สรุปงบล่าสุด TU

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการหุ้น TU (บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)) ปี 2567 (อัปเดตล่าสุด)
บทความนี้สรุปผลประกอบการของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TU) สำหรับปี 2567 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เผยแพร่โดยบริษัทฯ พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อผลการดำเนินงาน
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในปี 2567 TU รายงานยอดขายรวม **138,433 ล้านบาท** เพิ่มขึ้น **1.7%** เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นยอดขายที่สูงเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจมา การเติบโตนี้มาจากการเติบโตจากการดำเนินงานปกติของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถทำ**อัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 18.5%** และ **EBITDA สูงขึ้น 8.6%** จากปีก่อน มาอยู่ที่ 13,361 ล้านบาท สะท้อนถึงการขยายตัวของธุรกิจอย่างมีนัยสําคัญ
**กำไรสุทธิ**ของ TU ในปี 2567 อยู่ที่ **4,985 ล้านบาท** คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 1.08 บาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยหากไม่รวมรายการด้อยค่าจากการลงทุนใน Red Lobster (RL) กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นถึง 22.3% มาอยู่ที่ 5,685 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมี**กระแสเงินสดอิสระสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11,705 ล้านบาท**
**ในไตรมาส 4 ปี 2567** บริษัทฯ รายงานยอดขายอยู่ที่ 35,090 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากผลกระทบเชิงลบจากอัตราแลกเปลี่ยน 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการที่เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักทุกสกุล โดยเฉพาะเงินยูโรและเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี ยอดขายที่ลดลงได้ถูกชดเชยบางส่วนจากการเติบโตจากการดำเนินงานปกติที่เพิ่มสูงขึ้น 1.9% จากช่วงเดี่ยวกันของปีก่อน นอกจากนี่ ปริมาณขายเพิ่มสูงขึ้น 6.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากความต้องการที่สูงขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ยกเว้น ธุรกิจอาหารสัตว์เลียง
**แบ่งตามภูมิภาค (ปี 2567):**
* สหรัฐอเมริกาและแคนาดา: 56,476 ล้านบาท
* ยุโรป: 41,492 ล้านบาท
* ไทย: 15,029 ล้านบาท
* เอเชีย: 7,818 ล้านบาท
* ตะวันออกกลาง: 5,726 ล้านบาท
* อื่นๆ: 13,692 ล้านบาท
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
แม้ว่าเอกสารที่ให้มาไม่ได้ระบุสถานการณ์เศรษฐกิจโดยละเอียด แต่สามารถอนุมานได้ว่า **ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน** มีผลกระทบต่อผลประกอบการของ TU อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึง **ราคาวัตถุดิบ** ที่ผันผวน โดยเฉพาะ **ปลาทูน่าท้องแถบ (Skipjack)** ที่ราคาเฉลี่ยลดลง 19.4% จากปีก่อน
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร (จำแนกตามกลุ่มธุรกิจ):**
* **ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป:** ยอดขายปี 2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 7.1% ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 11.1% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.1% (Q4/2567: 20.6%)
* **ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง:** ยอดขายปี 2567 ลดลง 10.7% ปริมาณขายลดลง 0.1% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 11.7% (Q4/2567: 12.1%)
* **ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง:** ยอดขายปี 2567 เพิ่มขึ้น 15.5% ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 4.8% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 28.5% (Q4/2567: 26.1%)
* **ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า:** ยอดขายปี 2567 เพิ่มขึ้น 5.2% ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 0.1% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 26.1% (Q4/2567: 23.5%)
* **กำไรขั้นต้น:** อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมในปี 2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 18.5% แสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้น 12.7% จากปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่เป็นผลจากโครงการ Transformation ค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้น และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น
* **ต้นทุนทางการเงิน:** ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอัตราดอกเบียที่สูงขึ้นทัวโลกในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2567
* **ภาษีเงินได้:** บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จํานวน 430 ล้านบาท ในปี 2567 เนื่องจากบริษัทฯ ไม่ได้รับประโยชน์ทางภาษีจาก Red Lobster (RL) หลังจากการบันทึกรายการด้อยค่าเต็มจ้านวนจากการลงทุนทั้งหมดใน RL ในไตรมาส 4 ปี 2566
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 154,912 ล้านบาท ลดลง 6.4% จากปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของสินค้าคงเหลือ ค่าความนิยม เงินลงทุน และสินทรัพย์ถาวร
* **หนี้สินรวม:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 98,600 ล้านบาท ลดลง 0.8% จากปีก่อนหน้า
* **ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 56,313 ล้านบาท ลดลง 14.7% จากปีก่อนหน้า
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
* **เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน:** 16,525 ล้านบาท
* **เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน:** 6,562 ล้านบาท
* **เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน:** 13,854 ล้านบาท
* **กระแสเงินสดอิสระ:** สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11,705 ล้านบาท
**6. อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ:**
* **ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย:** 36 วัน
* **ระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ย:** 152 วัน
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** 18.5%
* **อัตรากำไรสุทธิ:** 3.6%
* **อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA):** 5.6%
* **อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE):** 9.8%
* **อัตราผลตอบแทนต่อเงินทุน (ROIC):** 8.4%
* **อัตราส่วนสภาพคล่อง:** 1.57 เท่า
* **หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น:** 0.94 เท่า
* **หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อ EBITDA:** 3.97 เท่า
* **ความสามารถในการชำระดอกเบี้ย:** 5.36 เท่า
* **มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น:** 11.43 บาท
**7. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
* **ความเสี่ยง:**
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เนื่องจากมีผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทฯ
* ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ โดยเฉพาะปลาทูน่าและกุ้ง
* **โอกาส:**
* การเติบโตของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า
* การขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและตะวันออกกลาง
* การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าพรีเมียม
**8. เป้าหมายผลการดำเนินงานปี 2568:**
* **ยอดขาย:** เพิ่มขึ้น 3-4% จากปีก่อน
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** 18.5-19.5%
* **อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย:** 13.0-13.5%
* **งบลงทุน:** 4.5-5.0 พันล้านบาท
* **นโยบายเงินปันผล:** ไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
**9. สรุป:**
โดยสรุป TU มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2567 โดยมีรายได้รวมและอัตรากำไรขั้นต้นที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ การเติบโตนี้มาจากการเติบโตในธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นหลัก กระแสเงินสดอิสระแข็งแกร่งช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และราคาวัตถุดิบ การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเติบโต จะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตในอนาคต
**หมายเหตุ:** ข้อมูลนี้อ้างอิงจากเอกสารที่ให้มาเท่านั้น หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ เช่น รายงานประจำปีของบริษัทฯ หรือบทวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
(0.66%)
(1.49%)
(3.52%)
(3.58%)
(4.14%)
(5.16%)
(5.02%)
(18.13%)
(15.05%)
(108.83%)
(56.11%)
(29.39%)