บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TU: ไทยยูเนี่ยน กำไร Q3/25 ลดลง แต่คาดหวังการเติบโตในอนาคต
P/E 10.26 YIELD 5.60 ราคา 12.80 (0.00%)
PI ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" แม้กำไร Q3/25 ลดลงจากต้นทุนทูน่าและภาษีนำเข้า แต่ยังคงมองเห็นโอกาสเติบโตในระยะยาวจากการปรับราคาและความร่วมมือกับ Mitsubishi
แนวโน้มผลประกอบการ 3Q25
PI คาดการณ์ว่า TU จะมีกำไรสุทธิ 1,190 ล้านบาท ลดลง 15% YoY และ 7% QoQ สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเนื่องจากสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารแช่แข็งที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 36,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 9% QoQ ซึ่งเป็นการกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหลังจากลดลงมา 3 ไตรมาสติดต่อกัน
ปัจจัยกดดันและโอกาสเติบโต
ถึงแม้ว่า TU จะสามารถปรับราคาเพื่อชดเชยผลกระทบจากภาษีได้เพียง 10% ใน 3Q25 แต่คาดว่าจะสามารถทยอยปรับราคาได้เพิ่มขึ้นใน 4Q25 และปรับราคารวมภาษี 19% ได้ในปี 2569 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ความร่วมมือกับ Mitsubishi ยังคงดำเนินต่อไป โดยกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 78% ของกำไรทั้งปีที่ PI คาดการณ์ไว้ที่ 4,442 ล้านบาท
ข้อสังเกตและคำแนะนำ
PI มองว่าแนวโน้ม 3Q25 ที่กำไรชะลอตัว และราคาหุ้นที่มีส่วนต่างกับมูลค่าเหมาะสมที่ประเมินไว้เพียง 8% ทำให้ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 13.7 บาท (16X PER'25E)
สรุป
ถึงแม้ว่าผลประกอบการในระยะสั้นของ TU จะถูกกดดันจากปัจจัยภายนอก แต่ PI ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตในระยะยาวจากการปรับราคาและความร่วมมือกับพันธมิตร อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาหุ้นปัจจุบันที่ใกล้เคียงกับมูลค่าเหมาะสม ทำให้ PI ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ"