TU (ไทยยูเนี่ยน) คาดกำไรปกติปี 2568 ลดลง 4.8% แม้รายได้เติบโต: KSS แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 14.90 บาท

P/E 10.26 YIELD 5.60 ราคา 12.80 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: มุมมอง KSS ต่อ TU หลัง Analyst Meeting

บล.กรุงศรี (KSS) มีมุมมอง "Neutral" ต่อข้อมูลจากงานประชุมนักวิเคราะห์ของ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2568 เนื่องจากข้อมูลสอดคล้องกับประมาณการปัจจุบัน KSS คาดว่า TU จะมีภาษีจ่ายเพิ่มขึ้น 300-350 ล้านบาท จากการเริ่มใช้เกณฑ์ GMT ซึ่งคิดเป็น Effective tax rate ราว 11-12%

รายละเอียดประมาณการและปัจจัยกระทบ

KSS คาดการณ์กำไรปกติปี 2568 ของ TU ที่ 4,743 ล้านบาท ลดลง 4.8% จากปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยกดดันหลักจาก SG&A/sales และค่าใช้จ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม KSS คาดหวังว่าโครงการ transformation จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต และหนุน GPM ให้ค่อยๆ ดีขึ้นในระยะยาว

ประเด็นสำคัญจากงานประชุมนักวิเคราะห์:

  • TU ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโต 3-4% จาก organic growth 6-7% แต่อาจถูกกระทบจากเงินบาทแข็งค่าราว -3%
  • เป้า GPM 18.5-19.5% จากการพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตและการจัดซื้อวัตถุดิบร่วมกัน
  • ผู้บริหารมองราคาทูน่าปี 2568 เฉลี่ย $1580/ตัน เพิ่มขึ้น 10%
  • เป้า SG&A/sale 13-13.5% จาก transformation costs และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น
  • คาดค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่มขึ้น 300-350 ล้านบาทจาก Global minimum tax (GMT)

ข้อสังเกตและแนวโน้ม

KSS มองว่าข้อมูลจากงานประชุมนักวิเคราะห์สอดคล้องกับประมาณการปัจจุบัน โดยได้รวมผลกระทบจาก GMT ไว้แล้ว KSS คาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 1/2568 อาจอ่อนตัวลง y-y, q-q จากรายได้ที่ถูกกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น SG&A/sales ที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายทางภาษีที่เพิ่มขึ้นหลังใช้เกณฑ์ GMT

สรุปและคำแนะนำ

KSS คงคำแนะนำ "ซื้อ" TU โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 14.90 บาท (PE14x) เนื่องจากราคาปัจจุบันสะท้อนปัจจัยลบไปมาก TU ประกาศปันผล 2H24 ที่ 0.35 บาท/หุ้น (Yield 2.9%) ขึ้น XD 28 ก.พ. 2568 โดยรวมทั้งปี 2567 มีเงินปันผลรวม 0.66 บาท/หุ้น (Yield 5.5%/ปี) KSS ยังคงเลือก CPF (TP 27.40 บ.) เป็น top pick ในกลุ่ม

โพสต์ล่าสุด