TU (Thai Union Group) ราคาถูก! FSSIA อัปเกรดเป็น "ซื้อ" ชี้เป้าราคาใหม่ 15 บาท

P/E 9.94 YIELD 5.78 ราคา 12.40 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: FSSIA มอง TU ราคาถูกเกินไป

FSSIA (FSS International Investment Advisory Securities Co Ltd) ได้อัปเกรดคำแนะนำสำหรับหุ้น TU (Thai Union Group) เป็น "ซื้อ" พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 15 บาท จากเดิม 14.70 บาท โดยมองว่าราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับศักยภาพในการเติบโตของบริษัท

รายละเอียดการวิเคราะห์

FSSIA ระบุว่ากำไรในไตรมาส 4/2567 ของ TU เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ต้นทุนการเปลี่ยนแปลง (Transformation Costs) ได้เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม TU ตั้งเป้าที่จะเห็นผลประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างต่อเนื่องในปี 2568 โดยคาดหวังการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 15 บาท มาจากการประเมิน P/E ปี 2568 ที่ 10 เท่า

ถึงแม้ว่ารายได้รวมในไตรมาส 4/2567 จะค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยธุรกิจอาหารแช่แข็งมีการเติบโตที่แข็งแกร่งถึง 21% แต่ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปลดลง 11% ส่งผลให้รายได้รวมลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นยังลดลงเนื่องจากต้นทุนปลาทูน่าและค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น

ค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 4/2567 เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และ 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้สูงเกินเป้าหมาย โดยอยู่ที่ 14% ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนการเปลี่ยนแปลงที่ 300 ล้านบาท รวมถึงค่าการตลาดและค่าขนส่งที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายการที่เกี่ยวข้องกับคดีความของ Red Lobster หรือความเสียหายจากการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ในรายงานไตรมาสนี้

TU ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2568 ดังนี้:

  1. รายได้เติบโต 3-4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
  2. อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.5-19.5% เพิ่มขึ้นจาก 18.5% ในปี 2567 โดยมีปัจจัยบวกจากโครงการ Transformation
  3. สัดส่วน SG&A ต่อรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 13-13.5% (จากปกติ 12.5-13%) เนื่องจากมีต้นทุน Transformation ประมาณ 0.7% ของรายได้รวม และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้น

ข้อสังเกตและปัจจัยที่ต้องพิจารณา

FSSIA ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568 ขึ้น 3% เป็น 5.13 พันล้านบาท (+3% y-y) และเพิ่มประมาณการ EPS ขึ้น 6.5% เนื่องจากการลดลงของทุนจดทะเบียนหลังจากการซื้อหุ้นคืน นอกจากนี้ FSSIA ยังได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 15 บาท เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลดลง และปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 2568 ที่ 10 เท่า

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ TU เช่น ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ อัตราแลกเปลี่ยน และการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด

สรุป

FSSIA มองว่า TU เป็นหุ้นที่มีมูลค่าถูก และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว โดยได้อัปเกรดคำแนะนำเป็น "ซื้อ" พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 15 บาท อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด

โพสต์ล่าสุด