บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

THAI UNION GROUP (TU) คาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 จะดีขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (q-q) และปีต่อปี (y-y) โดยมีแรงหนุนจากรายได้ที่ฟื้นตัวในทุกธุรกิจ และต้นทุนทูน่าที่ลดลง

คาดการณ์ผลประกอบการ Q2/2568:

BYD คาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2/2568 จะเติบโต 21% (q-q) และ 2% (y-y) เป็น 3.6 หมื่นล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นเป็น 19.0% เนื่องจากต้นทุนทูน่าที่ลดลงและการประหยัดต่อขนาดที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยที่ดีขึ้นและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เบื้องต้นประเมินกำไรสุทธิที่ 1.3 พันล้านบาท เติบโต 27% (q-q) และ 6% (y-y)

ประเด็นที่น่าสนใจ:

แม้ว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะยังมีความไม่แน่นอน แต่ BYD มีมุมมองเชิงบวกต่อบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่องภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่มีต่อไทย ซึ่งคาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนสำรองในการย้ายการผลิตไปยังโรงงานในต่างประเทศ หากได้รับผลกระทบน้อยเกินไป ส่วนกรณีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างไทยกับกัมพูชา คาดว่าจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ TU

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย:

BYD คงคำแนะนำ "ถือ" (HOLD) สำหรับ TU โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 11.00 บาท อิงจากกำไรต่อหุ้นปี FY25E ที่ 12.0x โดยมองว่าปันผลยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และโครงการซื้อหุ้นคืน 5.0 พันล้านบาทจะช่วยลดความเสี่ยง