร่วมพันธมิตรเบอร์ 1 ออกสินค้าใหม่ ปีหน้าจับมือ ฉั่วฮะเส็ง ขายน้ำพริกเผาทูน่า หลังในปีนี้ น้ำพริกทูน่า ผสมปลาร้า-ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว ขายดีมาก นางสาวณัฐวีณ์ วชิรทวีพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า แบรนด์ซีเล็ค (SEALECT) ทูน่ากระป๋องมีอายุ 33 ปี ยอดขายอันดับหนึ่งของไทย ส่วนแบ่งตลาด 57.5% ทิ้งห่างเบอร์สองที่ 38.5% ในปี 2568 รายได้เติบโต 10% เป็น 760 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2569 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง 10% เป็น 830 ล้านบาท สูงกว่าอุตสาหกรรมโตเฉลี่ย 8% ด้วยกระแสรักสุขภาพ ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการรับประทานโปรตีนและมองหาทางเลือกที่ดียิ่งขึ้น ทูน่าเป็นหนึ่งในทางเลือกอันดับต้นๆ เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงจากท้องทะเล อุดมด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ ตอบโจทย์ทั้งในแง่โภชนาการ ความสะดวก และความคุ้มค่า ปัจจุบันทูน่ากระป๋องอยู่ในบ้านของคนไทยมากขึ้น ด้วยคุณค่า 1 กระป๋องมีโปรตีน 28 กรัม เท่ากับไข่ไก่ 4 ฟอง ให้โปรตีนมากกว่านมของเด็กถึง 5 เท่า มีความหลากหลายและทานง่าย ภายใต้กลยุทธ์ Smart Protein for All ซีเล็คจึงมุ่งนำเสนอโปรตีนคุณภาพสูง ที่มาพร้อมสารอาหารดี ๆ ของท้องทะเลอย่าง ดีเอชเอ , กรดไขมันโอเมก้า-3 และวิตามิน บี 12 ที่มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง จากทูน่าธรรมชาติในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย มีความหลากหลาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
-
set
-
kaohoon
TU ปัดข่าวข้อเสนอรับซื้อหุ้นใหม่ หลังยกเลิกดีลมิตซูบิชิ ย้ำโปร่งใสทุกขั้นตอน 25/11/68
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จากกรณีที่มีนักลงทุนสอบถามเป็นจำนวนมากถึงความเป็นไปได้ในการทำข้อเสนอรับซื้อหุ้นทั่วไปครั้งใหม่ ภายหลังบริษัทได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 เกี่ยวกับการยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้นของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่นโดยอัตโนมัติ เพื่อความโปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียมกัน บริษัทฯ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อเสนอใด ๆ อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังไม่มีข้อมูลใหม่ที่มีความชัดเจน ทั้งนี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติมที่เข้าข่ายต้องเปิดเผยตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ บริษัทฯ และมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความร่วมมือมาอย่างยาวนาน ได้เริ่มดำเนินการตามแผนกลยุทธ์และกรอบความร่วมมือที่ได้ตกลงร่วมกัน เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ทั้งสองบริษัทในระยะยาว อันเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นในอนาคตต่อไป
-
thunhoon
TU ยังไม่มีแผนรับซื้อหุ้นทั่วไปครั้งใหม่ 25/11/68
TU ยังไม่มีแผนรับซื้อหุ้นทั่วไปครั้งใหม่ #ทันหุ้น #SET #TU บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TU ตามที่มีนักลงทุนสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการทำข้อเสนอรับซื้อหุ้นทั่วไปครั้งใหม่ ภายหลังบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568 เรื่องการยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้นของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่นโดยอัตโนมัติ นั้น เพื่อความโปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียมกัน บริษัทฯ ขอเรียนให้ผู้ถือหุ้นทราบว่าณ ขณะนี้ บริษัทฯ ยังไม่ได้รับข้อเสนอใด ๆ อย่างเป็นทางการและยังไม่มีข้อมูลที่มีความชัดเจนเพิ่มเติม ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งเข้าข่ายต้องเปิดเผยตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯ จะดำเนินการเปิดเผยให้ผู้ถือหุ้นทราบโดยทั่วกันต่อไป
-
hoonsmart
“กลุ่มไทยยูเนี่ยน”ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหาร-ของใช้จำเป็นช่วยเหลือชาวใต้ 04/12/68
HoonSmart.com>>”กลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยน” (TU-ITC-TFM) พร้อมเคียงข้างคนไทย ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและของใช้ที่จำเป็นช่วยเหลือชาวใต้ ก้าวข้ามวิกฤตน้ำท่วม มูลค่ารวม 3.4 ล้านบาท บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลชั้นนำระดับโลก พร้อมด้วย บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมส่งมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ผ่านการสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและของใช้ที่จำเป็น มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3.4 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานอาสาต่างๆ ให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย กลุ่มไทยยูเนี่ยนได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารและของใช้จำเป็น อาทิ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ซีเล็คปลาทูน่า ซีเล็คปลาแมคเคอเรลกระป๋อง อาหารพร้อมทาน นมถั่วเหลือง น้ำดื่ม วัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร และอาหารสุนัขและแมว ผ่านหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรภาคเอกชน และสื่อมวลชน ได้แก่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา สำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ว่าการอำเภอสิงหนคร กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมประมง สมาคมกู้ชีพบัวเพชร มูลนิธิองค์กรทำดี โดย ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี และเพจอีจัน เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
-
hoonsmart
ไทยยูเนี่ยน คว้ารางวัล Global Expansion Award จาก The Leadership Awards 2025 03/12/68
HoonSmart.com>>ไทยยูเนี่ยน (TU ) รับรางวัล The Leadership Awards 2025 สาขา Global Expansion ภายในงาน “Go Thailand 2026 : Beyond Survival จัดขึ้นโดยฐานเศรษฐกิจ ร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยรางวัลที่ได้รับสะท้อนความสำเร็จของบริษัทในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ จนเติบโตเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก นายชู ชง ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านกิจการกลุ่มบริษัท เป็นตัวแทน นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้ารับรางวัล The Leadership Awards 2025 สาขา Global Expansion ภายในงาน “Go Thailand 2026 : Beyond Survival โอกาสไทยในวิกฤต” พิธีมอบรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดยฐานเศรษฐกิจ ร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมี ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้มอบรางวัล ณ พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน เวที The Leadership Awards 2025 จัดขึ้นเพื่อยกย่อง 10 ผู้นำภาคธุรกิจที่มีศักยภาพและบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย โดยรางวัล Global Expansion Award ซึ่งไทยยูเนี่ยนได้รับนั้น สะท้อนความสำเร็จของบริษัทในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ จนเติบโตเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก
-
set
-
thunhoon
TUปี69ซีเล็คทูน่าโต10% สยายปีกตลาดต่างประเทศ 28/11/68
@ปี 68 โต10% สำหรับยอดขายในปี 2568 เติบโตขึ้น 10% หรือคิดเป็น 760 ล้านบาท และเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมทูน่ากระป๋องในประเทศที่ปัจจุบันเติบโต 8% แม้ว่าจะมีสัดส่วนเพียง 5% ของพอร์ตรวม TU โดยปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 57.5% โดยยอดขายส่วนใหญ่ของ SEALECT ยังมาจากภายในประเทศ 95% และต่างประเทศ 5% ซึ่งเป็น CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา แต่ด้วยการมีสัดส่วนที่น้อยจึงไม่ได้มีผลกระทบมาก และยังมีโอกาสในการขยายตลาดในประเทศอื่นโดยเฉพาะลาวกับเวียดนาม รวมถึงยังเปิดโอกาสในการขยายในตลาดอื่นๆ เพิ่มเติม
-
set
-
oppday
-
hoonsmart
‘ซีเล็ค’เบอร์ 1 ทูน่ากระป๋อง โต 10% ชูกลยุทธ์ “มากกว่าโปรตีน”เจาะ 5 กลุ่มลูกค้า 27/11/68
HoonSmart.com>>”แบรนด์ซีเล็ค” (SEALECT) เกาะเมกะเทรนด์ ส่งรายได้ 5% ให้ “ไทยยูเนี่ยนฯ” (TU) ครองส่วนแบ่งตลาดทูน่ากระป๋องในไทย 57.5% ปี 68 โต 10% สูงกว่าอุตสาหกรรมโตเฉลี่ย 8% คาดปี 69 โตต่อ 10% เปิดกลยุทธ์”Smart Protein for All” และเป็นมากกว่าโปรตีน มุ่ง Ready-to-eat เจาะ 5 กลุ่มลูกค้า ขยายฐานนักเรียน นักศึกษา ร่วมพันธมิตรเบอร์ 1 ออกสินค้าใหม่ ปีหน้าจับมือ ฉั่วฮะเส็ง ขายน้ำพริกเผาทูน่า หลังในปีนี้ น้ำพริกทูน่า ผสมปลาร้า-ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว ขายดีมาก นางสาวณัฐวีณ์ วชิรทวีพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า แบรนด์ซีเล็ค (SEALECT) ทูน่ากระป๋องมีอายุ 33 ปี ยอดขายอันดับหนึ่งของไทย ส่วนแบ่งตลาด 57.5% ทิ้งห่างเบอร์สองที่ 38.5% ในปี 2568 รายได้เติบโต 10% เป็น 760 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2569 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง 10% เป็น 830 ล้านบาท สูงกว่าอุตสาหกรรมโตเฉลี่ย 8% ด้วยกระแสรักสุขภาพ ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการรับประทานโปรตีนและมองหาทางเลือกที่ดียิ่งขึ้น ทูน่าเป็นหนึ่งในทางเลือกอันดับต้นๆ เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงจากท้องทะเล อุดมด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ ตอบโจทย์ทั้งในแง่โภชนาการ ความสะดวก และความคุ้มค่า ปัจจุบันทูน่ากระป๋องอยู่ในบ้านของคนไทยมากขึ้น ด้วยคุณค่า 1 กระป๋องมีโปรตีน 28 กรัม เท่ากับไข่ไก่ 4 ฟอง ให้โปรตีนมากกว่านมของเด็กถึง 5 เท่า มีความหลากหลายและทานง่าย ภายใต้กลยุทธ์ Smart Protein for All ซีเล็คจึงมุ่งนำเสนอโปรตีนคุณภาพสูง ที่มาพร้อมสารอาหารดี ๆ ของท้องทะเลอย่าง ดีเอชเอ , กรดไขมันโอเมก้า-3 และวิตามิน บี 12 ที่มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง จากทูน่าธรรมชาติในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย มีความหลากหลาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
-
set
-
kaohoon
TU ปัดข่าวข้อเสนอรับซื้อหุ้นใหม่ หลังยกเลิกดีลมิตซูบิชิ ย้ำโปร่งใสทุกขั้นตอน 25/11/68
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จากกรณีที่มีนักลงทุนสอบถามเป็นจำนวนมากถึงความเป็นไปได้ในการทำข้อเสนอรับซื้อหุ้นทั่วไปครั้งใหม่ ภายหลังบริษัทได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 เกี่ยวกับการยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้นของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่นโดยอัตโนมัติ เพื่อความโปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียมกัน บริษัทฯ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อเสนอใด ๆ อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังไม่มีข้อมูลใหม่ที่มีความชัดเจน ทั้งนี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติมที่เข้าข่ายต้องเปิดเผยตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ บริษัทฯ และมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความร่วมมือมาอย่างยาวนาน ได้เริ่มดำเนินการตามแผนกลยุทธ์และกรอบความร่วมมือที่ได้ตกลงร่วมกัน เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ทั้งสองบริษัทในระยะยาว อันเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นในอนาคตต่อไป
-
thunhoon
TU ยังไม่มีแผนรับซื้อหุ้นทั่วไปครั้งใหม่ 25/11/68
TU ยังไม่มีแผนรับซื้อหุ้นทั่วไปครั้งใหม่ #ทันหุ้น #SET #TU บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TU ตามที่มีนักลงทุนสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการทำข้อเสนอรับซื้อหุ้นทั่วไปครั้งใหม่ ภายหลังบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568 เรื่องการยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้นของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่นโดยอัตโนมัติ นั้น เพื่อความโปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียมกัน บริษัทฯ ขอเรียนให้ผู้ถือหุ้นทราบว่าณ ขณะนี้ บริษัทฯ ยังไม่ได้รับข้อเสนอใด ๆ อย่างเป็นทางการและยังไม่มีข้อมูลที่มีความชัดเจนเพิ่มเติม ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งเข้าข่ายต้องเปิดเผยตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯ จะดำเนินการเปิดเผยให้ผู้ถือหุ้นทราบโดยทั่วกันต่อไป
-
set
-
mitihoon
(หุ้นเจาะ) TU ”ศุภจี“นำพาความรวย เร่งจัดทัพบุกตลาดโลก 23/11/68
TU หรือ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป โดย นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่ากรณี “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา สามารถเจรจาทำให้ไทยได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีลดลงเหลือ 0% ใน สินค้าเกษตรและอาหารหลายรายการ คาดว่าจะมีทูน่าด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อ TU อย่างมาก ลุ้นทูน่าได้สิทธิภาษี บล.ทิสโก้ คาดกำไรสุทธิปี 68 อยู่ที่ราว 4.4 พันลบ. และปี 69 ผลประกอบการเริ่มฟื้นตัว คาดว่าลูกค้าจากสหรัฐฯ คลี่คลายหลังประเด็นภาษีเริ่มผ่อนคลาย เดินหน้าโครงการ Transformation ลดต้นทุน คาด Dividend Yield ปี 2026F ราว 4.7% ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเป็นปี 69 ที่ 15.30 บาท
-
mitihoon
ด่วน!!! (มิติหุ้น-หุ้นเจาะ) ?TU? ”ศุภจี“นำพาความรวย เร่งจัดทัพบุกตลาดโลก 21/11/68
?TU?เฮลั่น!!! หลัง “ศุภจี” รมว.พาณิชย์ นำทัพเจรจาสหรัฐฯ ได้ภาษี 0% สินค้าเกษตรอาหารหลายรายการ คาดว่ามีสินค้าคาบเกี่ยว TU ได้ประโยชน์ พร้อมฉายภาพใหญ่รายได้ปี 69 เติบโต ผลลบอัตราแลกเปลี่ยนเชิงลบไม่รุนแรงเท่าปีนี้ คาดว่าลูกค้าจากสหรัฐฯ คลี่คลายหลังประเด็นภาษีเริ่มผ่อนคลาย เดินหน้าโครงการ Transformation ลด โบรกฯDividend Yield ปี 69 ที่ราว 4.7% แนะซื้อ เคาะเป้า 15.30 บาท
-
iaa
-
thunhoon
TU ทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ลดต้นทุนเพิ่มมูลค่า 12/11/68
#TU #ทันหุ้น – TU เล็งปี 2569 ผลงานโตต่อเนื่องจากปี 2568เหตุมองFX สดใส-ไร้ปัจจัย Tariffsกดดัน พร้อมตอกย้ำฐานะการเงินแกร่ง ระบุไอบีดีอีต่ำ แถมลุยทรานส์ฟอร์มธุรกิจ หวังเพิ่มขีดวามสามารถการดำเนินงานเพิ่ม พ่วงลดต้นทุนระยะยาว นางสาวภิญญดา แสงศักดาหาญหัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TUเปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าแนวโน้มธุรกิจในปี 2569 มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2568 เนื่องจาก มองว่าทิศทางของอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ในส่วนของค่าเงินบาทน่าจะอ่อนตัวมากขึ้น จากปีนี้ที่เคลื่อนไหวเฉลี่ยราว 32 บาทดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับ ปัจจัย เกี่ยวกับภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา หรือ Tariffs น่าจะเริ่มคลายลง หลังประเทศต่างๆ รวมถึงไทยบรรลุข้อตกลงอัตราภาษีในส่วนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ฐานะการเงินแกร่ง
-
kaohoon
-
hoonsmart
TU เล็งผลงาน Q4/68 ดีขึ้น แรงขับเคลื่อนอาหารสัตว์เลี้ยง-แช่แข็ง 11/11/68
HoonSmart.com>>”ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” (TU) คาดรายได้ไตรมาส 4/68 ดีขึ้น จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง-แช่แข็งเป็นตัวขับเคลื่อน พร้อมลดเป้ารายได้ปี 68 ลง 2-4% YoY จากผลกระทบ FX และภาษีทรัมป์ทำให้วอลุ่มฝั่งสหรัฐฯหดเล็กน้อย แต่อัตรากำไรขั้นต้นปี 68 คงเป้าที่ 18.5-19.5% มาร์จิ้นดีจากธุรกิจอาหารแปรรูป-แช่แข็งพัฒนาขึ้น ส่วนงบลงทุนปีนี้ 3.5-4 พันล้านบาท โดย 9 เดือนใช้ไป 2.7 พันล้านบาท น.ส.ภิญญดา แสงศักดาหาญ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า รายได้ไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะดีขึ้น YoY ได้แรงขับเคลื่อนจากอาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารแช่แข็ง โดยหลังจากที่ผ่านมา 3 ไตรมาสแล้วบริษัทฯได้มีการทบทวนเป้ารายได้ปี 2568 และได้ปรับเป้าลดลง 2-4% YoY จากก่อนหน้านี้ได้ปรับลดเป้าลง 1-2% ซึ่งเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (FX) และบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ 19% ส่งผลให้วอลุ่มจากสหรัฐฯลดลงเล็กน้อย ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ตั้งเป้าปี 2568 ไว้ที่ 18.5-19.5% โดย 9 เดือนปี 2568 ทำได้ 19.2% ซึ่งดีจากธุรกิจ Ambient (กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป) และผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง ที่มีการพัฒนาขึ้น สำหรับค่าใช้จ่าย SG&A to sales คงเป้าไว้ที่ประมาณ 13.5-14.4%
-
kaohoon
-
iaa
-
hoonsmart
ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว’ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว’ครั้งแรกของโลก 07/11/68
HoonSmart.com>>แบรนด์ซีเล็ค (SEALECT) ทูน่ากระป๋องยอดขายอันดับหนึ่งของไทย ภายใต้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก จับมือ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป เบอร์ 1 ผู้ผลิตซอสถั่วเหลืองตรา “เด็กสมบูรณ์” เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” หนึ่งในเมนูยอดฮิตของคนไทย ชูธง SMART PROTEIN คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับที่คุ้มค่า สะดวกสบาย เพียงอุ่นไมโครเวฟก็อร่อยได้ทันที เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว แบรนด์ซีเล็ค X เด็กสมบูรณ์ มีจุดเด่นเรื่องคุณภาพและรสชาติความอร่อย เต็มเปี่ยมด้วยคุณประโยชน์ทางโภชนาการ ได้รับแรงบันดาลใจจากเมนูยอดนิยมของคนไทย ซึ่งโดยปกติเป็นเมนูที่ต้องใช้เวลาและมีขั้นตอนการปรุงที่ซับซ้อน อีกทั้งมีราคาค่อนข้างสูง ซีเล็คและเด็กสมบูรณ์จึงร่วมกันพัฒนาเมนูปลาทูน่านึ่งซีอิ๊วให้อยู่ในรูปแบบอาหารพร้อมทาน โดยใช้เวลากว่า 1 ปีในการคิดค้นและปรับสูตร เพื่อให้ได้รสชาติแบบต้นตำรับ ผ่านกระบวนการนึ่งที่ทันสมัย ทำให้เนื้อปลาทูน่ามีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และหอมกลิ่นซีอิ๊วสูตรพิเศษจากเด็กสมบูรณ์ที่ผ่านการหมักบ่มตามธรรมชาติ ผสานความหอมของขิง คึ่นช่าย และต้นหอม นางสาวณัฐวีณ์ วชิรทวีพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าวว่า เราเห็นโอกาสจากเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันที่มองหาอาหารที่สะดวก อร่อย และดีต่อสุขภาพ จึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ Ready-To-Eat ด้วยกลยุทธ์ Taste Collaboration เกิดเป็นความร่วมมือระหว่างซีเล็คและเด็กสมบูรณ์ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการนำจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์มาผสานกันและนำนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มุ่งส่งเสริมโภชนาการดีในรูปแบบ Smart Protein พร้อมต่อยอดศักยภาพของแบรนด์ไทยในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่
-
hoonsmart
“TU”กำไรฟื้นตัวชัดเจน-ต้นทุนลด อัพไซด์ระยะกลาง-เป้า15.60 บาท 06/11/68
ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวส่งผลให้รายได้ 9 เดือนแรกของปี 2568 ลดลงประมาณ 11% YoY อย่างไรก็ดี มาตรการภาษีที่กระทบโดยตรงต่อ TU เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากสหรัฐฯ อยู่ที่เกือบ 40% ส่งผลกระทบน้อยกว่าที่คาด โดยยอดขายในสหรัฐฯ ลดลงเพียง 5% YoY ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภาษีถึง 19% ขณะที่ปริมาณขายอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น 12% YoY หนุนจากนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง การเปิดตัวสินค้าใหม่ และความสามารถในการปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2568 คาดว่ากำไรจะทรงตัว YoY และลดลง QoQ ตามฤดูกาล หนุนจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตต่อเนื่อง
-
iaa
-
kaohoon
TU คว้า 3 รางวัล IAA Awards 2025 ตอกย้ำผู้นำอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก 05/11/68
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ประกาศความภาคภูมิใจที่ผู้บริหารและทีมงานนักลงทุนสัมพันธ์ได้รับรางวัลเกียรติยศรวม 3 รางวัล จากสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ในงาน IAA Awards for Listed Companies 2025 สาขาอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ -รางวัล Outstanding CEO มอบให้แก่ นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อเชิดชูความเป็นผู้นำและวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ที่โดดเด่น -รางวัล Outstanding CFO มอบให้แก่ นายลูโดวิค การ์นิเยร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน เพื่อยกย่องความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการด้านการเงิน
-
mitihoon
เปิด3โบรกส่องหุ้นTU 04/11/68
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง Web : https://www.mitihoon.com/ Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770 Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
-
thunhoon
2 โบรกฯ ส่องหุ้น TU หลังประกาศงบ Q3/68 04/11/68
ผู้บริหารคาดยอดขายปี 68 จะลดลงแต่ยังคงมุมมองเชิงบวกในปี 69 จากการเติบโตของยอดขายที่ดีขึ้น ค่าเงินบาทผันผวนน้อยลง และ GPM ที่กว้างขึ้น เป้าหมายใหม่ของผู้บริหารสอดคล้องกับฝ่ายวิจัยที่คาด และคาดว่าในปี 69 จะเติบโต 14% YoY ก่อน จาก SG&A ที่ลดลงและยอดขายที่ดีขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับเพิ่มเป้าหมายเป็น 14.60 บาท
-
mitihoon
TU ลุ้นผลงานQ4เด่น กูรูอัพกำไร4.57พันล. 04/11/68
มิติหุ้น – TU โดย บล.พาย ระบุว่า TU รายงานกำไรสุทธิงวด Q3/25 ที่ระดับ 1,304 ล้านบาท ถ้าไม่รวม รายการพิเศษกำไรปกติจะอยู่ที่ 1,196 ล้านบาทใกล้เคียงที่คาดไว้ โดยสิ่งที่ดีในไตรมาสนี้คือถ้าไม่นับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากการ ฟื้นตัวในกลุ่มอาหารสัตว์ทั้งกุ้งและสัตว์เลี้ยง ส่วนเทียบกับ Q2/25 รายได้ฟื้นตัวทุกกลุ่ม สําหรับแนวโน้มช่วง Q4/25 เบื้องต้นคาดรายได้ ทรงตัวจาก Q3/25 แม้จะไม่ใช่ช่วง High Seasons ของการส่งออก แต่จะได้รับผลดีจากการปรับราคาขายเต็มไตรมาส ทั้งนี้ปรับทําไรปี 25 ขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4,572 ล้านบาท และปรับคำาแนะนำาขึ้นเป็น “ซื้อ” โดยใช้ราคาเหมาะสมปี 26 แทนที่ 15.3 บาท (14XPER’26E) ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
kaohoon
“ฟินันเซีย” แนะถือ TU หลังเปิดกำไร Q3 ตามคาด ชูเป้า 14 บาท 03/11/68
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยบทวิเคราะห์เกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ประจำไตรมาส 3 ปี 2568 ว่ามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX gain) จำนวน 107 ล้านบาท จะมีกำไรปกติที่ 1.19 พันล้านบาท ลดลง 0.7% จากไตรมาสก่อน และลดลง 17.8% จากปีก่อน ทั้งนี้ แม้ปริมาณการขายเติบโตทั้งเมื่อเทียบไตรมาสและปีต่อปี แต่รายได้รวมขยายตัวเพียง 3.3% จากไตรมาสก่อน และลดลง 1.0% จากปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง (Ambient) เนื่องจากการปรับขึ้นราคาสินค้ากลุ่มแบรนด์ยังไม่ทันกับภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทยอยปรับขึ้นได้ในไตรมาส 4/2568 ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังอยู่ในระดับสูงที่ 13.8% ของรายได้รวม จากค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กร (transformation cost) ประมาณ 212 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 0.6% ของรายได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับลดประมาณการรายได้ปี 2568 ลงเป็นหดตัว 2-4% จากเดิมคาดหดตัว 1-2% เพื่อสะท้อนผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐ ขณะที่ยังคงประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18.5-19.5% และปรับเพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อรายได้ (SG&A to sale) เป็น 13.5-14.5% จากเดิม 13.5-14%
-
mitihoon
#TU ต่อสัญญาเช่าสำนักงานกับ “จันศิริ เรียล เอสเตท” อีก 3 ปี มูลค่า 274 ล้านบาท 03/11/68
มิติหุ้น – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 มีมติอนุมัติการ ต่อสัญญาเช่าพื้นที่สำนักงานกับบริษัท จันศิริ เรียล เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็น บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยมีระยะเวลาสัญญาเช่า 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ถึง 31 ธันวาคม 2571 ทั้งนี้ สัญญาดังกล่าวเป็นการเช่าพื้นที่สำนักงานที่อาคารเอสเอ็มทาวเวอร์กรุงเทพมหานคร รวมพื้นที่ประมาณ 12,692.42 ตารางเมตร ในอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 600 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน (ไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ และโทรศัพท์) รวมมูลค่าสัญญาประมาณ 274.16 ล้านบาท ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
-
hoonsmart
TU กำไร 1,304 ลบ. Q3 มาร์จิ้น19%เข้าเป้า-9 เดือนปีนี้กระแสเงินสดแกร่ง 4,127 ลบ. 03/11/68
HoonSmart.com>>”ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ” (TU) ผลงานโต ไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิ 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนสะท้อนความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีความท้าทาย ยอดขายรวม 34,501 ล้านบาท ได้แรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.34 บาท เพิ่มขึ้น 12.1%จากปีก่อน รวม 9 เดือนมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 4,127 ล้านบาท บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป(TU) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 3/2568 มีกำไรสุทธิ1,304 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.34 บาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 1,400 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.30 บาท กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการลดทุนจากการตัดหุ้นที่ซื้อคืนและจำหน่ายไม่ได้ ส่วนกำไรสุทธิตามที่ปรับปรุง (ไม่รวม transformation costs) อยู่ที่ 1,516 ล้านบาท ลดลง 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวม 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯมีกำไรทั้งสิ้น 3,596 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 0.90 บาท ขณะที่ช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,772 ล้านบาทหรือ 0.81 บาทต่อหุ้น
-
thunhoon
TU เผยยอดขาย Q3/68 ที่ 34,501 ลบ. วางเป้าลดค่าใช้จ่าย 118 ล้านเหรียญในปี 70 03/11/68
#TU #ทันหุ้น-บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีความท้าทาย โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 34,501 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของยอดขายแบบ organic sales ได้รับแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้นเติบโตเพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 4,127 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “ผลประกอบการไตรมาส 3 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัวของไทยยูเนี่ยน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน เรายังคงเห็นสัญญาณการเติบโต ปริมาณการขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งในระดับ 19% สะท้อนว่าเรากำลังดำเนินกลยุทธ์ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งในด้านการเพิ่มความคล่องตัวของการดำเนินงาน การเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก และการต่อยอดศักยภาพการแข่งขันของแบรนด์ในพอร์ตทั้งหมดของบริษัท” ในไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 6,549 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเนื่องจากกำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 ของปี 2567 นั้นอยู่ในระดับสูงเป็นพิเศษ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการบริหารพอร์ตผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพและต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์น้ำที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทนั้นอยู่ที่ 19% ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 18.5–19.5%
-
mitihoon
มิติหุ้น – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีความท้าทาย โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 34,501 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของยอดขายแบบ organic sales ได้รับแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้นเติบโตเพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 4,127 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลประกอบการไตรมาส 3 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัวของไทยยูเนี่ยน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน เรายังคงเห็นสัญญาณการเติบโต ปริมาณการขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งในระดับ 19% สะท้อนว่าเรากำลังดำเนินกลยุทธ์ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งในด้านการเพิ่มความคล่องตัวของการดำเนินงาน การเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก และการต่อยอดศักยภาพการแข่งขันของแบรนด์ในพอร์ตทั้งหมดของบริษัท” ในไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 6,549 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเนื่องจากกำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 ของปี 2567 นั้นอยู่ในระดับสูงเป็นพิเศษ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการบริหารพอร์ตผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพและต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์น้ำที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทนั้นอยู่ที่ 19% ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 18.5–19.5%
-
thunhoon
TU ไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิ 1,304 ล้านบาท -6.8% YoY 03/11/68
TU ไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิ 1,304 ล้านบาท -6.8% YoY #ทันหุ้น #TU ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TU) สามารถกลับมาแสดงการเติบโตจากการดำเนินงานหลัก (Organic growth) ได้อีกครั้ง พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับแข็งแกร่ง แม้บริษัทฯ จะเผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง o บริษัทฯ รายงานยอดขายที่ 34,501 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย -1.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน +3.3% QoQ โดยส่วนใหญ่มาจากผลกระทบเชิงลบจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.8% หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายจากการดำเนินงานปกติกลับมาเติบโต 1.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากลดลงต่อเนื่อง 2 ไตรมาส โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง
-
fin
-
set
-
set
-
set
-
set
-
iaa
-
thunhoon
TU พรุ่งนี้ลุ้นงบ Q3/68 โบรกฯ คาดกำไรที่ 1.15-1.29 พันลบ. 02/11/68
#TU #ทันหุ้น-บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ซึ่งโบรกเกอร์คาดการณ์ว่าจะประกาศงบไตรมาส 3/68 ในวันพรุ่งนี้(3 พ.ย.68) โดยคาดการณ์ว่ากำไรจะอยู่ที่ 1.15-1.29 พันล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน YoY และไตรมาสก่อน QoQ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นหรือ GPM ที่ลดลง เพราะถูกกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/68 ก็มองว่ายังไม่สดใส แต่จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2569 พร้อมมองว่าหุ้น TU มีจุดเด่นการจ่ายเงินปันผล รวมถึงมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง บล.กรุงศรีคาดว่า TU จะมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 1,160 ล้านบาท ลดลง 17% YoY และลดลง 9% QoQ และคาดว่าจะมีกำไรปกติอยู่ที่ 1,130 ล้านบาท ลดลง 22% YoY และลดลง 6% QoQ ซึ่งปัจจัยที่กำไรลดลง เนื่องจากคาดอัตรากำไรขั้นต้นหรือ GPM ลดลงมาอยู่ที่ 18.5% เทียบกับไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 19.5% และที่ 19.7% ในงวดไตรมาส 2/68 เพราะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นช้ากว่าต้นทุนภาษีสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้น 10% จึงกระทบต่อ GPM โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารทะเลกระป๋องลดลง ขณะที่ GPM ธุรกิจแช่แข็งเพิ่มขึ้น จากต้นทุนวัตถุดิบลดลง ส่วนกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง GPM ก็ลดลง จากเงินบาทแข็งค่าและไม่มีการกลับรายการสินค้าคงเหลือ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/68 คาดว่ากำไรปกติจะลดลง YoY และ QoQ จากผลกระทบ US Reciprocal Tariff เต็มไตรมาส และอุปสงค์อาจลดลงจากกำลังซื้ออ่อนแอลง โดยยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2568 อยู่ที่ 3,865 ล้านบาท ลดลง 22% YoY มองว่าปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างท้าทายของ TU
-
iaa
-
kaohoon
TU ดีด 6% ลุ้นยอดขาย Q4 โมเมนตัมบวก โบรกเคาะเป้า 15.30 บาท 14/10/68
บริษัทเตรียมเดินหน้าปรับราคาขึ้นเพิ่มเติมเพื่อชดเชยภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่อัตรา 19% ที่เริ่มบังคับใช้ โดยมุ่งเน้นการเจรจากับคู่ค้าในสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดยุโรปยังคงใช้กลยุทธ์การทำโปรโมชั่นเชิงรุกเพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดกลับจาก private label ราคาปลาทูน่าคาดว่าจะทรงตัวในช่วง 1,530–1,570 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของต้นทุนได้ นอกจากนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์ ยังคงประมาณการเดิม โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 2568 จะอยู่ที่ราว 4.4 พันล้านบาท (ลดลง 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน) จาก demand ที่อ่อนตัวและผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้า ขณะที่ในปี 2569 คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาเติบโต 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จากสถานการณ์ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลง จากราคาทูน่าที่ปรับขึ้นเป็นราว 1,600 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน (เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน) ขณะเดียวกัน SG&A คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและค่าขนส่งทางเรือ (บริษัทขายสินค้าแบบ FOB เป็นหลัก โดยธุรกิจแบบ CIF มีสัดส่วนราว 3% ของค่าใช้จ่ายรวม) รวมถึงงบการตลาดที่เพิ่มขึ้น
-
iaa
-
hoonsmart
“ไทยยูเนี่ยน” คว้า 5 รางวัลจากเวทีองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 68 06/10/68
นางวรรัตน์ เลิศอนันต์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยตัวแทนจากบริษัทในเครือ เข้ารับรางวัล องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ โดย บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล “ดีเด่นระดับโกลด์” ขณะที่ บริษัท ไทยยูเนี่ยนซีฟู้ด จำกัด บริษัท โอคินอสฟู้ด จำกัด และบริษัท แพ็คฟู้ด จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล “ระดับดีเด่น” และ บริษัท ไทยยูเนี่ยนฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล “ระดับดี” โดยมี พันตำรวจโท ทวี สอดส่อง เป็นประธานมอบรางวัลในพิธี โดย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น เมื่อเร็ว ๆ นี้
-
thunhoon
7 โบรกฯ ส่องหุ้น TU ประเมินราคาเป้าหมาย-คำแนะนำ 04/10/68
#TU #ทันหุ้น-โบรกเกอร์ 7 แห่งได้ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU โดยคาดการณ์ผลดำเนินงานไตรมาส 3/68 ซึ่งจะอยู่ประมาณ 1.2 พันล้านบาท ลดลง YoY และ QoQ ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐ หรือ US Tariff อย่างไรก็ตามประเมินยอดขายยังมีการเติบโต ขณะเดียวกันได้ประเมินราคาเป้าหมายและคำแนะนำการลงทุน โดยมี”ทิสโก้”ให้ราคาสูงสุด 15.30 บาท แนะนำซื้อ ขณะที่”กรุงศรี” ให้ต่ำสุดที่ 11.80 บาท แนะนำถือ บล.ทิสโก้คาดว่า TU ในไตรมาส 3/68 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,202 ล้านบาท ลดลง 14% YoY และลดลง 6% QoQ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ Ambient ขณะที่คาดว่ายอดขายรวมเติบโตทั้ง QoQ และ YoY โดยมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของปริมาณและการปรับขึ้นของยอดขาย Ambient ส่วน Pet Care คาดว่าจะเติบโตจากสัดส่วนสินค้าพรีเมียมกลับมาอยู่ในระดับปกติ 47–50% ขณะที่ Frozen คาดว่าจะเติบโตหลักเดียว และประมาณการกำไรทั้งปี 2568 จะลดลง 12% YoY จากความต้องการที่อ่อนตัวและผลลบจากภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรปี 2569 จะกลับมาเติบโต 16% จากสถานการณ์ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยยังคงคำแนะนำซื้อ จากความชัดเจนของ US tariff ที่ประกาศอยู่ที่ 19% ต่ำกว่าที่เคยกังวลไว้ที่ 36% และคาดผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2569 โดยให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 15.30 บาท
-
mitihoon
TU ลุ้นออเดอร์สหรัฐ หนุนผลงาน Q4พุ่ง 02/10/68
มิติหุ้น – TU โดย บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า คาดการณ์กำไรปกติ Q3/68 ของ TU ที่ 1.25 พันลบ. -15% YoY เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจะหักล้างยอดขายที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่ทรงตัว แต่ +2% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ส่วนใน Q4/68 TU พบว่าคำสั่งซื้อยังอยู่ในระดับปกติ แต่จะติดตามคำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดหลังจากราคาขายปลีกมีแนวโน้มปรับขึ้นเพื่อสะท้อนอัตราภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ เราคาดว่ากำไร Q4/68 จะเพิ่มขึ้น/ทรงตัว YoY จากยอดขายที่ดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัว (ปรับราคาขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนที่สูงขึ้น) และ transformation cost ที่ลดลง แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล คงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ TU โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 15 บาท อ้างอิง PE 14 เท่า (-0.25S.D จาก PE เฉลี่ย 10 ปี)
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
mitihoon
มิติหุ้น – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลชั้นนำระดับโลก ได้รับการประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ไว้ที่ระดับ “A+” ต่อเนื่อง พร้อมคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ซึ่งไม่มีประกันและไถ่ถอนเมื่อเลิกกิจการ (Hybrid Debentures) ของบริษัทที่ระดับ “A-” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” เนื่องจากมีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งกระจายตัวอยู่ในหลายภูมิภาค ทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา และมีการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็ง กลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า อาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารสัตว์เศรษฐกิจ โดยประเด็นสำคัญที่ทริสเรทติ้งนำมาใช้ในการกำหนดอันดับเครดิตของไทยยูเนี่ยนมาจากความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อัตราภาษีการค้า รวมถึงความผันผวนของราคาวัตถุดิบและความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และแม้ว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จะมีรายได้จากการดำเนินงานลดลง และมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับแรงกดดันจากภาษีศุลกากรของประเทศสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราภาษีตอบโต้ที่ระดับ 19% สำหรับสินค้าจากประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้นและอาจลดทอนอุปสงค์สินค้าในตลาดสหรัฐฯ แต่เนื่องจากอัตราภาษีดังกล่าวใกล้เคียงกับที่ประเทศผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่อื่น ๆ ต้องเผชิญ ทริสเรทติ้งจึงมองว่าบริษัทยังคงมีความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม นอกจากนี้การมีเครือข่ายการผลิตระดับโลกที่กว้างขวางและมีมาตรการควบคุมต้นทุนที่ดีทำให้บรรเทาปัจจัยเสี่ยงลงได้บางส่วน และส่งผลให้บริษัทยังคงรักษาเสถียรภาพในการดำเนินงานและโอกาสในการเติบโตเอาไว้ได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งยังได้ประเมินสภาพคล่องของไทยยูเนี่ยนไว้ว่ามีเพียงพอในระยะ 12 เดือนข้างหน้า และคาดว่าค่าใช้จ่ายตามแผนการลงทุนของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 3,800 ล้านบาท ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ภาระหนี้ของบริษัทฯ จะค่อย ๆ ปรับลดลง เป็นผลจากการดำเนินงานที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง ตลอดจนความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการปรับปรุงองค์กรตามแผนการปรับโครงสร้างของบริษัท ส่งผลให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขันดีขึ้น
-
hoonsmart
ทริสฯ คงเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ TU ที่ A+ แนวโน้ม Stable ตอกย้ำการเงินแกร่ง 01/10/68
HoonSmart.com>>ไทยยูเนี่ยน โชว์แกร่งคงอันดับเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ “A+” จากทริสเรทติ้ง ตอกย้ำศักยภาพทางการเงินและการบริหารสุดเข้มแข็ง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลชั้นนำระดับโลก ได้รับการประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ไว้ที่ระดับ “A+” ต่อเนื่อง พร้อมคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ซึ่งไม่มีประกันและไถ่ถอนเมื่อเลิกกิจการ (Hybrid Debentures) ของบริษัทที่ระดับ “A-” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” เนื่องจากมีการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งกระจายตัวอยู่ในหลายภูมิภาค ทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา และมีการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็ง กลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า อาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารสัตว์เศรษฐกิจ โดยประเด็นสำคัญที่ทริสเรทติ้งนำมาใช้ในการกำหนดอันดับเครดิตของไทยยูเนี่ยนมาจากความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อัตราภาษีการค้า รวมถึงความผันผวนของราคาวัตถุดิบและความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และแม้ว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จะมีรายได้จากการดำเนินงานลดลง และมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับแรงกดดันจากภาษีศุลกากรของประเทศสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราภาษีตอบโต้ที่ระดับ 19% สำหรับสินค้าจากประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้นและอาจลดทอนอุปสงค์สินค้าในตลาดสหรัฐฯ แต่เนื่องจากอัตราภาษีดังกล่าวใกล้เคียงกับที่ประเทศผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่อื่น ๆ ต้องเผชิญ ทริสเรทติ้งจึงมองว่าบริษัทยังคงมีความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม นอกจากนี้การมีเครือข่ายการผลิตระดับโลกที่กว้างขวางและมีมาตรการควบคุมต้นทุนที่ดีทำให้บรรเทาปัจจัยเสี่ยงลงได้บางส่วน และส่งผลให้บริษัทยังคงรักษาเสถียรภาพในการดำเนินงานและโอกาสในการเติบโตเอาไว้ได้
-
iaa
-
iaa
-
hoonsmart
TU ปิดดีลเงินกู้ยั่งยืน 2.4 หมื่นลบ.ยอดจองล้น ดันสินเชื่อ ESG แตะ 80% เป้า 100% ปี’73 30/09/68
HoonSmart.com>>ไทยยูเนี่ยน ผสานเทคโนโลยีการเงินเข้ากับพันธกิจเพื่อท้องทะเล ปิดดีลเงินกู้ยั่งยืนครบแผงรวม 2.4 หมื่นล้านบาท ทั้งคลับโลน 8 ธนาคาร 1 หมื่นล้านบาท และหุ้นกู้ 9 พันล้านบาท ยอดจองล้น 3.68 เท่า สร้างประวัติศาสตร์ดอกเบี้ยต่ำสุด 2.46% ธุรกิจประกันชีวิตจองซื้อมากสุด เตรียมเงินไปรีไฟแนนซ์ปลายปีนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท ช่วยลดภาระดอกเบี้ย 500 ล้านบาทต่อปี ดันสัดส่วนเงินทุนระยะยาวด้านความยั่งยืนปี’68 แตะ 80% เกินเป้าที่วางไว้ 75% เดินหน้าสู่ 100% ในปี 2573 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) (Blue Bond) หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ไปพร้อมกัน การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับความสนใจล้นหลามจากนักลงทุน ด้วยยอดจองซื้อทะลุเป้าถึง 3.68 เท่า จากเป้าหมายการระดมทุนที่ 7,000 ล้านบาท จึงได้เพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้เป็น 9,000 ล้านบาท การระดมทุนในครั้งนี้ทั้งหมดส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนบรรลุเป้าหมาย Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล โดยสามารถระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนได้เกินเป้าหมายปี 2568 ซึ่งกำหนดไว้ที่ 75% ของเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นระดับที่ 80% พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 100% ภายในปี 2573
-
thunhoon
TU ทิสโก้ มอง Mitsubishi ยกเลิกคำเสนอซื้อ ไม่กระทบปัจจัยพื้นฐาน 30/09/68
#TU #ทันหุ้น-บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ต่อกรณีที่การประกาศข้อเสนอรับซื้อหุ้นโดยทั่วไปของ Mitsubishi Corporation ได้ถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ เนื่องจากจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นเสนอขายไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่ระบุไว้ในเอกสารข้อเสนอรับซื้อหุ้น โดยเงื่อนไขกำหนดไว้ว่าจะต้องมีผู้เสนอขายไม่น้อยกว่า 532.27 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 13.81% จึงจะทำให้ข้อเสนอมีผลบังคับใช้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2568 จำนวนหุ้นที่เสนอขายต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ ส่งผลให้ข้อเสนอรับซื้อหุ้นถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ โดยสถานะการถือหุ้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดย Mitsubishi Corporation ยังคงถือหุ้นจำนวน 238.75 ล้านหุ้นคิดเป็น 6.19% ของจำนวนหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมด การยกเลิกข้อเสนอครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อสัดส่วนการถือหุ้น หรือการมีส่วนร่วมในระยะยาวของ Mitsubishi ต่อ TU ฝ่ายวิจัยทิสโก้ เชื่อว่าการยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้นครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบเชิงลบต่อปัจจัยพื้นฐานของ TU เนื่องจากไม่ได้กระทบต่อการดำเนินงาน แนวโน้มกำไร หรือกลยุทธ์ที่ดำเนินอยู่ บริษัทยังคงรักษาโมเมนตัมธุรกิจที่แข็งแกร่ง และยังคงได้รับประโยชน์จากความร่วมมือระยะยาวกับ Mitsubishi ที่มีมามากกว่า 30 ปี ในเชิงกลยุทธ์ที่ยั่งยืน และยังคงเป็นแรงสนับสนุนต่อการเติบโตระยะยาวของ TU
-
kaohoon
TU ยอดจองหุ้นกู้ยั่งยืนล้น 3.68 เท่า ย้ำสัมพันธ์ “มิตซูบิชิ” มั่นคง 30/09/68
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลกประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) (Blue Bond) หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ไปพร้อมกัน การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับความสนใจล้นหลามจากนักลงทุน ด้วยยอดจองซื้อทะลุเป้าถึง 3.68 เท่า จากเป้าหมายการระดมทุนที่ 7,000 ล้านบาท จึงได้เพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้เป็น 9,000 ล้านบาท การระดมทุนในครั้งนี้ทั้งหมด ส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนบรรลุเป้าหมาย Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล โดยสามารถระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนได้เกินเป้าหมายปี 2568 ซึ่งกำหนดไว้ที่ 75% ของเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นระดับที่ 80% พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 100% ภายในปี 2573 นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TU กล่าวว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเรา และสะท้อนจุดยืนที่ชัดเจนถึงการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยนอกจากความสำเร็จด้านการระดมทุนแล้ว แรงสนับสนุนและความไว้วางใจจากนักลงทุนยังช่วยผลักดันให้ไทยยูเนี่ยนเดินหน้ากลยุทธ์ทางการเงินให้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน SeaChange® 2030 และพันธกิจของเราในการมุ่งสร้างสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ “Healthy Living, Healthy Oceans” เพื่อขับเคลื่อนอนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก
-
mitihoon
มิติหุ้น – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) (Blue Bond) หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับความสนใจล้นหลามจากนักลงทุน ด้วยยอดจองซื้อทะลุเป้าถึง 3.68 เท่า จากเป้าหมายการระดมทุนที่ 7,000 ล้านบาท จึงได้เพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้เป็น 9,000 ล้านบาท การระดมทุนในครั้งนี้ทั้งหมดส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนบรรลุเป้าหมาย Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล โดยสามารถระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนได้เกินเป้าหมายปี 2568 ซึ่งกำหนดไว้ที่ 75% ของเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นระดับที่ 80% พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 100% ภายในปี 2573 นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเรา และสะท้อนจุดยืนที่ชัดเจนว่าถึงการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยนอกจากความสำเร็จด้านการระดมทุนแล้ว แรงสนับสนุนและความไว้วางใจจากนักลงทุนยังช่วยผลักดันให้ไทยยูเนี่ยนเดินหน้ากลยุทธ์ทางการเงินให้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน SeaChange® 2030 และพันธกิจของเราในการมุ่งสร้างสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ‘Healthy Living, Healthy Oceans’ เพื่อขับเคลื่อนอนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก” ทั้งนี้ ธุรกรรมล่าสุดมีมูลค่ารวม 19,000 ล้านบาท ในเดือนกันยายน 2568 แบ่งเป็นสินเชื่อ SLL จำนวน 10,000 ล้านบาท จากกลุ่มพันธมิตรธนาคารชั้นนำ และหุ้นกู้จำนวน 9,000 ล้านบาท โดยนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการออกหุ้นกู้แบบผสมผสานระหว่าง หุ้นกู้ Blue Bond และหุ้นกู้ SLB ได้รับความต้องการที่ล้นหลามจากนักลงทุน ส่งผลให้ยอดจองหุ้นกู้สูงเกินกว่ายอดเสนอขาย ทำให้ไทยยูเนี่ยนสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดของช่วงเสนอขายในทุกช่วงอายุของหุ้นกู้ ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดต่อสถานะทางการเงินและวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของบริษัท โดยมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยดังต่อไปนี้
-
thunhoon
TU ปลื้มหุ้นกู้ยั่งยืนร้อนยอดจองล้น 3.68 เท่า ดัน Blue Finance ปี 68 ทะลุเป้า 30/09/68
#TU #ทันหุ้น-บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) (Blue Bond) หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับความสนใจล้นหลามจากนักลงทุน ด้วยยอดจองซื้อทะลุเป้าถึง 3.68 เท่า จากเป้าหมายการระดมทุนที่ 7,000 ล้านบาท จึงได้เพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้เป็น 9,000 ล้านบาท การระดมทุนในครั้งนี้ทั้งหมดส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนบรรลุเป้าหมาย Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล โดยสามารถระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนได้เกินเป้าหมายปี 2568 ซึ่งกำหนดไว้ที่ 75% ของเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นระดับที่ 80% พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 100% ภายในปี 2573 นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเรา และสะท้อนจุดยืนที่ชัดเจนว่าถึงการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยนอกจากความสำเร็จด้านการระดมทุนแล้ว แรงสนับสนุนและความไว้วางใจจากนักลงทุนยังช่วยผลักดันให้ไทยยูเนี่ยนเดินหน้ากลยุทธ์ทางการเงินให้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน SeaChange® 2030 และพันธกิจของเราในการมุ่งสร้างสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ‘Healthy Living, Healthy Oceans’ เพื่อขับเคลื่อนอนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก”
-
thunhoon
TU ปลื้มหุ้นกู้ยั่งยืนร้อนยอดจองล้น 3.68 เท่า ดัน Blue Finance ปี 68 ทะลุเป้า 30/09/68
#TU #ทันหุ้น-บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) (Blue Bond) หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับความสนใจล้นหลามจากนักลงทุน ด้วยยอดจองซื้อทะลุเป้าถึง 3.68 เท่า จากเป้าหมายการระดมทุนที่ 7,000 ล้านบาท จึงได้เพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้เป็น 9,000 ล้านบาท การระดมทุนในครั้งนี้ทั้งหมดส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนบรรลุเป้าหมาย Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล โดยสามารถระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนได้เกินเป้าหมายปี 2568 ซึ่งกำหนดไว้ที่ 75% ของเงินกู้ยืมระยะยาวเป็นระดับที่ 80% พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 100% ภายในปี 2573 นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเรา และสะท้อนจุดยืนที่ชัดเจนว่าถึงการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยนอกจากความสำเร็จด้านการระดมทุนแล้ว แรงสนับสนุนและความไว้วางใจจากนักลงทุนยังช่วยผลักดันให้ไทยยูเนี่ยนเดินหน้ากลยุทธ์ทางการเงินให้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน SeaChange® 2030 และพันธกิจของเราในการมุ่งสร้างสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ‘Healthy Living, Healthy Oceans’ เพื่อขับเคลื่อนอนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก”
-
set
-
iaa
-
kaohoon
TU ย้ำ “มิตซูบิชิ” ยังเป็นพันธมิตรเหนียวแน่น แม้ล้มดีลซื้อหุ้น 29/09/68
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ว่าการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั่วไป (General Offer) เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในไทยยูเนี่ยนจาก 6.19% เป็น 20% นั้นไม่ได้รับการตอบรับตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากราคาที่เสนอซื้อนั้นไม่สามารถดึงดูดจำนวนผู้ขายได้มากพอ อย่างไรก็ดี มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ยังคงบทบาทสำคัญในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัท และลูกค้าของไทยยูเนี่ยน ความร่วมมือทางธุรกิจและกลยุทธ์ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2534 จะดำเนินต่อไปอย่างแข็งแกร่ง และทั้งสองบริษัทยังมุ่งค้นหาโอกาสและความร่วมมืออื่นๆ เพิ่มเติมผ่านโครงสร้างการถือหุ้นที่มีอยู่
-
thunhoon
TU “มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น” ยกเลิกซื้อหุ้นโดยอัตโนมัติ เก็บหุ้นขั้นต่ำไม่ครบตามที่ต้องการ 29/09/68
TU “มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น” ยกเลิกซื้อหุ้นโดยอัตโนมัติ เก็บหุ้นขั้นต่ำไม่ครบตามที่ต้องการ #ทันหุ้น #TU นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน). TU แจ้งการยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้นของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น โดยอัตโนมัติ ตามที่บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568 เกี่ยวกับการเริ่มต้นข้อเสนอรับซื้อหุ้นทั่วไปเพื่อเข้าซื้อหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มเติม (“ข้อเสนอรับซื้อหุ้น”) โดยมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (“ผู้ยื่นข้อเสนอฯ”) นั้น บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568 บริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจากผู้ยื่นข้อเสนอฯ ว่าข้อเสนอรับซื้อหุ้นได้ถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ เนื่องจากมีการตอบรับข้อเสนอรับซื้อหุ้นไม่เพียงพอเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ ทั้งนี้โปรดพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้
-
kaohoon
TU แจง “มิตซูบิชิ” ล้มดีลรับซื้อหุ้น หลังยอดตอบรับต่ำเป้า 29/09/68
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU แจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าตามที่ได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 เกี่ยวกับการเริ่มต้นข้อเสนอรับซื้อหุ้นทั่วไป เพื่อเข้าซื้อหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มเติม (ข้อเสนอรับซื้อหุ้น) โดย มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ผู้ยื่นข้อเสนอฯ) นั้น บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนว่าเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 TU ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจากผู้ยื่นข้อเสนอฯ ว่าข้อเสนอรับซื้อหุ้นได้ถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติแล้ว เนื่องจากมีการตอบรับข้อเสนอรับซื้อหุ้นไม่เพียงพอเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ ทั้งนี้ โปรดพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้ เหตุในการยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้น เนื่องมาจากการยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้นโดยอัตโนมัติเป็นไปตามที่กำหนดในเอกสารข้อเสนอรับซื้อหุ้นที่ว่า ข้อเสนอรับซื้อหุ้นจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ หากจำนวนหุ้นทั้งหมดซึ่งผู้ถือหุ้นประสงค์จะเสนอขายภายใต้ข้อเสนอรับซื้อหุ้นมีจำนวนน้อยกว่า 532,273,639 หุ้น ของบริษัท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 11.95 (รวมหุ้น ซื้อคืนที่บริษัทฯ ถืออยู่) หรือร้อยละ 13.81 (ไม่รวมหุ้น ซื้อคืนที่บริษัทฯ ถืออยู่) ของจำนวนหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
-
hoonsmart
มิตซูบิชิฯ ซื้อหุ้น TU เพิ่มไม่สำเร็จ เดินหน้าความร่วมมือต่อเนื่อง 29/09/68
HoonSmart.com>>”ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” (TU) ได้รับแจ้งจาก”มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น” เรื่องซื้อหุ้น TU เพิ่มขึ้น 13.81% เป็น 20% ไม่ได้ตอบรับตามเป้าหมายที่วางไว้ เหตุราคารับซื้อที่ 12.50 บาทไม่ดึงดูด ทั้งสองบริษัทยันเดินหน้าความร่วมมือทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่งต่อไป บริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า วันที่ 29 ก.ย.2568 ได้รับแจ้งจากบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ว่าการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั่วไป (General Offer) เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในไทยยูเนี่ยนฯจาก 6.19% เป็น 20% นั้นไม่ได้รับการตอบรับตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากราคาที่เสนอซื้อนั้นไม่สามารถดึงดูดจำนวนผู้ขายได้มากพอ อย่างไรก็ดี มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ยังคงบทบาทสำคัญในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัท และลูกค้าของไทยยูเนี่ยน ความร่วมมือทางธุรกิจและกลยุทธ์ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2534 จะดำเนินต่อไปอย่างแข็งแกร่ง และทั้งสองบริษัทยังมุ่งค้นหาโอกาสและความร่วมมืออื่นๆ เพิ่มเติมผ่านโครงสร้างการถือหุ้นที่มีอยู่
-
mitihoon
TU ไทยยูเนี่ยน และ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าความร่วมมือต่อเนื่อง 29/09/68
มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – 29 กันยายน 2568 – ไทยยูเนี่ยนได้รับแจ้งจากบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ว่าการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั่วไป (General Offer) เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในไทยยูเนี่ยนจาก 6.19% เป็น 20% นั้นไม่ได้รับการตอบรับตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากราคาที่เสนอซื้อนั้นไม่สามารถดึงดูดจำนวนผู้ขายได้มากพอ อย่างไรก็ดี มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ยังคงบทบาทสำคัญในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัท และลูกค้าของไทยยูเนี่ยน ความร่วมมือทางธุรกิจและกลยุทธ์ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2534 จะดำเนินต่อไปอย่างแข็งแกร่ง และทั้งสองบริษัทยังมุ่งค้นหาโอกาสและความร่วมมืออื่นๆ เพิ่มเติมผ่านโครงสร้างการถือหุ้นที่มีอยู่ ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
thunhoon
TUไฮซีซันหนุนQ3ดีด ลงทุน4พันลบ.เสริมแกร่ง 18/09/68
#TU #ทันหุ้น – TU รับอานิสงส์ช่วงไฮซีซัน หนุน Q3/2568 ผลดำเนินงานโต เดินหน้าควักงบ 4 พันล้านบาท ลงทุนเสริมแกร่ง แจง “มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น” ถือหุ้นขยับเป็น 20% ชี้เป็นโอกาสต่อยอดธุรกิจอาหารในอนาคต ด้านโบรกคาดกำไร Q3 สูงกว่าไตรมาสก่อน เหตุฤดูการขาย รับผลดีภาษีสหรัฐชัด หนุนลูกค้ากลับมาสั่งซื้อ – เริ่มเห็นผลจากการทำทรานส์ดันกรอสมาร์จิ้นเพิ่ม นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 3/2568 น่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลขาย (ไฮซีซัน) ทำให้ความต้องการ (ดีมานด์) ขยายตัว ส่วนเรื่องที่รัฐบาลไทย ได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐในการเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศไทยได้ 19% จากเดิมที่ 36% ซึ่งใกล้เคียงประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม ที่ 20% ประกอบกับเครือข่ายของธุรกิจในส่วนต่างๆ ทำให้มองว่ายังศักยภาพที่สามารถแข่งขันได้เป็นอย่างดี
-
kaohoon
TU จับมือ “กสิกรไทย” ปักธงนวัตกรรม Blue Finance Linked FX Forward ครั้งแรกในไทย 15/09/68
นายยงยุทธ เสฏฐวิวรรธน์ กรรมการผู้จัดการ ด้านการบริหารการเงินและศูนย์บริการร่วมทางการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า ความยั่งยืนคือหัวใจในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยน เพราะเป็น License to operate เปรียบเสมือนใบอนุญาตที่จะทำให้เราดำเนินธุรกิจได้ในโลกปัจจุบัน ภายใต้กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange®2030 ไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายจัดหาเงินทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้ได้ 75 เปอร์เซ็นต์ของการจัดหาเงินทุนระยะยาวภายในปี 2568 จึงเป็นที่มาของความร่วมมือในการเชื่อมโยงเป้าหมายการจัดหาแหล่งเงินทุนแบบ Blue Finance กับการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Blue Finance Linked FX Forward Contract) ซึ่งช่วยให้ไทยยูเนี่ยนสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายด้านสัดส่วนแหล่งเงินทุนแบบ Blue Finance ที่มีความชัดเจนและสามารถวัดผลได้ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินใหม่ในตลาดทุนไทย ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่น ๆ ในการนำแนวคิดด้านความยั่งยืนมาประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้มีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงที่อ้างอิงเป้าหมายด้านการสนับสนุนกิจกรรมด้าน ESG ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งนับเป็นธุรกรรมที่ตอบโจทย์การดำเนินงานของธนาคารบนหลักการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน ที่พร้อมจะสนับสนุนลูกค้า ด้วยการเป็นผู้บุกเบิกการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี ในครั้งนี้ ธนาคารต่อยอดการสร้างนวัตกรรมทางการเงินที่สนับสนุนการใช้แหล่งเงินทุนแบบ Blue Finance
-
mitihoon
TU มิตซูบิชิขอแจมถือหุ้นใหญ่ เสริมกำลังขยายตลาด 10/09/68
มิติหุ้น-TU โดย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่ากรณี บ. มิตซูบิชิ (MC) เริ่มต้นข้อเสนอรับซื้อหุ้นทั่วไป : MC แจ้งว่าจะเริ่มต้นเสนอซื้อหุ้นทั่วไปของ TU จำนวนไม่เกิน 532,273,639 หุ้น คิดเป็น 13.81% ของหุ้นทั้งหมด ที่ราคารับซื้อ 12.50 บาท/ หุ้น ระยะเวลารับซื้อตั้งแต่วันที่ 8-26 ก.ย. 68 โดยจะยกเลิกข้อเสนอรับซื้อหุ้น หากวันสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อหุ้น หากจำนวนหุ้นทั้งหมดซึ่งผู้ถือหุ้นประสงค์จะขายมีจำนวนน้อยกว่า 532,273,639 หุ้น โดยหากสำเร็จ MC จะถือหุ้นเป็น 19.17%% เป็นอันดับ 1 ใน TU จะได้จำนวนที่นั่งเพิ่มในกรรมการจาก 1 เป็น 2 ที่ โดยผบห.ชี้แจงว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารแต่อย่างใด การบริหารยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมและผู้เกี่ยวข้องยังมีสัดส่วนรวมกันมากกว่า แต่คาดจะเห็นการร่วมมือกันในการขยายตลาด และสินค้าทั้งใน และนอกญี่ปุ่นมากขึ้นหลังการซื้อหุ้นเสร็จซึ่งคาดจะเห็นปีหน้าเป็นต้นไปทั้งกลุ่ม Frozen และอาหารสัตว์เลี้ยง ผบห. ปรับเป้าปีนี้ลง : สำหรับการดำเนินงานปี 2025 ผบห. ได้ปรับเป้าปี 2025 ใหม่หลังการประกาศภาษีนำเข้าสหรัฐ (รูปที่ 1) ภายใต้ยอดขายลดลง 1-2% อัตรากำไรขั้นต้น 18.5%-19.5% ค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขาย 13.5%-14%)
-
set
-
kaohoon
TU นำทัพ “ITC-TFM” รวมพลังต้านคอร์รัปชัน ตอกย้ำองค์กรโปร่งใส 08/09/68
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายชู ชง ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านกิจการกลุ่มบริษัท นายอดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU พร้อมตัวแทนผู้บริหารและพนักงานจากบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ร่วมแสดงพลังเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2568 จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เพื่อตอกย้ำถึงนโยบายต่อต้านการให้สินบนและการคอร์รัปชันของบริษัท พร้อมดำเนินงานภายใต้มาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตลอดจน ดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ณ อาคารเอสเอ็ม ทาวเวอร์
-
thunhoon
TU ทิสโก้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ คาดมีโอกาส synergy กับมิตซูบิชิเพิ่ม 05/09/68
#TU #ทันหุ้น-บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมถือ พร้อมให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 15.30 บาท จากความชัดเจนของ US tariff ที่ประกาศอยู่ที่ 19% ต่ำกว่าที่เคยกังวลไว้ที่ 36% และการที่ Mitsubishi Corporation (MC) เข้ามาเสนอซื้อหุ้นเพิ่ม แสดงถึงความมั่นใจในธุรกิจ TU และเพิ่มโอกาส synergy กับ MC นอกจากนี้คาดว่าผลประกอบการของ TU จะเริ่มฟื้นตัวในปี 2569 จากความสามารถของบริษัทในการพัฒนาสินค้าที่มีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดีในภาวะปัจจุบัน โดยฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ราว 4,384 ล้านบาท ลดลง 12% YoY จาก demand ที่อ่อนตัวและผลลบจากนโยบายภาษีนำเข้า ส่วนในปี 2569 คาดกำไรอยู่ที่ 5,083 ล้านบาท เติบโต 16% YoY จากสถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นคาดลดลงจากราคาทูน่าที่ปรับขึ้น ขณะเดียวกัน SG&A คาดเพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายด้านการตลาดและค่าขนส่งทางเรือ รวมถึงงบการตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่วนดีล MC กับ TU มองว่ามีโอกาส Synergy โดยจะได้เห็นในปี 2569 จาก 1) Marine products: ร่วมกับบริษัท Toyo Reizo (World’s largest trader ของ sashimi-grade tuna) และต่อยอดในตลาดสหรัฐที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นจำนวนมาก
-
iaa
-
thunhoon
TU เอเซีย พลัส มองกรณี”มิตซูบิชิ”ตอบรับข้อเสนอซื้อ คาดช่วงสั้นราคาแกว่งตัวแคบ 04/09/68
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์หุ้น TU ที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงการตอบรับอย่างเป็นทางการของ Mitsubishi Corporation(MC) ในการรับซื้อหุ้นทั่วไปของ TU จำนวน 532.27 ล้านหุ้น (สัดส่วน 11.95%ของหุ้นชำระแล้วทั้งหมด หรือ 13.81% ของหุ้นทั้งหมดซึ่งไม่รวมหุ้นซื้อคืน) ในราคารับซื้อ 12.50 บาท/หุ้น ซึ่งระยะเวลารับซื้อหุ้นกำหนดไว้15 วันทำการ ตั้งแต่ 8-26 ก.ย. 2568 โดยแต่งตั้งบล.บัวหลวงเป็นตัวแทนในการรับซื้อหุ้น และจะมีการส่งสำเนาเอกสารข้อเสนอรับซื้อหุ้นฉบับกระดาษให้แก่ผู้ถือหุ้นปัจจุบัน เป็นไปตามกระบวนการที่บริษัทเคยแจ้งว่าดีลนี้จะเสร็จภายใน ก.ย. นี้ และเป็นการรับซื้อแบบ General Offer หากมีผู้ถือหุ้นทั่วไปสนใจ แต่จะไม่มีการขายหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่ (กลุ่มครอบครัว) และหุ้นซื้อคืน (Treasury Stock) เพื่อมาสนับสนุนธุรกรรมดังกล่าว คงต้องติดตามว่า MC จะสามารถรับซื้อหุ้นได้ครบตามกำหนดหรือไม่ เนื่องจากจำนวนหุ้นที่ต้องรับซื้อมีมากถึง 532.27 ล้านหุ้น จากกลุ่มผู้ถือหุ้นทั่วไป ซึ่งไม่ได้มาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยหากซื้อได้ครบ จะทำให้ MC เข้าถือหุ้นใน TU เพิ่มเป็นสัดส่วน 20% และ TU จะกลายเป็นบริษัทย่อยของ MC แต่หากซื้อไม่ถึง 532.27ล้านหุ้น จนถึงสิ้นสุดวันรับซื้อ ข้อเสนอรับซื้อหุ้นจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
-
kaohoon
มิตซูบิชิ ทุ่ม 6.6 พันล้าน! เริ่มเดินหน้าเสนอซื้อหุ้น TU เพิ่ม ดันสัดส่วนถือครอง 20% 04/09/68
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU แจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าตามที่ TU ได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เกี่ยวกับเจตจำนงของ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ผู้ยื่นข้อเสนอฯ) ในการเข้าซื้อหุ้นของ TU เพิ่มเติม โดยการรับซื้อหุ้นเป็นการทั่วไป (ข้อเสนอรับซื้อหุ้น) โดยการทำข้อเสนอรับซื้อหุ้นดังกล่าวอย่างเป็นทางการนั้น ขึ้นอยู่กับความสำเร็จ (หรือการสละสิทธิ) ของเงื่อนไขบังคับก่อนต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในสารสนเทศครั้งก่อนดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 TU ได้รับแจ้งจากผู้ยื่นข้อเสนอฯอย่างเป็นทางการ ว่าเงื่อนไขบังคับก่อนทั้งหมดสำหรับการเริ่มต้นข้อเสนอรับซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการได้รับการปฏิบัติอย่างครบถ้วนแล้ว ในการนี้ ผู้ยื่นข้อเสนอฯ จึงดำเนินการเริ่มต้นข้อเสนอรับซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยกำหนดราคารับซื้อหุ้นที่ 12.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากราคารับซื้อหุ้นเดิมที่ได้ระบุไว้ ในสารสนเทศที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ผู้ยื่นข้อเสนอฯ) มีความประสงค์จะรับซื้อหุ้นของ TU จำนวน 532,273,639 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 13.81 ของจำนวนหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมดของ กิจการ (ไม่รวมหุ้นซื้อคืนที่กิจการถืออยู่) ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ยื่นข้อเสนอฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นรวมในกิจการเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20.00 ของจำนวนหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมดของกิจการ (ไม่รวมหุ้นซื้อคืนที่กิจการถืออยู่) รวมเป็นเงิน 6,653,420,487.50 ล้านบาท
-
thunhoon
TU เผย”มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น” เปิดรับซื้อหุ้น 8-26 ก.ย. ในราคา 12.50 บาท 04/09/68
#TU #ทันหุ้น-บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ TU แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น(ผู้ยื่นข้อเสนอ) ได้แสดงเจตจำนงในการเข้าซื้อหุ้นบริษัท เพิ่มเติมในจำนวน 532,273,639 หุ้น หรือคิดเป็น 13.81% ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ยื่นข้อเสนอ มีสัดส่วนการถือหุ้นรวมในกิจการเพิ่มขึ้นเป็น 20% โดยเป็นการรับซื้อหุ้นเป็นการทั่วไปนั้น เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2568 บริษัทได้รับแจ้งจากผู้ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการว่า เงื่อนไขบังคับก่อนทั้งหมดสำหรับการเริ่มต้นข้อเสนอรับซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการได้รับการปฏิบัติอย่างครบถ้วนแล้ว ในการนี้ ผู้ยื่นข้อเสนอฯ จึงดำเนินการเริ่มต้นข้อเสนอรับซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการแล้วโดยกำหนดราคารับซื้อหุ้นที่ 12.50 บาทต่อหุ้นซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากราคารับซื้อหุ้นเดิมที่ได้ระบุไว้ในสารสนเทศที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนหน้านี้ ข้อเสนอรับซื้อหุ้นนี้จะดำเนินการตามลำดับก่อนหลัง (First-come, Firstserved) และจะเปิดให้ตอบรับข้อเสนอรับซื้อหุ้นเป็นระยะเวลา 15 วันทำการ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 และสิ้นสุดวันที่ 26 กันยายน 2568 (รวมวันแรกและวันสุดท้าย)
-
set
-
oppday
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
set
-
hoonsmart
-
iaa
-
mitihoon
TU ฝ่ามรสุมรุมเร้า โบรกอัพเป้ากำไร 14/08/68
-
iaa
-
set
-
iaa
-
thunhoon
TU มุมมองโบรกหลังแจ้งงบฯไตรมาส 2/68 06/08/68
สำหรับกำไรก่อนรายการพิเศษครึ่งปีแรก 2568 ลดลง 9% YoY และคิดเป็น 50% ของกำไรทั้งปี บล.ทิสโก้ยังคงประมาณการเดิม คาดกำไรปี 2568 อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท (-12% YoY) จากผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อ demand ที่ลดลง และปัจจัยลบจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ คาดกำไรสุทธิปี 2569 จะกลับมาเพิ่มขึ้น 16%YoY จากสถานการณ์การต่างๆเริ่มปรับตัว คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นลดลงจากราคาปลาทูน่าที่คาดที่ 1,600 US$/tons เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 11% สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดและค่าขนส่งทางเรือที่เพิ่มขึ้น (บริษัทมีการขายสินค้าเป็น FOB ส่วนใหญ่ และบางธุรกิจเป็น CIF คิดเป็น 3% ของค่าใช้จ่ายรวม) และการทำการตลาดเพิ่มขึ้น และคาดอัตราภาษีจ่ายที่ 12%
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
kaohoon
-
set
-
kaohoon
สรุป SET100 เช้านี้ TU บวกสูงสุด 7% 05/08/68
-
kaohoon
-
thunhoon
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
TU ทรีนีตี้ชี้กำไร Q2/68 ดีกว่าคาด ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12.40 บาท 04/08/68
#TU #ทันหุ้น-บล.ทรีนีตี้ ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ที่รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 1,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% QoQ และเพิ่มขึ้น 4% YoY ซึ่งกำไรออกมาดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าราว 16% เป็นผลจากปริมาณขายที่ดีขึ้นของธุรกิจหลัก ทั้งอาหารทะเลแปรรูป อาหารทะเลแช๋แข็ง และอาหารสัตว์เลี้ยง ส่งผลให้รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นเติบโต
-
hoonsmart
TU กำไร1,272 ลบ.Q2/68 มาร์จิ้นสูงลิ่ว19.7%ปันผลกลางปี 35 สต.แจกกว่า 3% 04/08/68
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง มียอดขายรวม 10,034 ล้านบาท จากความต้องการกุ้งในตลาดสหรัฐฯ ที่ลดลง อย่างไรก็ดี กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ยังคงสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ในระดับที่น่าพอใจที่ 11.7% ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง มียอดขายรวม 4,387 ล้านบาท โดยปริมาณการขายเติบโต 10%เมื่อเทียบกับปีก่อน จากความต้องการของลูกค้ารายสำคัญในสหรัฐฯ อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดีที่ 25.6%และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า มียอดขายรวม 2,371 ล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้นยังคงความแข็งแกร่งที่ 26.3%จากอัตรากำไรที่สูงขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ที่มาจากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้วัตถุดิบเหลือใช้จากการผลิต
-
mitihoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
#TU แจ้งงบ Q2/68 กำไรแตะ 1.2 พันล. 04/08/68
-
thunhoon
-
fin
-
thunhoon
-
set
การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 04/08/68
-
set
-
set
-
kaohoon
-
set
-
set
-
set
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
set
-
kaohoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TU โบรกคาดการณ์ไตรมาส 2/68 31/07/68
คาดว่ายอดขายไตรมาส 2/2568 จะหดตัวลง 4.6%YoY จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แม้ยอดขายสกุลเงินอื่น ๆ จะเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 13% QoQ จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในทุกหมวดสินค้า
-
mitihoon
TU จ่อคลอดบลูบอนด์ ลดต้นทุนดอกเบี้ย 30/07/68
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
mitihoon
-
iaa
-
iaa
-
hoonsmart
5 โบรกฯชี้ชัด ! TU กำไร Q2 ฟื้นจากไตรมาสแรก ผลงาน H2/68 ดีขึ้นไปอีก 02/07/68
บล.พาย แนะ”ซื้อ”หุ้น TU ราคาหุ้นลงมารับความกังวลอัตราภาษีของสหรัฐฯไปมากแล้ว คาดจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นในช่วงต้นเดือนก.ค.นี้ โดยคาดว่าจะไม่ถึงระดับสูงสุดที่เคยประกาศไว้ที่ 36% ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิคาดที่ 1,142 ล้านบาท ลดลง 6% YoY แรงกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้น 12% QoQ เป็นผลจากการฟื้นตัวของทุกธุรกิจหลังเข้าสู่ช่วง High Seasons
-
mitihoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
kaohoon
-
mitihoon
-
set
แจ้งครบกำหนดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน 01/07/68
ข้อสงวนสิทธิ์ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำและเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 30/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 30 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 30 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 10,000,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.60 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.20 มูลค่ารวม(บาท) : 104,296,760.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 400,038,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 8.98 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 4,309,154,060.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 27/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 27 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 27 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 6,916,600 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.20 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 70,022,700.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 390,038,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 8.75 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 4,204,857,300.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 26/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 26 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 26 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 5,903,300 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.20 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.95 มูลค่ารวม(บาท) : 59,836,345.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 383,122,300 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 8.60 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 4,134,834,600.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
kaohoon
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 25/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 25 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 25 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 4,434,400 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 9.95 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.75 มูลค่ารวม(บาท) : 43,824,295.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 377,219,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 8.47 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 4,074,998,255.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 24/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 24 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 24 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 4,724,900 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 9.55 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.20 มูลค่ารวม(บาท) : 44,275,305.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 372,784,600 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 8.37 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 4,031,173,960.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 20/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 20 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 20 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 6,734,100 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 8.95 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 8.95 มูลค่ารวม(บาท) : 60,270,195.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 368,059,700 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 8.26 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,986,898,655.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 19/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 19 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 19 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 5,203,800 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 9.15 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.10 มูลค่ารวม(บาท) : 47,403,925.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 361,325,600 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 8.11 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,926,628,460.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
kaohoon
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 16/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 16 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 16 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 18,500,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 185,000,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 356,121,800 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 7.99 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,879,224,535.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
hoonsmart
TU ปลุกพลังทุกภาคส่วน ร่วมดูแลมหาสมุทร เดินหน้ากลยุทธ์ความยั่งยืน 16/06/68
สำหรับผลงานด้านความยั่งยืนที่โดดเด่นในปี 2567 ของไทยยูเนี่ยน ประกอบด้วย • 98.9 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณปลาทูน่าทั้งหมดที่บริษัทจัดซื้อ มาจากแหล่งประมงที่ผ่านการรับรองและการประเมินผลตามมาตรฐานจาก MSC หรือโครงการพัฒนาการประมง (Fishery Improvement Program; FIPs) ซึ่งเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2566 • สามารถตรวจสอบ on-the-water monitoring ในห่วงโซ่อุปทานปลาทูน่าของบริษัทฯได้ถึง 97 เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในปี 2568 (โดยในปี 2567 สามารถขับเคลื่อนได้เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ลง 21 เปอร์เซ็นต์ • โรงงานและศูนย์กระจายสินค้าของไทยยูเนี่ยนจำนวน 23 แห่งจากทั้งหมด 32 แห่ง สามารถบรรลุเป้าหมายเรื่องการทำขยะฝังกลบเป็นศูนย์ในปี 2567 • เปิดตัว “โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มกุ้ง” (Lower Carbon Shrimp Program) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตกุ้ง ในขอบเขตที่ 3 • ลดปริมาณขยะพลาสติกในแม่น้ำและมหาสมุทรได้ 234 ตัน
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 13/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 13 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 13 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 9,520,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 95,200,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 337,621,800 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 7.58 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,694,224,535.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 12/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 12 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 12 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 11,000,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 110,000,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 328,101,800 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 7.36 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,599,024,535.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 11/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 11 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 11 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 7,000,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 70,000,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 317,101,800 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 7.12 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,489,024,535.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
kaohoon
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 06/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 06 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 06 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 6,768,500 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 67,685,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 310,101,800 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 6.96 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,419,024,535.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 05/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 05 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 05 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 5,000,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 50,000,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 303,333,300 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 6.81 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,351,339,535.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 04/06/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 04 มิ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 04 มิ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 497,200 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 4,972,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 298,333,300 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 6.70 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,301,339,535.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 30/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 30 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 30 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 16,977,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.85 มูลค่ารวม(บาท) : 169,548,735.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 297,836,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 6.69 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,296,367,535.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
hoonsmart
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 28/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 28 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 28 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 1,400,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 14,000,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 280,859,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 6.30 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,126,818,800.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
thunhoon
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 27/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 27 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 27 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 5,500,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 55,000,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 279,459,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 6.27 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,112,818,800.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
kaohoon
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 26/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 26 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 26 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 3,550,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 35,500,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 273,959,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 6.15 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,057,818,800.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 23/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 23 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 23 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 12,051,700 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.85 มูลค่ารวม(บาท) : 120,203,530.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 270,409,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 6.07 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,022,318,800.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 22/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 22 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 22 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 7,500,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 75,000,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 258,357,400 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 5.80 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,902,115,270.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 21/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 21 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 21 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 6,130,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.90 มูลค่ารวม(บาท) : 61,168,930.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 250,857,400 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 5.63 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,827,115,270.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 20/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 20 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 20 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 5,036,100 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.95 มูลค่ารวม(บาท) : 50,282,880.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 244,727,400 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 5.49 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,765,946,340.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
iaa
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 19/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 19 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 19 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 6,096,800 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.10 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.95 มูลค่ารวม(บาท) : 61,250,995.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 239,691,300 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 5.38 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,715,663,460.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 16/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 16 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 16 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 1,100,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.10 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.10 มูลค่ารวม(บาท) : 11,110,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 233,594,500 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 5.24 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,654,412,465.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 15/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 15 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 15 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 3,011,300 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.10 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.10 มูลค่ารวม(บาท) : 30,414,130.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 232,494,500 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 5.22 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,643,302,465.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 15/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 15 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 15 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 3,011,300 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.10 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.10 มูลค่ารวม(บาท) : 30,414,130.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 232,494,500 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 5.22 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,643,302,465.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
thunhoon
-
iaa
-
kaohoon
TU ยกระดับสู่การเงินสีฟ้า 14/05/68
-
oppday
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
mitihoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
#TU แจ้งงบ Q1/68 กำไรแตะ 1 พันล. 09/05/68
-
hoonsmart
TU กำไร 1,019 ลบ. ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงโต ชูอัตรากำไรขั้นต้นทำนิวไฮ Q1/68 09/05/68
HoonSmart.com>> “ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” (TU) เปิดงบไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิ 1,019 ล้านบาท ยอดขาย 29,789 ล้านบาท ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตต่อเนื่อง หนุนกำไรสุทธิ (ไม่รวมค่าใช้จ่ายทรานฟอร์เมชั่น) เพิ่มขึ้น 9% ชูอัตรากำไรขั้นต้นแข็งแกร่งขยายตัว 18.8% ทำสถิติสูงสุด พร้อมด้วยการบริหารจัดการต้นทุนมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง หนุนงบดุลแกร่ง
-
thunhoon
-
fin
-
set
-
set
-
set
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 08/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 08 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 08 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 3,854,700 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.10 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.00 มูลค่ารวม(บาท) : 38,782,470.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 229,483,200 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 5.15 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,612,888,335.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
mitihoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 02/05/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 02 พ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 02 พ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 6,063,700 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.50 มูลค่ารวม(บาท) : 64,691,410.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 225,628,500 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 5.06 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,574,105,865.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 29/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 29 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 29 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 19,663,900 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.80 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.40 มูลค่ารวม(บาท) : 208,826,900.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 219,564,800 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.93 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,509,414,455.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 28/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 28 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 28 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 654,800 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 มูลค่ารวม(บาท) : 7,006,360.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 199,900,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.49 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,300,587,555.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
mitihoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 25/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 25 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 25 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 568,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 มูลค่ารวม(บาท) : 6,077,600.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 199,246,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.47 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,293,581,195.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 24/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 24 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 24 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 4,814,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.50 มูลค่ารวม(บาท) : 51,131,450.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 198,678,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.46 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,287,503,595.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 23/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 23 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 23 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 6,000,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.80 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 มูลค่ารวม(บาท) : 64,600,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 193,864,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.35 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,236,372,145.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 22/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 22 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 22 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 4,495,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.90 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.80 มูลค่ารวม(บาท) : 48,838,600.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 187,864,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.22 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,171,772,145.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 21/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 21 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 21 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 1,298,100 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.90 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.90 มูลค่ารวม(บาท) : 14,149,290.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 183,369,100 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.12 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,122,933,545.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
iaa
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 18/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 18 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 18 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 6,134,500 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 11.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 มูลค่ารวม(บาท) : 66,983,440.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 182,071,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.09 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,108,784,255.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 17/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 17 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 17 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 6,274,300 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.80 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.40 มูลค่ารวม(บาท) : 66,695,100.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 175,936,500 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 3.95 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 2,041,800,815.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
iaa
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 16/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 16 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 16 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 543,300 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.70 มูลค่ารวม(บาท) : 5,813,310.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 169,662,200 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 3.81 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 1,975,105,715.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 09/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 09 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 09 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 1,859,300 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.50 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.40 มูลค่ารวม(บาท) : 19,486,720.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 169,118,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 3.80 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 1,969,292,405.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
-
kaohoon
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 08/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 08 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 03 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 08 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 13,609,400 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.50 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 9.60 มูลค่ารวม(บาท) : 138,808,875.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 167,259,600 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 3.75 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 1,949,805,685.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
thunhoon
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 04/04/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 04 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 25 ธ.ค. 2567 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 200,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.49 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 04 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 2,766,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 10.42 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 10.42 มูลค่ารวม(บาท) : 28,822,300.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 153,650,200 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 3.45 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 1,810,996,810.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายรพีพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
thunhoon
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
set
แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (แก้ไข) 03/04/68
โครงการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : ซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน วันที่คณะกรรมการมีมติ (แก้ไข) : 03 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) (แก้ไข) : 445,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 (แก้ไข) วงเงินซื้อหุ้นคืน(ล้านบาท) (แก้ไข) : 5,000.00 วันที่เริ่มต้น - วันที่สิ้นสุดการซื้อหุ้นคืน : วันที่ 02 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2568 หมายเหตุ (แก้ไข) : จากเดิมคณะกรรมการบริษัทมีมติที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
thunhoon
-
kaohoon
TU คว้าเรตติ้ง “ตราสารหนี้ระยะยาว” ระดับ A แนวโน้มเสถียรภาพ 03/04/68
ขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยนในปี 2567 ฟื้นตัวตามที่ JCR คาดการณ์ไว้ โดยที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการประกาศเปิดตัวกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างการเติบโตครั้งสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายทำยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.45 แสนล้านบาท (US$7billion) ภายในปี 2573 และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น 100% จากประมาณ 14,000 ล้านบาท (US$400 million) เป็น 24,500 – 28,000 ล้านบาท (US$700-US$800 million) เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล
-
hoonsmart
JCR คงอันดับหุ้นกู้ตปท.TU ที่ระดับ A ยืนยันศักยภาพธุรกิจโตได้ต่อเนื่อง 03/04/68
HoonSmart.com>>JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยยูเนี่ยนสำหรับตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศระดับ A แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพต่อเนื่อง ยืนยันธุรกิจมีศักยภาพเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ได้รับการประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศระดับ A แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพต่อเนื่อง จาก Japan Credit Rating หรือ JCR ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตและมีธุรกิจอันหลากหลายอยู่ทั่วโลก ทั้งนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศนี้เป็นอันดับเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ได้รับจาก JCR พร้อมกันนี้ JCR ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินในประเทศของบริษัทไว้ที่ระดับ A แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพเช่นเดียวกัน โดย JCR ได้ระบุว่าสาเหตุที่ไทยยูเนี่ยนได้รับการคงอันดับความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทลงทุนในเรื่องของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีศักยภาพ รวมถึงความมั่นคงในการสร้างผลกำไรอันเป็นผลมาจากความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก ทั้งด้านการผลิต การจัดหาวัตถุดิบ และการทำตลาดด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยนในปี 2567 ฟื้นตัวตามที่ JCR คาดการณ์ไว้ โดยที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการประกาศเปิดตัวกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างการเติบโตครั้งสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายทำยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.45 แสนล้านบาท (US$7billion) ภายในปี 2573 และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น 100% จากประมาณ 14,000 ล้านบาท (US$400 million) เป็น 24,500 – 28,000 ล้านบาท (US$700-US$800 million) เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน (TU) กล่าวว่า การที่ JCR ให้การคงอันดับเครดิตของเราที่ A และมีแนวโน้มมีเสถียรภาพอีกครั้ง นับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถในการปรับตัวในสถานการณ์ที่ท้าทายและการเดินหน้ากลยุทธ์ใหม่โดยมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่สำคัญ ด้วยการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ และรักษาความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับไทยยูเนี่ยนและรักษาความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจให้ไทยยูเนี่ยนขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล
-
hoonsmart
เตือนรับมือทรัมป์ขึ้นภาษีกระทบไทย 2 แสนลบ. เป้าใหญ่เกษตร ทิสโก้คาด TU-ITC-AAI 02/04/68
บล.ทิสโก้ คาดว่าประเทศไทยมีโอกาสได้รับผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีอากรนำเข้าของสหรัฐฯ คาดหุ้นที่อาจจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ TU, ITC และ AAI กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงคาดกระทบเกือบทั้งอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มอาหารทะเลและปลาทูน่า แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” AAI, ITC และ TU ราคาเป้าหมาย 6.5 บาท, 22 บาท และ 14.8 บาท ตามลำดับ จากราคาหุ้นปัจจุบันลดลงมาค่อนข้างต่ำสะท้อนปัจจัยลบต่างๆแล้ว และความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่คาดเติบโตเฉลี่ยปีละ 6%
-
hoonsmart
เตือนรับมือทรัมป์ขึ้นภาษีกระทบไทย 2 แสนลบ. เป้าใหญ่เกษตร ทิสโก้คาดTU-ITC-AAI 02/04/68
บล.ทิสโก้ คาดว่าประเทศไทยมีโอกาสได้รับผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีอากรนำเข้าของสหรัฐฯ คาดหุ้นที่อาจจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ TU, ITC และ AAI กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงคาดกระทบเกือบทั้งอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มอาหารทะเลและปลาทูน่า แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” AAI, ITC และ TU ราคาเป้าหมาย 6.5 บาท, 22 บาท และ 14.8 บาท ตามลำดับ จากราคาหุ้นปัจจุบันลดลงมาค่อนข้างต่ำสะท้อนปัจจัยลบต่างๆแล้ว และความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่คาดเติบโตเฉลี่ยปีละ 6%
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
set
-
kaohoon
-
set
รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 27/03/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 27 มี.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 30 มิ.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 25 ธ.ค. 2567 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 200,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 4.49 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 27 มี.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 4,416,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 11.30 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 11.10 มูลค่ารวม(บาท) : 49,445,140.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 150,884,200 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 3.39 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 1,782,174,510.00
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
-
mitihoon
TU รุกเจาะตลาดใหม่ ดันรายได้โตฉ่ำ 21/03/68
มิติหุ้น – TU หรือ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดย บล.โกลเบล็ก ระบุว่า โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตราว 3-4% หลังมีการทำตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งบริษัทยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
set
-
set
-
kaohoon
-
oppday
-
set
-
mitihoon
-
set
-
kaohoon
-
set
-
set
-
thunhoon
-
set
-
iaa
-
iaa
-
set
-
iaa
-
set
-
hoonsmart
-
iaa
-
set
-
thunhoon
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
TUเปิดโครงสร้างธุรกิจและผลงานปี67 17/02/68
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
set
-
fin
-
mitihoon
-
thunhoon
-
set
-
mitihoon
#TU แจ้งงบปี 67 กำไรแตะ 4.98 พันล. 17/02/68
-
set
แจ้งกรรมการลาออก และแต่งตั้งกรรมการ 17/02/68
-
set
-
set
-
set
-
set
งบการเงิน ประจำปี 2567 (ตรวจสอบแล้ว) 17/02/68
-
set
-
set
-
iaa
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
set
-
set
-
set
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
thunhoon
TU พบนักวิเคราะห์ เปิดมุมมอง 13 โบรก 16/01/68
คงคำแนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 13.70 บาท อิงกับ P/E ปี 2568 ที่ 13.2 เท่า (Mean 5 ปี) โดยประเมินกำไรสุทธิปี 24 ลดลง -1% YoY ซึ่งเท่ากับประมาณการเดิม แต่ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568-69 ลงปีละ 10% สะท้อนอัตราภาษีรายได้ฯที่เพิ่มขึ้นตาม Global Minimum Tax Rate ไม่ต่ำกว่า 15%ซึ่งทำให้ทำให้กำไรสุทธิปี 68 ลดลง -5% แล้วค่อยกลับไปเติบโต +15% ในปี 69
-
iaa
-
iaa
-
kaohoon
-
iaa
-
iaa
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
set
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
mitihoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
set
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
TU ทรานส์ฟอร์มฟอร์โกรท 16/11/67
ตามเป้าหมายดังกล่าวนี้ TU จะทรานส์ฟอร์เมชันผ่าน 2 โปรเจกต์ คือ 1.โปรเจกต์โซนาร์ (Project Sonar) มุ่งวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในระยะยาว โดยจะลดต้นทุนเฉลี่ยต่อปีให้ได้ 2,625 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2669 เป็นต้นไป ทั้งนี้ประมาณ 40% ของเงินส่วนนี้จะถูกนำกลับมาลงทุนเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายธุรกิจต่อไป
-
hoonsmart
-
hoonsmart
TU เพิ่มเป้ามาร์จิ้นปีนี้ 18.5-19% หั่นการเติบโตยอดขายสอดรับบาทแข็ง Q3 13/11/67
น.ส.ภิญญดา แสงศักดาหาญ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการทบทวนเป้าหมายปี 2567 โดยได้ปรับลดเป้าหมายารเติบโตของยอดขายปีนี้ (2567) เติบโต 3-4% YoY จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้จะเติบโต 4-5% YoY เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยการปรับนี้เป็นแค่เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (FX) ขณะเดียวกันได้ปรับเพิ่มเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit margin) ขึ้นเป็น 18.5-19% จากเป้าเดิม 18-18.5% ส่วนค่าใช้จ่าย (SG&A to sales) ปรับเพิ่มเป้าหมายไปที่ 12.5-13% จากเป้าเดิม 12-12.5% เนื่องจาก 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเป้าหมาย ด้าน Effective interest rate คงเป้าเดิมสูงขึ้น 0-0.5% และงบลงทุนปีนี้ปรับเป้าลงเหลือประมาณ 3.5-4.0 พันล้านบาท จากเป้าเดิมตั้งงบลงทุนไว้ 4-4.5 พันล้านบาท เนื่องจากไม่มีการสร้างโรงงานใหม่
-
thunhoon
-
mitihoon
TU วางเป้าปี 2030 ผลงานโตเท่าตัว 11/11/67
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
mitihoon
-
thunhoon
TU มุมมองโบรกหลังแจ้งกำไรตามคาด 07/11/67
-
mitihoon
TU กำไรQ3 พุ่ง 16% ทะลุ 1,400 ล้าน 06/11/67
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
น่ากลัว 06/11/67
-
mitihoon
TU เปิดโรงงานใหม่ ลุยสินค้าready-to-eat 21/10/67
มิติหุ้น – TU โดย บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี 2025E ที่ 18.50 บาท อิง SOTP มองเป็นกลางจากการเยี่ยมชมโรงงาน Culinary ใหม่ของ TU เมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) จากทิศทางโดยรวมยังเป็นไปตามแผน โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1) โรงงาน Culinary ใหม่ เริ่มดำเนินการผลิตอย่างเป็นทางการตามแผนตั้งแต่ ก.ค. 2024 โดยเป็นโรงงานหลักของบริษัทในการผลิตสินค้า ready-to-eat และ ready-to-cook ทั้งนี้โรงงานดังกล่าวเกิดจากการรวมกันของ 3 โรงงานเดิมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และ 2) แม้ปัจจุบันรายได้โดยรวมของกลุ่ม Value-added จะคิดเป็นเพียง 7% ของรายได้รวม แต่มีแนวโน้มการเติบโตดี โดยตั้งเป้ารายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์จากโรงงานใหม่ดังกล่าวในปี 2025E จะโต +10-20% YoY ขณะที่มี GPM โดยเฉลี่ยยังค่อนข้างสูงราว 20%+
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
mitihoon
-
kaohoon
โบรกเกอร์แห่อัพราคาหุ้น TU 07/09/67
โบรกเกอร์ต่างปรับราคาเป้าหมายของ TU ในปี 2567 ขึ้น โดยบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดกำไรปกติปี 2567 ที่ 5,965 ล้านบาท เติบโต 5.8% YoY ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ขึ้นเป็น 17.20 บาท ตามการปรับขึ้นราคาเหมาะสมของ ITC ทั้งนี้การยืมเงินจาก ITC เพื่อบริหารจัดการเงินในกลุ่มและลดดอกเบี้ยจ่ายเพื่อบริหารจัดการเงินภายในกลุ่ม โดย TU มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ Refinance หนี้ที่มีอยู่ เพื่อช่วยลดดอกเบี้ยจ่าย เนื่องจากดอกเบี้ยจะต่ำกว่าดอกเบี้ยของบริษัทปัจจุบันที่เฉลี่ยอยู่ที่ราว 3.8% แต่ต้องรอการอนุมัติจากประชุมผู้ถือหุ้นของ ITC ในวันที่ 30 ก.ย. ก่อน
-
thunhoon
TUอัพเป้ารายได้ใหม่โต5% อัดงบ4.5พันล.ขยายลงทุน 20/08/67
นางสาวภิญญดา แสงศักดาหาญ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการเป้าหมายรายได้ปี2567 เป็นเติบโตราว 5% จากเดิมที่วางไว้ขยายตัว 3-4% เมื่อเทียบกับปี 2566 หลังช่วงครึ่งแรกปีนี้ธุรกิจมีรายได้แล้วราว 6.9 หมื่นล้านบาท ประกอบมองในช่วงที่เหลือปีนี้ธุรกิจในทุกกลุ่มยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
-
kaohoon
-
thunhoon
เจาะ 2H67 หุ้น "TU" ประเด็นสำคัญจากประชุมนักวิเคราะห์? 08/08/67
#ทันหุ้น - บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ส่องหุ้น TU จากการประชุมนักวิเคราะห์เช้านี้ ผู้บริหารให้มุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินงาน 2H67 จะดีกว่า 1H67 ทั้งในส่วนยอดขาย และมาร์จิ้นดีขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายขายบริหารลดลง ภายใต้เป้าหมายการเงินใหม่ปีนี้คาดยอดขายเติบโต 4-5% yoy, Gross margin 18-18.5%, SGA/Sales 12-12.5% และ Tax Rate 6-8%
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
TU เปิดโรงงานต้อนรับกระทรวงแรงงาน 31/07/67
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
kaohoon
7 โบรกเชียร์ซื้อ TU อัพเป้าสูง 19.70 บ. คาดกำไรไตรมาส 2 ทะลุพันล้านบาท 07/07/67
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันที่ (5 ก.ค. 67) โดยคาดว่ากำไรปกติของ TU ในไตรมาส 2/2567 จะอยู่ที่ 1.17 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน โดยคาดว่า รายได้จะเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และ7% จากไตรมาสก่อน เป็น 3.54 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมาจากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจการดูแลสัตว์เลี้ยงจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในสหรัฐ และ EU ยกเว้นธุรกิจอาหารทะเล แช่แข็งซึ่งคาดว่ายอดขายจะลดลง 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เพราะกลยุทธ์การกำหนดขนาดที่ เหมาะสม (right-sizing strategy) และ อุปสงค์ที่อ่อนแอในสหรัฐ
-
kaohoon
7 โบรกเชียร์ซื้อ TU อัพเป้าสูง 19.707 บ. คาดกำไรไตรมาส 2 ทะลุพันล้านบาท 07/07/67
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันที่ (5 ก.ค. 67) โดยคาดว่ากำไรปกติของ TU ในไตรมาส 2/2567 จะอยู่ที่ 1.17 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน โดยคาดว่า รายได้จะเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และ7% จากไตรมาสก่อน เป็น 3.54 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมาจากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจการดูแลสัตว์เลี้ยงจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในสหรัฐ และ EU ยกเว้นธุรกิจอาหารทะเล แช่แข็งซึ่งคาดว่ายอดขายจะลดลง 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เพราะกลยุทธ์การกำหนดขนาดที่ เหมาะสม (right-sizing strategy) และ อุปสงค์ที่อ่อนแอในสหรัฐ
-
thunhoon
-
thunhoon
TU โบรกแนะนำ "ซื้อ" เป้า 17.60 บ. 05/07/67
-
mitihoon
TU โบรกฟันธงQ2แกร่ง ธุรกิจอาหารทะเล 05/07/67
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
สังคมข่าวหุ้น 03/07/67
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
mitihoon
-
thunhoon
15 บจ. ซื้อหุ้นคืน 6,630 ลบ. 26/06/67
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
ภาพเดิมที่คุ้นเคย! 07/06/67
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
mitihoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
kaohoon
สังคมข่าวหุ้น 10/04/67
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
TU ลุ้นกำไรปี 67 แตะ 6.2 พันล้าน รับยอดขายพุ่ง-ต้นทุนลด โบรกเคาะเป้า 20 บาท 01/04/67
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประมาณการกำไรปกติปีในปี 2567 ของบริษัท TU อยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงสมมติฐานใกล้เคียงเป้าหมายบริษัท ได้แก่ รายได้เติบโต 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 18% เทียบกับเป้าหมายของบริษัทที่วางไว้ว่าจะเติบโต 3-4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนไตรมาส 2/2567 คาดการร์ว่าจะเติบโต 17-18%
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
TU น่าสนไหม 2 โบรกมองอย่างไร? 01/04/67
-
thunhoon
2 หุ้นแนะนำจาก บล.พาย 01/04/67
-
mitihoon
-
mitihoon
TU ราคาน่าช้อป อาหารทะเลโดดเด่น 01/04/67
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
กลุ่มส่งออกอาหารขยับขึ้น รับบาทอ่อนค่า-การผลิตโลกฟื้น 22/03/67
ทั้งนี้ มองว่า ITC มี 3 ปัจจัยหนุนที่ช่วยชดเชยค่าเสื่อมราคาที่ปรับขึ้น ได้แก่ รายได้ที่กลับมาเติบโต และ Margin ที่ขยายตัวจากต้นทุนทูน่าที่ลดลงรวมถึงบาทอ่อน ส่วนคำสั่งซื้อของลูกค้าสหรัฐฯ และยุโรป คาดว่าจะโตได้ตามเป้า จึงยังคาดกำไรปี 67 ฟื้นตัวแรงเป็น 3.2 พันล้านบาท +41% YoY
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
TU รับ 2 รางวัลด้านความยั่งยืน 18/03/67
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
หุ้นเด่นเดือน มี.ค. 05/03/67
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
thunhoon
2 หุ้นแนะนำจาก บล. พาย 22/01/67
-
kaohoon
TU ยอมเจ็บ..เพื่อจบ.! 18/01/67
-
kaohoon
-
thunhoon
2 หุ้นแนะนำจาก บล.พาย 17/01/67
-
thunhoon
มุมมอง 6 โบรก TU เลิก Red Lobster 17/01/67
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
TU ถอนการลงทุนใน Red Lobster 16/01/67
-
thunhoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
mitihoon
TU โบรกฟันธงQ4แรง กำไรพีคสุดของปี 01/12/66
-
kaohoon
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
-
mitihoon
TU ยอดขายQ4พีคแรง ท็อปฟอร์มรายไตรมาส 07/11/66
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
mitihoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
เวลา & โอกาส 05/10/66
-
thunhoon
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
จับตา TU-BH 29/09/66
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
จิตใจดี 13/09/66
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
TU ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้นตัว รับต้นทุนลด โบรกแนะ “ซื้อ” ชูเป้า 17 บาท 08/08/66
โดยมีรายได้รวมเติบโตได้ราว 4% จากไตรมาสก่อน อ่อนตัว 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน โดยยอดขายธุรกิจอาหารทะเลกระป๋องปรับตัวดีขึ้นจากการปรับขึ้นราคาขายและปัจจัยบวกด้านฤดูกาล แต่ยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงและยอดขายผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มปรับตัวลง ทั้งจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จากการที่ลูกค้าในสหรัฐฯ และยุโรป มีการระบายสินค้าคงคลัง และความต้องการซื้อที่ชะลอตัว
-
thunhoon
TUแจกปันผล0.30บ. โค้งสองกำไรพันล้าน 08/08/66
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
เปิดโผ "4 หุ้นส่งออก" จังหวะช้อน 04/08/66
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
TU ขาย (ITC) สูง..ซื้อต่ำ.!? 11/05/66
มิหนำซ้ำ ผู้บริหารยังปรับลดเป้าหมายในปี 2566 ลงอีก ทั้งในเรื่องอัตราการเติบโตยอดขายอยู่ที่ 0 ถึง -1% (เดิมคาดโต 15-17%) ปรับลดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลงอยู่ที่ 22.5-23.5% (เดิม 25%) และปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขายและการบริหาร (SG&A) อยู่ที่ 6.0-7.0% (เดิม 5.5-6.5%)
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
TU วิ่งต่อ 1% โบรกชี้กำไรปีนี้ 7.6 พันล้าน แนะนำ “ซื้อสะสม” เป้า 21.20 บ. 21/02/66
ดังนั้นคงราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 21 บาท อิง PBV 1.6 เท่า แม้ว่าการเติบโตของกําไรจะไม่สูง แต่ราคาหุ้นปัจจุบันยังพอมี Upside บวกกับปันผลสำหรับผลการดําเนินงานครึ่งปีหลังที่บริษัทประกาศจ่ายอีก 0.44 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 มี.ค. 66 คิดเป็น Residual Dividend Yield อีก 2.75% จึงยังคงคำแนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
ITC เคาะราคาไอพีโอ 32 บาท ระดมทุน 2 หมื่นลบ. ขยายฐาน-ต่อยอดนวัตกรรม “อาหารสัตว์” 28/11/65
ทั้งนี้ ไอ-เทล มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยรายได้จากยอดขายรวมเสมือนในปี 64 ที่ 14,529 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ 6.6% ต่อปี โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 บริษัทมีรายได้จากยอดขายรวมเสมือน 15,829 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเติบโตจากการขยายฐานลูกค้าใหม่และการเพิ่มขึ้นของจำนวนคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่จากลูกค้าหลัก
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้ 21/10/65
AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 76.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64/65 คาดเห็นโมเมนตัมการฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย ด้วยการยกเลิก Thailand Pass ช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่นักเดินทาง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนคลี่คลายลงไปมาก ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว โดยจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารรวมในช่วง เดือน ก.ค.-./ก.ย. ยังคงเติบโตต่อเนื่อง YoY, MoM โดย 4Q64/65 เที่ยวบิน +340%YoY และผู้โดยสาร +1,649%YoY โดย ททท.คาดว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีโอกาสถึง 10 ล้านคน หากในช่วงที่เหลือของปีมีเข้ามากกว่า 1-1.5 ล้านคน/เดือน
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
TU บวก 5% มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10-12% เตรียมดัน “ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น” เข้าตลาด Q4 20/09/65
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องมียอดขายเติบโตประมาณ 10% เนื่องจากการปรับราคาขายที่สูงขึ้น รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่วนธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นไม่ค่อยดี เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้การบริโภคลดลง และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ายอดขายเติบโต 42% จากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่สูงขึ้นมาก จึงวางเป้าหมาย 5 ปีข้างหน้า ยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะมีการเติบโตปีละ 15%
-
hoonsmart
-
kaohoon
TU มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10-12% เตรียมดัน “ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น” เข้าตลาด Q4 20/09/65
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องมียอดขายเติบโตประมาณ 10% เนื่องจากการปรับราคาขายที่สูงขึ้น รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่วนธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นไม่ค่อยดี เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้การบริโภคลดลง และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ายอดขายเติบโต 42% จากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่สูงขึ้นมาก จึงวางเป้าหมาย 5 ปีข้างหน้า ยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะมีการเติบโตปีละ 15%
-
kaohoon
เช็ก 15 หุ้น “ได้-เสีย” เทศกาลกินเจ 20/09/65
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
TU : เทิร์นอะราวด์ปี 66 -นักวิเคราะห์คาดกำไรเกิน 7 พันล้านบ. 14/08/65
สำหรับผลงานในปี 2565 บริษัทมีการปรับเป้าหมายยอดขายทุกไตรมาส จากเดิมตั้งไว้ว่าจะเติบโต 4-5% ก่อนจะเพิ่มเป็น 7-8% หลังจบไตรมาสแรก ล่าสุด เพิ่มเป็น 10-12% เพราะครึ่งปีแรก ทำได้ถึง 12.3% รวม 75,217 ล้านบาท นิวไฮอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ออเดอร์ยังคงไหลเข้ามา ไตรมาส 3 เห็นความต้องการที่แข็งแรงอยู่ ในปีนี้คาดว่าจะทำได้ตามเป้า เนื่องจากบริษัทมีผลิตภัณฑ์อาหารให้เลือกมากมาย ราคาไม่แพง ผู้บริโภคมีความต้องการ ไม่ว่าอาหารทะเลกระป๋อง ร้านอาหารกลับมาเปิดบริการปกติ อาหารสัตว์เลี้ยงก็เติบโตสูงมากในครึ่งปีแรก สภาพแวดล้อมค่อนข้างเป็นบวก บริษัทได้ประโยชน์หลายด้าน ทั้งจากการปรับราคาสินค้า เงินบาทอ่อนค่า ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยมีเสนห์ น่าสนใจมากขึ้น ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ บริษัทฯให้การสนับสนุนและอยู่ในแผนธุรกิจเรียบร้อยแล้ว
-
thunhoon
-
kaohoon
TU อัพรายได้ปีนี้โต 12% มองครึ่งปีหลังดีมานด์แน่น หนุน “เรด ล็อบสเตอร์” พลิกกำไร 10/08/65
นางสาวรตินันท์ วงศ์วัชรานนท์ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 9 ส.ค.65 ว่า ผู้บริหารปรับประมาณการรายได้ในปี 65 สูงขึ้นเป็นเติบโต 10-12% จากเดิมคาดว่าเติบโต 7-8% เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกเติบโตไปแล้ว 12.3% มาที่ 75,217 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรกตามความต้องการของตลาดที่แข็งแกร่ง จึงเชื่อว่ายอดขายครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโต double digit ได้
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
จับทิศหุ้น "TU" สตอรี่ที่ต้องรู้!! 07/07/65
-
kaohoon
TU สะดุดตอ.! 06/07/65
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
5 โบรกฯส่อง TU กำไร Q2/65 เดี้ยง…กดดันหุ้นลบ 4.85% 04/07/65
พร้อมปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65-66 ลง มาอยู่ที่ 6,307 ล้านบาท (-21% YoY) และ 6,858 (+9% YoY) โดยปรับ gain จากการลงทุนใน preferred share ของ RL ลดลง, ปรับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนลงผลจาก RL ที่ยังถูกกดันจากต้นทุนที่สูง, ประมาณการรายได้ปี 65-66 ยังเติบโตได้ดี +7.8% YoY และ +4.7% YoY และคงประมาณการ gross margin ปี 65-66 อยู่ที่ 17.6%
-
kaohoon
-
thunhoon
TU – ตามกระแส(…?) 16/06/65
-
thunhoon
จับตา TU-TNR 16/06/65
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
เคาะ TU 06/06/65
#TU #ทันหุ้น - TU ตั้งเป้าแผนธุรกิจปี 65-68 รายได้เติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 5% แม้ว่าจะไม่ได้เติบโตในอัตราที่สูงมาก แต่จะเน้นไส้ในอย่าง GPM ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 18.2% ในปี 64 ซึ่งมาจากการเพิ่มพอร์ทธุรกิจนวัตกรรม-เทคโนโลยีางอาหาร เช่น Food Ingredients, กลุ่ม supplement และ กลุ่มโปรตีนทางเลือก ให้เพิ่มเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้รวม โดยยังรวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งนี้มีแนวโน้มการเติบโตมากและทำกำไรได้ดี ส่วน Core business อย่างธุรกิจอาหารทะเลกระป๋อง และอาหารทะเลแช่แข็งแช่เย็น จะเติบโตแบบ mature ราวปีละ 3% ด้านเป้า SG&A ต่อรายได้ราว 12-13% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 12%ต้นทุนค่าขนส่งที่แพงขึ้น
-
thunhoon
TUอัพเป้ารายได้8% มีออเดอร์ล้นทะลัก 27/05/65
นายลูโดวิค การ์นิเยร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินกลุ่ม บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ปี 2565 เพิ่มเป็นเติบโต 7-8% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ราว 1.41 แสนล้านบาท หลังช่วงไตรมาส 1/2565 มีรายได้ราว 3.65 หมื่นล้านบาท ประกอบกับมองทิศทางคำสั่งซื้อในช่วงที่เหลือปีนี้ยังดีขึ้นต่อเนื่อง
-
thunhoon
TUบุกร่วมทุนข้ามชาติ ค้าสาหร่ายเพิ่มมูลค่า 19/05/65
นอกจากนี้ ทางผู้บริหารปรับเพิ่มเป้าการเติบโตรายได้ปี 2565 เป็นเติบโต 7-8% จากเดิมที่วางไว้ 4-5% หลังมีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น ตลอดจนมองค่าขนส่งในช่วงที่เหลือปีนี้จะผ่อนคลาย ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
TU 11/05/65
-
thunhoon
-
thunhoon
TUโชว์ไตรมาสแรกนิวไฮ ยอดขายทะลุ3.6หมื่นล. 10/05/65
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับเป้าหมายปี 2565 ใหม่ โดยวางเป้ายอดขายเติบโต 7-8% จากเดิมวางเป้าเติบโต 4-5% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17-18% ลดลงจากเดิมที่ 18-18.5% วางงบลงทุนที่ 6 พันล้านบาท จากปัจจัยความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานยังคงอยู่ โดยราคาวัตถุดิบต้นทุนบรรจุภัณฑ์ ส่วนผสมอาหาร น้ำและก๊าซ และอุปกรณ์อื่นๆ ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
ก.ล.ต.ลงดาบ 9 รายอินไซด์หุ้น"TU" 01/04/65
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
เคาะ TU 29/03/65
TU ตั้งเป้าแผนธุรกิจปี 65-68 รายได้เติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 5% แม้ว่าจะไม่ได้เติบโตในอัตราที่สูงมาก แต่จะเน้นไส้ในอย่าง GPM ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 18.2% ในปี 64 ซึ่งมาจากการเพิ่มพอร์ทธุรกิจนวัตกรรม-เทคโนโลยีางอาหาร เช่น Food Ingredients, กลุ่ม supplementและ กลุ่มโปรตีนทางเลือกให้เพิ่มเป็นสัดส่วน 10%ของรายได้รวม โดยยังรวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งนี้มีแนวโน้มการเติบโตมากและทำกำไรได้ดี ส่วน Core business อย่างธุรกิจอาหารทะเลกระป๋อง และอาหารทะเลแช่แข็งแช่เย็น จะเติบโตแบบ mature ราวปีละ 3% ด้านเป้า SG&A ต่อรายได้ราว 12-13% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 12% ต้นทุนค่าขนส่งที่แพงขึ้น
-
thunhoon
TUเร่งอัพมาร์จิ้นแตะ20% คลอดสินค้ากัญชงครึ่งหลัง 24/03/65
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าหากแผนงานต่างๆ สำเร็จลุล่วงตามที่วางไว้ บริษัทประเมินว่าสินค้านวัตกรรมน่าจะขยับเพิ่มเป็น 10%ของรายได้รวมในปี 2568 ขณะที่รายได้ของ TU ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2564-2568) คงเติบโตเฉลี่ยราว 5%เพื่อตอบรับธุรกิจของบริษัทขยายตัวมากขึ้น
-
hoonsmart
TU ปักธง กำไรสูงสุดประวัติการณ์ทุกปี เพิ่มรายได้นวัตกรรม ปี68 มาร์จิ้น 20% 23/03/65
นาย ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2565-2568 รายได้จะเติบโตไม่มาก ประมาณ 5%ต่อปี จากปี 2564 ที่มีรายได้ 1.41 แสนล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งเป้าธุรกิจมาจากการใช้นวัตกรรมาสร้างรายได้ถึง 10% ของทั้งหมด และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 20% จากระดับ 18.2% ในปีก่อน ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นตาม เพื่อนำไปสู่กำไรสุทธิสูงขึ้น
-
kaohoon
TU ปักธงรายได้ปี 65-68 โตเฉลี่ยกว่า 5% ชูกลยุทธ์เน้น “สินค้านวัตกรรม” อัพมาร์จิ้น 23/03/65
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าธุรกิจในปี 2565-2568 ในด้านรายได้เติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 5% จากปี 2564 ที่มีรายได้ 1.41 แสนล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเน้นการเพิ่มธุรกิจนวัตกรรมที่จะสร้างรายได้ในสัดส่วน 10% ของรายได้รวม ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit) คาดว่าจะเพิ่มเป็น 20% จาก 18.2% ในปี 2564
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
thunhoon
TUจ่อยื่นไฟลิ่งบ.ลูกi-Tail อัดงบเสริมแกร่ง-ปีนี้โต5% 07/03/65
สำหรับผลประกอบการปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 4-5% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ 1.41 แสนล้านบาท เพราะทิศทางของธุรกิจในส่วนต่างๆ อาทิ อาหารทะเลแช่แข็ง, อาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจอาหาร "Red Lobster" นั้นปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ประกอบกับบริษัทจะมีรายรับจากผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเพิ่มเติม รวมทั้งบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้น (Gross Margin) ให้อยู่ที่ราว 18.0-18.5% หลังธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
“ฟินันเซีย” เชียร์ซื้อ TU หลังปิดงบ “นิวไฮ” ลุ้นปีนี้โตต่อ ชูเป้า 30 บ. 24/02/65
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ดีคือรายได้เติบโตทำจุดสูงสุดใหม่ทั้ง USD และสกุลบาทที่แตะระดับ 3.85 หมื่นล้านบาท (+8.3% จากไตรมาสก่อน, +15.1% จากปีก่อน) โดยโตทุกกลุ่มสินค้า Ambient, Frozen และ Pet Care จาก Demand ที่ยังดีและเริ่มปรับราคาขายขึ้นเพื่อสะท้อน ต้นทุนที่ปรับขึ้น กอปรกับได้อานิสงส์จากบาทอ่อนค่า ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้น 20 bps จาก ไตรมาส 3/64 และ ไตรมาส 4/63 มาอยู่ที่ 18.2% ใน ไตรมาส 4/64 จากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี สามารถหักล้างค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ทั้งหมด
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
RBF-TU ลบด้อย…เติมเด่น 04/02/65
-
kaohoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
มีแรงประคองตัวแถว 1625 26/01/65
-
kaohoon
-
thunhoon
เคาะ TU 24/01/65
-
thunhoon
TU บาทอ่อนหนุน เป้าราคา 26.90บ. 17/01/65
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
thunhoon
TU หุ้นน่าซื้อเมื่อบาทอ่อน 09/01/65
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
TU มั่นใจ Q4 ดีต่อเนื่อง! ยอดขายอาหารแช่แข็ง-สัตว์เลี้ยงพุ่ง ดันกำไรขั้นต้นปีนี้โต 18% 20/11/64
โดยในปีนี้คาดรายได้ของบริษัทจะเติบโต 3-5% หลังจากงวด 9 เดือน 2564 มีรายได้อยู่ที่ 1.03 แสนล้านบาท เติบโต 3.6% และมีกำไรสุทธิแข็งแกร่งมาที่ 6.08 พันล้านบาท เติบโต 27% นอกจากนี้บริษัทได้ปรับลดวงเงินลงทุนในปี 64 มาที่ 4.0-4.5 พันล้านบาท จากเดิมวางงบไว้ 5 พันล้านบาท โดยจะเลื่อนการใช้งบบางส่วนไปเป็นปีหน้า
-
thunhoon
TU ตอนนี้ควร Long หรือ Short? 10/11/64
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
#ภควัตจัดให้ !! "TU"ถือนิด ทนหน่อย อัพไซต์เพียบ 09/09/64
อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 3-5% YoY แนวโน้มธุรกิจอาหารแช่แข็ง-แช่เย็น และธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยง (PetCare) ยอดขายยังโตได้ดีมาก
-
thunhoon
TUบาทอ่อนดันยอดขาย รับดีมานด์ส่งออกหนุน 23/08/64
สำหรับผลประกอบการปี 2564 บริษัทยังคงเป้ารายได้เติบโต 5% จากปีก่อนที่ 1.34 แสนล้านบาท เนื่องจากธุรกิจอาหารและอาหารแช่แข็งในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริการเติบโตอย่างชัดเจน ประกอบกับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยังขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น
-
thunhoon
-
thunhoon
KTBST แนะซื้อ TU คาดเงินบาทอ่อนค่า-ธุรกิจใหม่หนุนกำไรดีต่อเนื่อง 10/08/64
ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564/65 อยู่ที่ 7,116 ล้านบาท (+14% YoY) และกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 7,500 ล้านบาท (+5% YoY) ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจาก 1) ประมาณการรายได้ปี 2564/65 เติบโต +3%/4% ตามลำดับ 2) gross margin อยู่ที่ 17.5% ใกล้เคียงปี 2563 ที่ 17.7% 3) SG&A/Sales ลดลงมาอยู่ที่ 5.2% จาก 5.7% ของปี 2563 จาก cost reduction program และ economies of scale
-
thunhoon
TUปวดใจงบดีโดนเท แจกปันผล45สตางค์สู้ 10/08/64
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
เคาะ TU 23/07/64
แนวโน้มผลประกอบการ 2Q64 ทั้ง QoQ และ YoY จาก 2 ปัจจัยหลักคือ ค่าเงินบาทอ่อนค่าและการเข้าสู่ช่วง high season ของธุรกิจอาหารแช่แข็ง ธุรกิจอาหารสัตว์ และธุรกินร้านอาหารทะเล Red หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในต่างประเทศคลี่คลายลง โดยเฉพาะในสหรัฐฯและยุโรปเริ่มกลับมาเปิดเมืองแล้ว นอกจากนี้ TU ยังได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และมีแผนสำหรับการนำกัญชงมาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 3-5% จากปีก่อน และคาดว่ารักษาระดับ GPMให้อยู่ในช่วง 17% โดยจะมีแผนการปรับ product mix เน้นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ทั้งนี้ ทริส เรตติ้ง ได้ให้แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีปัจจัยบวกจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และความพยายามในการลดต้นทุนของบริษัท ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากโรคโควิด 19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะช่วยเสริมให้บริษัทมีผลประกอบการที่มั่นคง
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
ทริสฯ เพิ่มอันดับเครดิตองค์กร TU เป็น BBB จากเดิมที่ระดับ BBB- 22/06/64
ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทจะเติบโตที่ระดับ 6%-9% ต่อปีในระหว่างปี 2564-2566 จากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจปศุสัตว์และธุรกิจอื่น ๆ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทน่าจะยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 11%-13% ในช่วงปี 2564-2566 ด้วย
-
thunhoon
-
thunhoon
TUบาทอ่อน-เปิดปท.หนุน ดีมานด์ทะลักดันรายได้โต 14/06/64
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง TU ว่า แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 6.52 พันล้านบาท เติบโต 4% จากปีก่อน และมองน่าจะขยายตัวต่อเนื่องอีก 5% ในปี 2565 มาอยู่ที่ราว 6.87 พันล้านบาท ผลมาจากธุรกิจประเภทที่มีมูลค่าสูง (Value Added Product) ได้แก่ Pet Care และ New Business จะเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้า ประกอบกับมองว่า Net margin ของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก Product Mix ที่ เปลี่ยนแปลง และ Cost Reduction Program
-
thunhoon
KTBST เปิด 4 เหตุผลเชียร์ซื้อ TU 13/06/64
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
Kaohoon’s Top News on May 31, 2021 31/05/64
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TU 13/05/64
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
เปิดโผ 4 หุ้นไทย รับอานิสงส์เศรษฐกิจ “สหรัฐฯ” โตแรงรอบ 37 ปี 24/04/64
นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ ยังประเมินว่า ด้วยปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดังกล่าว จะส่งผลดีต่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากคาดการว่า แนวโน้มการส่งออกไปสหรัฐฯ จะเติบโตถึง 6% สูงสุดในรอบ 30 ปี
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TU 11/03/64
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TU กล่าวว่า วางเป้าหมายเติบโตต่อเนื่องในช่วง 5 ปี (ปี 64-68) เฉลี่ยปีละ 5% จาก 1.32 แสนล้านบาทในปี62 จะเพิ่มเป็น 1.6 แสนล้านบาทภายในปี 68
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
TU ตั้งเป้ารายได้ 5 ปีโตเฉลี่ย 5% แตะ 1.6 แสนลบ. รุกโปรตีนทางเลือก-กัญชง-อาหารเสริม 09/03/64
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU วางเป้าหมายเติบโตต่อเนื่องในช่วง 5 ปี (ปี 64-68) เฉลี่ยปีละ 5% จาก 1.32 แสนล้านบาทในปี 62 จะเพิ่มเป็น 1.6 แสนล้านบาทภายในปี 68
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
เคาะ TU 23/02/64
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
TU เป้าพื้นฐาน 20.70 บาท 27/01/64
-
kaohoon
-
thunhoon
TU ธุรกิจหลักดี Valuation น่าสนใจ 25/01/64
-
kaohoon
-
thunhoon
จับตา TU-BH 15/01/64
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TUติดลมบนโตอีก5% ลงทุน6พันล.รับลูกค้า 19/11/63
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 5% เมื่อเทียบกับปี 2563 เนื่องจากธุรกิจมีการทำตลาดลูกค้าเพิ่มเติมประกอบกับมีการทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ยอดขายสินค้าของธุรกิจขยับสูงขึ้น ส่วนในแง่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ปี 2564 คาดจะพยายามรักษาอยู่ที่ราว 16-17% จาก 9 เดือนแรกปีนี้ที่ราว 18% ผลมาจากนโยบายการลดค่าใช้จ่าย ลดหนี้ ลดต้นทุน, ตัดขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไรออกไป เพื่อทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
TU เป้าพื้นฐาน 19.70 บาท 12/10/63
-
thunhoon
จับตา TU-VGI 08/10/63
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
ไทยเบฟ-TU ก้าวสู่อาหารเสริม.! 07/10/63
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TU แนะนำ “ซื้อ” เคาะเป้า 19.70 บาท 17/09/63
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน "TU" ที่ "A+" 09/09/63
+ รายได้จากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น 0.6% ในปี 2563 และเติบโต 3%ในช่วงปี 2564-2565
-
thunhoon
TUมุ่งลงทุนสตาร์ทอัพ พร้อมดันTFMเข้าเทรด 09/09/63
ส่วนประมาณการรายได้ปี 2563 มองว่าโอกาสเติบโตมากกว่า 5% จากปีก่อนที่ 1.29 แสนล้านบาท หลังในครึ่งแรกปีนี้มีรายได้อยู่ที่ราว 6.49 หมื่นล้านบาท เติบโตราว 4.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ประกอบกับออเดอร์ยังดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนอาหารแช่แข็งที่เริ่มกลับมาเติบโตอย่างชัดเจน หลังร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ เริ่มกลับมาให้บริการเพิ่มขึ้น และธุรกิจมีการทำตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
จับตา TU มูลค่าถูก-กำลังฟื้นตัว 26/08/63
-
kaohoon
โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” TU มองกำไรโตต่อเนื่อง รับดีมานด์อาหารกระป๋องเพิ่ม-เงินบาทอ่อนค่า 25/08/63
ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TU ราคาเป้าหมาย 18 บาท แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังปี 2563 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากธุรกิจทูน่ากระป๋องที่ยังแข็งแกร่ง ขณะที่การ Reopen ทำให้ร้านอาหาร Red Lobster ขาดทุนลดลง และมี Tax Credit ช่วย พร้อมคาดกำไรปกติปี 2563-2564 เติบโตเฉลี่ยราว 10% ต่อปี และเป็นสินค้าจำเป็นซึ่งถือว่ามีความ Defensive ด้านเทคนิคยืนเหนือแนวต้าน 14 บาทได้เป็น Sentiment เชิงบวก
-
kaohoon
TU บวก 2% นิวไฮรอบ 5 เดือน ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังโตต่อ-รับผลดีเงินบาทอ่อน-เทคนิคขาขึ้น 24/08/63
ทั้งนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TU ราคาเป้าหมาย 18 บาท แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังปี 2563 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากธุรกิจทูน่ากระป๋องที่ยังแข็งแกร่ง ขณะที่การ Reopen ทำให้ร้านอาหาร Red Lobster ขาดทุนลดลง และมี Tax Credit ช่วย พร้อมคาดกำไรปกติปี 2563-2564 เติบโตเฉลี่ยราว 10% ต่อปี และเป็นสินค้าจำเป็นซึ่งถือว่ามีความ Defensive ด้านเทคนิคยืนเหนือแนวต้าน 14 บาทได้เป็น Sentiment เชิงบวก
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TU แนะนำ “ซื้อ” เคาะเป้า 18.50 บาท 24/08/63
-
thunhoon
เคาะ TU 17/08/63
-
kaohoon
TU กำไรไตรมาส 2/63 โตทะลัก 1,440% ลุ้นปี 63-64 เด่นต่อเนื่องแนะซื้อเป้า 15.98 บ. 17/08/63
บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(17ส.ค.63) ว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 15.98 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิงวด ไตรมาส 2/63 ที่ 1,716 ล้านบาท(+1,440%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,+69% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ยังสามารถเติบโตได้ดีและสูงกว่าตลาดคาด ได้ปัจจัยหนุนทางรายได้จากประเภทธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีสัดส่วนสูงขึ้นจากความต้องการอาหารกระป๋องในช่วงการระบาดของCovid-19 โดยทั้ง 2 ประเภทธุรกิจนี้มี มีGross Marginที่สูงราว 18-26% สูงกว่าประเภทธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง(GM ราว 7-12%)
-
thunhoon
TU โดดเด่น GPM สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 18.2% ดีกว่าโบรกคาด 13/08/63
ทันหุ้น - สู้โควิด - บริษัหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง TU ว่า รายได้ 2Q63 อยู่ที่ 33,501 ลบ. (+6.3% QoQ, +2.6% YoY) โดยกลุ่ม Ambient seafood เติบโต 16.8% YoY ได้อุปสงค์เพิ่มขึ้นจาก COVID-19 หนุนความต้องการอาหารกระป๋อง ขณะที่อาหารแช่เย็นแช่แข็งลดลง 14.0% YoY เนื่องจากการ Lockdown ของประเทศสำคัญทั่วโลกกระทบอุปสงค์จากกลุ่ม Food service อย่างร้านอาหาร และโรงแรม เป็นต้น
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TUมีทีเด็ดครึ่งปีหลัง จับตาQ2กำไรทะยาน 03/08/63
อย่างไรก็ตามในภาพรวมปัจจัยบวกยังมีผลมากกว่า ทำให้เราคาดรายได้รวมจะเติบโตขึ้นราว 4%QoQ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 18% เมื่อเทียบกับ 16.2% ในไตรมาสก่อน ด้านธุรกิจของ Red Lobster อาจขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการปิดสาขาชั่วคราวในช่วง เม.ย.-พ.ค.
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TU 15/06/63
แต่บริษัทยังไม่มีการปรับลดเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 3-5% ในปีนี้ แต่จะติดตามสถานการณ์ที่เป็นความเสี่ยงต่อยอดขายอย่างใกล้ชิด เพราะปัจจุบันยังไม่สามารถประเมินทิศทางได้อย่างชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร เพราะผลกระทบที่มีต่อบริษัทมีความแตกต่างกันในแต่ละผลิตภัณฑ์
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TU ข่าวดีและข่าวร้าย 25/05/63
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
TU แจงปิดรง.กานากระทบน้อย คงเป้ายอดขายปีนี้โต 3-5% 15/05/63
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีการปรับลดเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 3-5% ในปีนี้ แต่จะติดตามสถานการณ์ที่เป็นความเสี่ยงต่อยอดขายอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจุบันยังไม่สามารถประเมินทิศทางได้อย่างชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร เพราะผลกระทบที่มีต่อบริษัทมีความแตกต่างกันในแต่ละผลิตภัณฑ์
-
thunhoon
เคาะ TU 13/05/63
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
เคาะไป คุยไป - เคาะ TU 09/04/63
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
เคาะ TU 02/04/63
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
เคาะไป คุยไป - เคาะ TU 24/03/63
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
เคาะไป คุยไป 18/03/63
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
เคาะ TU 13/03/63
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TU 28/02/63
-
thunhoon
TU – เทคนิคสวย ก็ต้องดู (แม้ว่า…?) 26/02/63
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
3 โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” TU ชี้ไตรมาส 1/63 ฟื้นรับราคาปลาทูน่าพุ่ง-บาทอ่อน 19/02/63
ด้านบล.เอเชีย เวลท์ กำหนดคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 18.40 บาทต่อหุ้น พร้อมประเมินการเติบโตของรายได้ในปี 2563 ไว้ที่ 4% จากปีก่อน และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 16% โดยผลประกอบการจะเติบโตจากปริมาณการขายในสหรัฐฯ และยุโรปที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์ (PetCare) ที่คาดว่ารายได้จะเติบโต Double Digit โดยบริษัทวางแผนใช้เงินลงทุน (CAPEX) ปี 2563 อยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท
-
thunhoon
TUกำไรปี62เพิ่ม17% พร้อมปันผล0.22บาท 18/02/63
-
thunhoon
เคาะ TU 18/02/63
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
แกว่งตัวเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย 15/01/63
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
TU 11/11/62
-
kaohoon
TU เติมต้น..เพิ่มปลาย 07/11/62
-
thunhoon
-
thunhoon
TU เผย Q3/62 กำไรสุทธิ 1.37 พันลบ. 05/11/62
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
TU กู่ไม่กลับ..!? 28/10/62
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
TU ร่วง 6% วิตกผลงาน Q3 ทรุดรับผลกระทบบาทแข็ง ฟากโบรกฯยังแนะ “ซื้อ” มองกำไรปี 62 โต 35% 04/10/62
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้น TU ที่ปรับตัวลงมามากแล้วทำให้แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TU ด้วยราคาเป้าหมาย 20 บาท/หุ้น พร้อมคาดการณ์กำไรปีนี้จะเติบโต 35% และปีหน้ากำไรจะเติบโตกว่า 12%
-
thunhoon
จับตา PRM-TU 03/10/62
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
เคาะ TU 20/09/62
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TU 18/07/62
นายบัลลังก์ ไวยานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ดูแลด้านนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโต 3-5% จากเดิมที่คาดเติบโต 5% โดยเป็นผลมาจากราคาขายที่ลดลง หลังราคาวัตถุดิบในการผลิตลดลง โดยในช่วงไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมาราคากุ้งปรับตัวลดลง 8.6% และราคาปลาทูน่าปรับตัวลดลง 8% และอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินยูโร (ERU) อ่อนค่าลง 7-8% ซึ่งสัดส่วนรายได้ที่มาจากสกุลเงินยูโรอยู่ที่ 28%
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
TUรับผลบวกเทรดวอร์ จ่อโกยออเดอร์สหรัฐ 15/05/62
นายบัลลังก์ ไวยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่าบริษัทมีการปรับเป้าหมายยอดขายสกุลเงินบาทปีนี้เป็นเติบโตในช่วง 3-5% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตที่ 5% เพื่อให้สอดคล้องกับค่าเงินยูโรที่ปรับตัวอ่อนค่า 6-7% ในช่วงไตรมาส 1/2562 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งบริษัทมียอดขายที่เป็นสกุลเงินยูโรกว่า 28% ทำให้อาจจะกระทบยอดขายที่เป็นสกุลเงินบาทบ้าง แม้ยอดขายโดยรวมอาจจะดูไม่ได้เติบโตสูงมากนัก แต่บริษัทก็พยายามทำอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้เพิ่มขึ้นได้ในช่วงที่ผ่าน และคาดว่าปีนี้จะรักษาระดับที่ได้ 15% จากการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
จับตา BCH-TU 27/03/62
-
kaohoon
-
thunhoon
เจาะไส้ในส่งออกพุ่ง5.91% ตะลึงทูน่าโตแรงหนุนTU 22/03/62
ฝ่ายวิเคราะห์เลือก TU เป็นส่งออกที่น่าสนใจ จากคาดการณ์รายได้รวมปี 2562 เติบโตได้ดีกว่าเป้าหมายของบริษัท โดยมีปัจจัยหนุนจากราคากุ้งที่ฟื้นตัว และการขายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ารวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ของธุรกิจทูน่า ทั้งนี้คาดการณ์รายได้รวมไว้ที่ 1.42 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบกับปี 2561 (YoY) พร้อมประมาณการกำไรปกติปี 2562 ที่ 6,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.5% และ TU ยังบริหารค่าเงินอย่างเหมาะสม จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 21.50 บาทและคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 4.2%
-
thunhoon
TU รุกหนักตลาดจีน ปั๊มกำไรขั้นต้น15% 06/03/62
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
จับตา TU-VNT 31/01/62
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
จับตา CPF-TU 16/01/62
-
kaohoon
-
thunhoon
1600 จุดครั้งแรกในปีนี้… 10/01/62
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
เคาะ TU 09/01/62
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
TU – ตลาดแบบนี้ แค่ตามดูสั้นๆ 20/11/61
-
kaohoon
-
thunhoon
จับตา BJC-TU 14/11/61
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon