TU กำไร Q4/67 ดีกว่าคาดเล็กน้อย! บัวหลวงแนะ "ถือ" ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 15 บาท

P/E 10.26 YIELD 5.60 ราคา 12.80 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: TU ไตรมาส 4/67

บัวหลวง (BLS) วิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU โดยรายงานกำไรหลักไตรมาส 4/67 ที่ 1.09 พันล้านบาท ลดลง 7% YoY และ 25% QoQ ซึ่งดีกว่าที่ BLS คาดการณ์ไว้ 7% แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ BLS ยังคงคำแนะนำ "ถือ" โดยปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 15.0 บาท (จากเดิม 16.50 บาท) เนื่องจากคาดการณ์การเติบโตของกำไรในปี 2568 ที่ไม่น่าตื่นเต้น

รายละเอียดผลประกอบการ: ปัจจัยที่ส่งผลต่อ TU

รายได้ในไตรมาส 4/67 ลดลง 1.2% YoY เนื่องจากราคาที่ลดลง แม้ว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น TU ยังได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หากไม่รวมปัจจัยดังกล่าว ยอดขายของ TU จะเพิ่มขึ้น 1.9% YoY อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.7% ในไตรมาสนี้ เทียบกับ 17.8% ในไตรมาส 4/66 โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปและอาหารสัตว์เลี้ยง (จากราคาวัตถุดิบทูน่าที่ลดลง) ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็น รวมถึงผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มลดลง YoY นอกจากนี้ อุปสงค์ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นในสหรัฐฯ ยังชะลอตัวลง

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 14.0% ในไตรมาส 4/67 เพิ่มขึ้นจาก 11.7% ในไตรมาส 4/66 และ 13.5% ในไตรมาส 3/67 ซึ่งมาจากค่าขนส่งที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าที่ปรึกษาโครงการ

แนวโน้มและสิ่งที่เปลี่ยนแปลง: ประมาณการกำไร

BLS คาดว่ากำไรหลักไตรมาส 1/68 มีแนวโน้มลดลง YoY (จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารและค่าใช้จ่ายด้านภาษีที่เพิ่มขึ้น) และ QoQ (จากปัจจัยฤดูกาล) ตามคำแนะนำของบริษัทในปี 2568 ในด้านการเติบโตของยอดขายที่ 3-4% YoY อัตรากำไรขั้นต้นที่ 18.5-19.5% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายที่ 13-13.5% BLS ปรับลดประมาณการกำไรลง 5% สำหรับปี 2568 และปีต่อ ๆ ไป

สรุป: คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

BLS ยังคงคำแนะนำ "ถือ" เนื่องจากคาดการณ์การเติบโตของกำไรในปี 2568 ที่ไม่น่าตื่นเต้น โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 15.0 บาท อิงจากการประเมินมูลค่าด้วยวิธีส่วนลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow) โดยมี WACC ที่ 8.5% และ Terminal Growth Rate ที่ 2%

โพสต์ล่าสุด