บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TU: ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ฉุดกำไร! Maybank ปรับลดเป้าเหลือ 9.10 บาท
P/E 10.26 YIELD 5.60 ราคา 12.80 (0.00%)
Maybank Securities (Thailand) ปรับลดราคาเป้าหมาย Thai Union Group (TU) ลงเหลือ 9.10 บาท จากเดิม 9.80 บาท พร้อมคงคำแนะนำ "ขาย" หลังผลประกอบการ Q1/68 ต่ำกว่าคาด และความเสี่ยงจากภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น
ไฮไลท์สำคัญ
- Maybank Securities (Thailand) ปรับลดราคาเป้าหมาย TU เหลือ 9.10 บาท คงคำแนะนำ "ขาย"
- ปรับประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 67-68 ลง 4-7%
- ผลประกอบการ Q1/68 ต่ำกว่าคาด กำไรสุทธิหลัก 638 ล้านบาท (-41% YoY, -44% QoQ)
- ความเสี่ยงจากต้นทุนภาษีนำเข้าที่อาจสูงขึ้น
ผลประกอบการ Q1/68 และการปรับลดเป้าหมาย
TU รายงานกำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 1 พันล้านบาท (-12% YoY, -16% QoQ) หากไม่รวมภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี กำไรสุทธิหลักอยู่ที่ 638 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงกว่าคาด ยอดขายผลิตภัณฑ์แปรรูปพร้อมรับประทาน (ambient product) ลดลง และยอดขายผลิตภัณฑ์แช่แข็งลดลงตามความต้องการที่อ่อนแอในตลาดสหรัฐฯ
จากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ระดับ 10% TU ได้ปรับเป้าหมายการเติบโตของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นปี 68 ลงเหลือ +1-3% และ 18-19% ตามลำดับ โดย TU ชี้แจงว่า 18% ของยอดขายมาจากการส่งออกจากฐานการผลิตในประเทศไทยไปยังสหรัฐฯ
ข้อสังเกตและมาตรการรับมือ
Maybank วิเคราะห์ว่า TU จะต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นในที่สุดจากต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าในกานาและเซเชลส์ ขณะเดียวกันความต้องการบริโภคอาจลดลงหากต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้นถูกผลักภาระไปยังผู้บริโภคปลายทาง
TU วางแผนที่จะย้ายฐานการผลิตสินค้า ambient บางส่วนไปยังกานาและเซเชลส์ ซึ่งมีภาษีตอบโต้ที่ 10% ต่ำกว่าของไทยที่ 36% อย่างไรก็ตาม Maybank เชื่อว่าผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นจะยังคงมีอยู่
สรุปและแนวโน้ม Q2/68
Maybank คาดว่ากำไรสุทธิหลักในไตรมาส 2/68 จะยังคงลดลง YoY จากแรงกดดันของค่าใช้จ่าย SG&A และภาษีที่เพิ่มขึ้น โดยความต้องการสินค้าของบริษัท โดยเฉพาะอาหารทะเลแช่แข็งน่าจะยังคงอ่อนแอในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
Maybank ใช้วิธี SOTP (Sum-of-the-Parts) ในการประเมินราคาเป้าหมาย โดยพิจารณามูลค่าของธุรกิจต่างๆ ของ TU แยกกัน และนำมารวมกัน