สรุปงบล่าสุด TU
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**สรุปผลประกอบการของ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TU) ไตรมาส 3 ปี 2568**
**1. สรุปรายได้รวม:**
* บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานยอดขายในไตรมาส 3 ปี 2568 ที่ 34,501 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (หน้า 1)
* หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายจากการดำเนินงานปกติเติบโต 1.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง (หน้า 1)
* กำไรสุทธิตามที่ปรับปรุง (ไม่รวม transformation costs) อยู่ที่ 1,516 ล้านบาท ลดลง 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (หน้า 1)
* อัตรากำไรขั้นต้นยังคงแข็งแกร่งที่ 19.0% ในไตรมาส 3 ปี 2568 ซึ่งอยู่ในระดับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ 18.5 - 19.5% (หน้า 1)
* กำไรต่อหุ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการดำเนินการจดทะเบียนลดทุนจากการตัดหุ้นที่ซื้อคืนและจำหน่ายไม่ได้ (หน้า 1)
* กระแสเงินสดอิสระยังคงแข็งแกร่ง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มีเงินสดอิสระจำนวน 4,127 ล้านบาท (หน้า 1)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
* เศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอนท่ามกลางปัจจัยภายนอกที่อาจกดดันต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2568 (หน้า 14)
* การบังคับใช้ภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐอเมริกาฉบับใหม่ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าของผู้นำเข้าสินค้าในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความต้องการบริโภคที่ชะลอตัวในตลาดสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 (หน้า 14)
* การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2568 อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ และอาจจะสร้างความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในระยะสั้นซึ่งอาจจะกระทบต่อผลประกอบการที่รายงานจากผลของการแปลงค่าเงิน (หน้า 14)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* ต้นทุนขายในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 27,953 ล้านบาท ลดลง 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (หน้า 4)
* ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 4,753 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้น (หน้า 5)
* กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งบันทึกรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 54 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567 (หน้า 5)
* ต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 595 ล้านบาท ลดลงจาก 627 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทั่วโลก (หน้า 5)
* ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้อยู่ที่ 164 ล้านบาท ลดลงจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จำนวน 208 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราภาษีที่แท้จริงอยู่ที่ 9.3% ลดลงจาก 10.8% ในไตรมาส 3 ปี 2567 (หน้า 5)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ รายงานสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 158,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% จาก 154,912 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 11)
* หนี้สินรวมอยู่ที่ 106,767 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3% จาก 98,600 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 11)
* ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่ที่ 51,593 ล้านบาท ลดลง 8.4% จาก 56,313 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 11)
* อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.1 เท่า ซึ่งยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ 1.0 – 1.1 เท่า (หน้า 1)
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**
* **การออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม:** ไทยยูเนี่ยนออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทรัพยากรทางทะเล (Blue Bond) และหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน Sustainability-Linked Bonds เป็นครั้งแรกของประเทศไทย เดินหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืนภายใต้โครงการ SeaChange® 2030 (หน้า 2)
* **การยกเลิกการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์:** การยกเลิกการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยอัตโนมัติของมิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น เนื่องจากมีการตอบรับไม่เพียงพอ ไม่มีผลกระทบต่อแผนธุรกิจหรือการดำเนินงานของบริษัทฯ (หน้า 3)
* **รางวัลและการจัดอันดับ:** บริษัทฯ มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยยังคงได้รับการจัดอันดับที่ A+ แนวโน้ม Stable จากทริสเรทติ้ง และได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติด้านการบริหารงานคลังยอดเยี่ยมในภูมิภาคอาเซียน (หน้า 4)
* **เป้าหมายผลการดำเนินงานปี 2568:** บริษัทฯ ได้ปรับเป้าหมายผลการดำเนินงานปี 2568 ให้สะท้อนผลกระทบจากอัตราภาษีนำเข้าและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ขณะเดียวกันยังคงระดับอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ไว้ (หน้า 13)
* **การดำเนินงานด้านความยั่งยืน:** ความยั่งยืนยังคงเป็นรากฐานสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจของไทยยูเนี่ยน โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นยกระดับการดำเนินงานอย่างยั่งยืนให้ครอบคลุมการดำเนินงานทุกภาคส่วนรวมถึงระบบห่วงโซ่อุปทาน (หน้า 15)
(3.41%)
(1.07%)
(0.28%)
(3.60%)
(3.53%)
(2.53%)
(2.48%)
(1.30%)
(2.50%)
(23.79%)
(1.14%)
(6.52%)