บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ประกาศผลประกอบการปี 2567 สุดแข็งแกร่ง! กวาดรายได้รวม 138,433 ล้านบาท เติบโต 1.7% พร้อมกำไรสุทธิ 4,985 ล้านบาท พุ่งขึ้น 7.2% จากปีก่อนหน้า

ไฮไลท์สำคัญ: ยอดขายอันดับ 3 สูงสุดเป็นประวัติการณ์, กำไรขั้นต้นนิวไฮ, กระแสเงินสดอิสระทะลุ 1.1 หมื่นล้าน

TU สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยยอดขายรวมสูงเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท พร้อมทั้งทำอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 18.5% และมีกระแสเงินสดอิสระสูงถึง 11,705 ล้านบาท

ผลประกอบการปี 67: ยอดขายเติบโต, กำไรพุ่ง, ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยงมาแรง

ปี 2567 TU ทำยอดขายรวม 138,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยง กำไรสุทธิอยู่ที่ 4,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% หากไม่รวมรายการด้อยค่าจากการลงทุนใน Red Lobster (RL) กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นถึง 22.3%

ในไตรมาส 4 ปี 2567 ยอดขายอยู่ที่ 35,090 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากผลกระทบเชิงลบจากอัตราแลกเปลี่ยน

ธุรกิจที่โดดเด่น:

• ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป: ยอดขายปี 2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 7.1%
• ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง: ยอดขายปี 2567 เพิ่มขึ้น 15.5%

ข้อสังเกต: อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน, ราคาวัตถุดิบท้าทาย

ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินบาท ส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของ TU นอกจากนี้ ราคาวัตถุดิบที่ผันผวน โดยเฉพาะปลาทูน่าท้องแถบ (Skipjack) ยังเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 12.7% ส่วนใหญ่เป็นผลจากโครงการ Transformation ค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้น และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอัตราดอกเบียที่สูงขึ้นทัวโลกในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2567

สรุป: TU แกร่งจริง! ตั้งเป้าปี 68 ยอดขายโต 3-4%

โดยสรุป TU มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2567 โดยมีรายได้รวมและอัตรากำไรขั้นต้นที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ กระแสเงินสดอิสระแข็งแกร่งช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และราคาวัตถุดิบ

สำหรับปี 2568 TU ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 3-4% และอัตรากำไรขั้นต้น 18.5-19.5%