ช่าวหุ้น MAJOR
เดือนนี้ / เดือนก่อน
ปีนี้ / ปีก่อน
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 04/12/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 04 ธ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 04 ธ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 1,000,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.60 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.50 มูลค่ารวม(บาท) : 6,580,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 7,532,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.99 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 50,746,385.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 03/12/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 03 ธ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 03 ธ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 750,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.70 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.60 มูลค่ารวม(บาท) : 4,987,500.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 6,532,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.86 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 44,166,385.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 02/12/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 02 ธ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 02 ธ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 500,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.85 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.75 มูลค่ารวม(บาท) : 3,400,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 5,782,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.76 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 39,178,885.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 01/12/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 01 ธ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 01 ธ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 602,900 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.75 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.65 มูลค่ารวม(บาท) : 4,041,785.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 5,282,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.70 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 35,778,885.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 28/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 28 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 28 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 300,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.85 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.80 มูลค่ารวม(บาท) : 2,051,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 4,680,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.62 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 31,737,100.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 27/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 27 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 27 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 480,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.90 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.85 มูลค่ารวม(บาท) : 3,289,500.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 4,380,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.58 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 29,686,100.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางสาวฐิตาภัสร์ อิสราพรพัฒน์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
kaohoon
MAJOR เปิดตัวโรงภาพยนตร์ Dolby Vision + Atmos แห่งแรกในอาเซียน 26/11/68
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เดินหน้ายกระดับมาตรฐานโรงภาพยนตร์ไทยสู่ระดับสากล พร้อมปฏิวัติวงการความบันเทิง เปิดตัว “โรงภาพยนตร์ Dolby Vision + Atmos” ซึ่งถือเป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกในประเทศไทย และแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ณ โรงภาพยนตร์ที่ 4 เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา เพื่อให้คนรักภาพยนตร์ได้สัมผัสประสบการณ์การชมระดับเวิลด์คลาส ทั้งนี้ โรงภาพยนตร์ Dolby Vision + Atmos ดังกล่าว ได้นำเทคโนโลยีภาพและเสียงล้ำสมัยที่สุดในโลกมาใช้ โดยระบบภาพ Dolby Vision ผ่านเครื่องฉายเลเซอร์ได้รับรางวัลจาก Academy Award ให้คุณภาพภาพเหนือกว่าโรงภาพยนตร์ระบบปกติอย่างชัดเจน จุดเด่นสำคัญ ได้แก่ ความสว่างมากกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไปถึง 2 เท่า เงามืดลึกกว่าเดิม 230 เท่า ให้คอนทราสสูงสุด 1,000,000:1 รองรับภาพ HDR ความคมชัดมากกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไปถึง 500 เท่า ให้สีสันกว้างขึ้น 22% ด้วย Dolby Wide Color Gamut และรองรับการฉายภาพเคลื่อนไหวแบบ High Frame Rate สูงสุด 120 เฟรมต่อวินาทีในระบบ 2K และ 48 เฟรมต่อวินาทีในระบบ 4K สำหรับระบบเสียง Dolby Atmos ถูกออกแบบเพื่อมอบมิติเสียงที่แม่นยำและสมจริงที่สุด ด้วยการรองรับตำแหน่งเสียงสูงสุด 128 จุด และช่องเสียงสูงสุด 64 ช่อง เพิ่มลำโพงด้านบนเพื่อให้เสียงเคลื่อนที่ได้รอบทิศทาง รวมถึงให้มิติเสียงเหนือศีรษะ ติดตั้งระบบเสียง 7.1 โดยมีลำโพงรวม 32 ช่องเสียงในโรงภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้อยู่ในเหตุการณ์ของภาพยนตร์จริง ๆ
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 26/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 26 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 26 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 520,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.60 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.45 มูลค่ารวม(บาท) : 3,403,550.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 3,900,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.51 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 26,396,600.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 25/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 25 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 25 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 600,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.60 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.55 มูลค่ารวม(บาท) : 3,951,050.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 3,380,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.45 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 22,993,050.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 24/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 24 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 24 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 600,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.65 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.65 มูลค่ารวม(บาท) : 3,990,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 2,780,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.37 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 19,042,000.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 04/12/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 04 ธ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 04 ธ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 1,000,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.60 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.50 มูลค่ารวม(บาท) : 6,580,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 7,532,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.99 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 50,746,385.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 03/12/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 03 ธ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 03 ธ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 750,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.70 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.60 มูลค่ารวม(บาท) : 4,987,500.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 6,532,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.86 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 44,166,385.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 02/12/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 02 ธ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 02 ธ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 500,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.85 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.75 มูลค่ารวม(บาท) : 3,400,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 5,782,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.76 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 39,178,885.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 01/12/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 01 ธ.ค. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 01 ธ.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 602,900 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.75 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.65 มูลค่ารวม(บาท) : 4,041,785.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 5,282,900 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.70 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 35,778,885.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 28/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 28 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 28 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 300,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.85 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.80 มูลค่ารวม(บาท) : 2,051,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 4,680,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.62 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 31,737,100.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 27/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 27 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 27 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 480,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.90 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.85 มูลค่ารวม(บาท) : 3,289,500.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 4,380,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.58 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 29,686,100.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางสาวฐิตาภัสร์ อิสราพรพัฒน์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
kaohoon
MAJOR เปิดตัวโรงภาพยนตร์ Dolby Vision + Atmos แห่งแรกในอาเซียน 26/11/68
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เดินหน้ายกระดับมาตรฐานโรงภาพยนตร์ไทยสู่ระดับสากล พร้อมปฏิวัติวงการความบันเทิง เปิดตัว “โรงภาพยนตร์ Dolby Vision + Atmos” ซึ่งถือเป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกในประเทศไทย และแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ณ โรงภาพยนตร์ที่ 4 เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา เพื่อให้คนรักภาพยนตร์ได้สัมผัสประสบการณ์การชมระดับเวิลด์คลาส ทั้งนี้ โรงภาพยนตร์ Dolby Vision + Atmos ดังกล่าว ได้นำเทคโนโลยีภาพและเสียงล้ำสมัยที่สุดในโลกมาใช้ โดยระบบภาพ Dolby Vision ผ่านเครื่องฉายเลเซอร์ได้รับรางวัลจาก Academy Award ให้คุณภาพภาพเหนือกว่าโรงภาพยนตร์ระบบปกติอย่างชัดเจน จุดเด่นสำคัญ ได้แก่ ความสว่างมากกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไปถึง 2 เท่า เงามืดลึกกว่าเดิม 230 เท่า ให้คอนทราสสูงสุด 1,000,000:1 รองรับภาพ HDR ความคมชัดมากกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไปถึง 500 เท่า ให้สีสันกว้างขึ้น 22% ด้วย Dolby Wide Color Gamut และรองรับการฉายภาพเคลื่อนไหวแบบ High Frame Rate สูงสุด 120 เฟรมต่อวินาทีในระบบ 2K และ 48 เฟรมต่อวินาทีในระบบ 4K สำหรับระบบเสียง Dolby Atmos ถูกออกแบบเพื่อมอบมิติเสียงที่แม่นยำและสมจริงที่สุด ด้วยการรองรับตำแหน่งเสียงสูงสุด 128 จุด และช่องเสียงสูงสุด 64 ช่อง เพิ่มลำโพงด้านบนเพื่อให้เสียงเคลื่อนที่ได้รอบทิศทาง รวมถึงให้มิติเสียงเหนือศีรษะ ติดตั้งระบบเสียง 7.1 โดยมีลำโพงรวม 32 ช่องเสียงในโรงภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้อยู่ในเหตุการณ์ของภาพยนตร์จริง ๆ
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 26/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 26 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 26 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 520,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.60 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.45 มูลค่ารวม(บาท) : 3,403,550.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 3,900,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.51 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 26,396,600.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 25/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 25 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 25 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 600,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.60 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.55 มูลค่ารวม(บาท) : 3,951,050.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 3,380,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.45 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 22,993,050.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 24/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 24 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 24 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 600,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.65 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.65 มูลค่ารวม(บาท) : 3,990,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 2,780,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.37 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 19,042,000.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 21/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 21 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 21 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 1,000,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 6.75 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 6.65 มูลค่ารวม(บาท) : 6,724,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 2,180,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.29 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 15,052,000.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 20/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 20 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 20 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 200,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 7.00 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 7.00 มูลค่ารวม(บาท) : 1,400,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 1,180,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.16 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 8,328,000.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 19/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 19 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 19 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 480,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 7.15 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 7.05 มูลค่ารวม(บาท) : 3,403,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 980,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.13 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 6,928,000.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางสาวฐิตาภัสร์ อิสราพรพัฒน์ ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน (แก้ไข) 19/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 18 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) (แก้ไข) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 (แก้ไข) 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 18 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 500,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 7.10 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 7.00 มูลค่ารวม(บาท) : 3,525,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 500,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.07 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,525,000.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางสาวฐิตาภัสร์ อิสราพรพัฒน์ ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
iaa
-
set
แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน 18/11/68
รายงานผลการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 18 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 15 พ.ค. 2569 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 500,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.07 1. ผลการซื้อหุ้นคืน วันที่ซื้อหุ้นคืน : 18 พ.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 500,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 7.10 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 7.00 มูลค่ารวม(บาท) : 3,525,000.00 2. จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 500,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.07 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 3,525,000.00 ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางสาวฐิตาภัสร์ อิสราพรพัฒน์ ) เลขานุการบริษัท กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
kaohoon
MAJOR คว้า “PRODUCT OF THE YEAR 2025” 5 ปีซ้อน ตอกย้ำผู้นำโรงภาพยนตร์ไทย 13/11/68
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ตอกย้ำความสำเร็จอีกขั้นในฐานะผู้นำธุรกิจโรงภาพยนตร์ของไทย คว้ารางวัลอันทรงเกียรติ “BUSINESS+PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2025” รางวัลเชิดชูเกียรติสำหรับสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี ประเภทโรงภาพยนตร์ ต่อเนื่องเป็น ปีที่ 5 โดยมี วิศรุต พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร เป็นผู้แทนบริษัทรับมอบรางวัลจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ซึ่งให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ให้แก่ 9 หมวดอุตสาหกรรม รวม 42 รางวัล ณ งานประกาศรางวัล BUSINESS+PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2025 โดยรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดย นิตยสาร Business+ ในเครือ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ภายใต้แนวคิด “Reaching for the hearts เข้าถึงใจผู้บริโภค” เพื่อยกย่ององค์กรและแบรนด์ที่สามารถสร้างคุณค่าและความผูกพันกับผู้บริโภค ผ่านคุณภาพของสินค้าและบริการ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และการแข่งขันทางธุรกิจ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสุดยอดโรงภาพยนตร์แห่งปีจากความโดดเด่น ด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาประสบการณ์การชมภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีภาพและเสียงระดับโลกมาใช้ การสร้างพื้นที่ความบันเทิงที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านความยั่งยืน
-
hoonsmart
MAJOR ควัก 600 ลบ. ซื้อหุ้นคืน 9.99% โชว์กำไร Q3/68 โตแรง 151% 12/11/68
ด้านหุ้น MAJOR ปิดตลาด 12 พ.ย.2568 ที่ 6.40 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 22.04 ล้านบาท ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 126.32 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.17 บาท เพิ่มขึ้น 151% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 50.33 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2568 กำไรสุทธิ 284.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.37 บาท ลดลง 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 422.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.51 บาท
-
mitihoon
MAJOR ทุ่ม 600 ลบ.ซื้อหุ้นคืน ประเดิม 17 พ.ย. นี้ 12/11/68
มิติหุ้น – บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป หรือMAJOR แจ้งตลท. ว่า ที่ประชุมบอร์ดมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทเพื่อบริหารทางการเงิน หรือTreasury Stock ภายในวงเงินไม่เกิน 600 ลบ. และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 75.70 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่ 17 พ.ย.68-15 พ.ค. 69 วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มROE และEPS รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
-
iaa
-
iaa
-
set
แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (แก้ไข) 11/11/68
โครงการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : ซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 วงเงินซื้อหุ้นคืน(ล้านบาท) (แก้ไข) : 600.00 วันที่เริ่มต้น - วันที่สิ้นสุดการซื้อหุ้นคืน : วันที่ 17 พ.ย. 2568 ถึงวันที่ 15 พ.ค. 2569 ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
-
kaohoon
MAJOR ไฟเขียว “ซื้อหุ้นคืน” วงเงิน 600 ล้านบาท เริ่ม 17 พ.ย.นี้ 11/11/68
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 มีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท โดยจะซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 75,700,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 9.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ไม่เกินร้อยละ 10 ตามที่กฎหมายกำหนด กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2569 ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว โดยบริษัทจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการซื้อหุ้นคืนดังกล่าวตามขั้นตอนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
-
kaohoon
MAJOR กำไรไตรมาส 3 โต 150% รับกระแส “Demon Slayer-Jurassic World” ดันยอดขายบัตรพุ่ง 11/11/68
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้ โดยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 โดยในไตรมาส 3/2568 บริษัทมีรายได้รวม 1,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 306 ล้านบาท หรือร้อยละ 18 และมีกำไรสุทธิ 126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76 ล้านบาท หรือร้อยละ 151 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 5,324 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 88 ล้านบาท หรือร้อยละ 2 และมีกำไรสุทธิ 284 ล้านบาท ลดลง 139 ล้านบาท หรือร้อยละ 33 โดยสาเหตุหลักมาจากในปี 2567 บริษัทมีกำไรพิเศษจากรายการภาษีเงินได้รอตัดบัญชีของบริษัทย่อย บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว กำไรสุทธิของปีนี้จะเพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท หรือร้อยละ 4 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานหลักและประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุน
-
mitihoon
#MAJOR แจ้งงบ Q3/68 กำไรแตะ 126 ล. 11/11/68
มิติหุ้น – MAJOR แจ้งผลประกอบการ งวดไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2568 บริษัทมีกำไร 126.32 ลบ. จากไตรมาส 3 ปี 2567 ที่มีกำไร 50.33 ลบ. ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง Web : https://www.mitihoon.com/ Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770 Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
-
fin
-
thunhoon
MAJOR เคาะซื้อหุ้นคืน วงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท กำหนดระยะเวลา 17 พ.ย. 68 – 15 พ.ค. 69 11/11/68
สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,324 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 88 ล้านบาท หรือ 2% และมีกำไรสุทธิ 284 ล้านบาท ลดลง 139 ล้านบาท หรือ 33% เนื่องจากในปีที่ผ่านมามีรายการพิเศษจากผลกระทบภาษีเงินได้รอตัดบัญชีของบริษัทย่อย บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (MPIC) ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท หรือ 4% จากปีก่อน สะท้อนถึงผลการดำเนินงานหลักที่มั่นคงและการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รายได้ไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากความสำเร็จของภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสูง เช่น Demon Slayer และ Jurassic World ส่งผลให้จำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาบัตรชมภาพยนตร์เฉลี่ยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Concession) เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการปรับโครงสร้างราคาขาย และการบริหารต้นทุนวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 รายได้รวมอยู่ที่ 5,324 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนภาพยนตร์เข้าฉายในช่วงต้นปีที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งมีฐานรายได้สูงจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่อง
-
set
แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน 11/11/68
โครงการซื้อหุ้นคืน เรื่อง : ซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 11 พ.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 75,700,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 9.99 วงเงินซื้อหุ้นคืน(ล้านบาท) : 600,000,000.00 วันที่เริ่มต้น - วันที่สิ้นสุดการซื้อหุ้นคืน : วันที่ 17 พ.ย. 2568 ถึงวันที่ 15 พ.ค. 2569 ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
MAJOR กวาด 3 รางวัลเกียรติยศ IAA Awards 2025 ตอกย้ำผู้นำธุรกิจบันเทิงครบวงจร 10/11/68
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ย้ำความสำเร็จด้านการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน คว้า 3 รางวัลเกียรติยศจากงาน “IAA Awards : Awards for Listed Companies 2025” ซึ่งจัดโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ได้แก่ รางวัล BEST CEO, รางวัล Outstanding CFO และ รางวัล Outstanding IR โดยเป็นการได้รับรางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจบันเทิงครบวงจรของประเทศไทย โดยมีนายวิศุรต พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร เป็นผู้แทนนายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ขึ้นรับมอบรางวัลอันทรงเกียรติ “BEST CEO” กลุ่ม Media และบริการอื่น จาก ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล พร้อมด้วย ไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ร่วมมอบรางวัล นอกจากนี้ วิศรุต พูลวรลักษณ์ ยังได้รับรางวัล Outstanding IR และ เป็นผู้แทน ฐิตาภัสร์ อิสราพรพัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน รับรางวัล Outstanding CFO โดยมีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ร่วมแสดงความยินดี สำหรับรางวัลอันทรงเกียรติทั้ง 3 สาขาในปีนี้ นับเป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โปร่งใส และเข้าถึงง่าย ตามหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน ซึ่งพิจารณาจากผู้บริหารที่มีความรอบรู้ในธุรกิจ มีจรรยาบรรณสูง และสนับสนุนข้อมูลแก่นักวิเคราะห์อย่างครบถ้วนและสม่ำเสมอ
-
set
แจ้งวันหยุดประจำปี 2569 06/11/68
-
iaa
-
iaa
-
set
-
thunhoon
บล.กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” MAJOR ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท 18/10/68
บล.กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” MAJOR ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท #ทันหุ้น #SET #MAJOR บล.กรุงศรี :บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คาดกำไรไตรมาส 3/2568 แข็งแกร่งสุดในรอบหลายปี เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ที่คาดอยู่ที่ 109 ล้านบาท เติบโต +116% YoY แม้ลดลงเล็กน้อย -13% QoQ โดยได้แรงหนุนจาก รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ (Box Office) ที่ทำสถิติสูงสุด (เมื่อเทียบไตรมาส 3 ต่อไตรมาส 3) ในรอบหลายปี ทั้งนี้ หากไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษจากการคืนพื้นที่เช่าที่พารากอน กำไรปกติจะอยู่ที่ 129 ล้านบาท (+130% YoY, -3% QoQ)
-
iaa
-
iaa
-
mitihoon
MAJOR ครึ่งหลังกำไรฟื้น รายได้ฉายหนังพุ่ง 15/10/68
มิติหุ้น – MAJOR โดย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า คาด Q3/68 กำไรสุทธิ 98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95%YoY รายได้ธุรกิจหลักเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่ทำรายได้เติบโต 35% YoY จากหนังทำเงินถล่มทลาย เรื่อง Jurassic World และ ดาบพิฆาตอสูร ส่งผลบวกต่อธุรกิจป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มที่ ทำรายได้เติบโตในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามธุรกิจโฆษณากลับมีรายได้ลดลงเทียบ กับปีก่อนเนื่องจากลูกค้าบางรายขอเลื่อนต่อสัญญาออกไปเป็น Q4/68 เพื่อรอดูหน้า หนังที่แข็งแรงมากกว่า ภายใต้อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
-
mitihoon
มิติหุ้น – บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ผู้นำธุรกิจโรงภาพยนตร์และความบันเทิงครบวงจรของประเทศไทย เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ป๊อปคอร์นโรงภาพยนตร์ในตำนาน “เมเจอร์ ป๊อปคอร์น” สู่ตลาดขนมขบเคี้ยว (Ready-to-Eat Snacks) ได้ร่วมมือกับ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายแปรรูปชั้นนำระดับโลก จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดย TKN ถือหุ้น 51% และ MAJOR ถือหุ้น 49% ของทุนจดทะเบียน เพื่อผลิตและจำหน่ายข้าวโพดคั่วพร้อมรับประทานภายใต้แบรนด์ “POPCORN MAJOR” มุ่งขยายช่องทางสู่ร้านค้าปลีกทั่วประเทศ เสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตสินค้าในกลุ่ม Family of Snacks และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับทั้งสององค์กร โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทร่วมทุนในไตรมาส 4 ปี 2568 วิศรุต พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ผนึกความร่วมมือ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น จำกัด” ซึ่งเป็นความร่วมมือทางธุรกิจที่เป็นการสร้าง Synergy ระหว่างผู้นำด้านความบันเทิงและผู้นำตลาดสแน็ก ที่นอกจากจะช่วยต่อยอดแบรนด์ ‘POPCORN MAJOR’ ให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับทั้งสองฝ่าย ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ การขยายช่องทางจัดจำหน่าย และการยกระดับมาตรฐานการผลิตที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสององค์กรเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน “การร่วมทุนในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญที่ท้าทาย คือ การผนึกกำลังระหว่างสองผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีความเชี่ยวชาญ แตกต่าง แต่สามารถเกื้อหนุนกันได้อย่างลงตัว เมเจอร์นำจุดแข็งจากแบรนด์ ‘เมเจอร์ ป๊อปคอร์น’ ที่เป็นที่ ชื่นชอบของคนรักการชมภาพยนตร์ ด้วยเอกลักษณ์ความอร่อยเฉพาะตัวที่แตกต่างจากป๊อปคอร์นทั่วไป ซึ่งเป็นรสชาติแห่งประสบการณ์ที่ผู้บริโภครู้จักและจดจำได้”
-
kaohoon
MAJOR ผนึก TKN ตั้ง “ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น” เจาะตลาดสแน็กทั่วประเทศ” 14/10/68
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ผู้นำธุรกิจโรงภาพยนตร์และความบันเทิงครบวงจรของประเทศไทย เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ป๊อปคอร์นโรงภาพยนตร์ในตำนาน “เมเจอร์ ป๊อปคอร์น” สู่ตลาดขนมขบเคี้ยว (Ready-to-Eat Snacks) ได้ร่วมมือกับ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายแปรรูปชั้นนำระดับโลก จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดย TKN ถือหุ้น 51% และ MAJOR ถือหุ้น 49% ของทุนจดทะเบียน เพื่อผลิตและจำหน่ายข้าวโพดคั่วพร้อมรับประทานภายใต้แบรนด์ “POPCORN MAJOR” มุ่งขยายช่องทางสู่ร้านค้าปลีกทั่วประเทศ เสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตสินค้าในกลุ่ม Family of Snacks และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับทั้งสององค์กร โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทร่วมทุนในไตรมาส 4 ปี 2568 ด้านนายวิศรุต พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ผนึกความร่วมมือ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น จำกัด” ซึ่งเป็นความร่วมมือทางธุรกิจที่เป็นการสร้าง Synergy ระหว่างผู้นำด้านความบันเทิงและผู้นำตลาดสแน็ก ที่นอกจากจะช่วยต่อยอดแบรนด์ ‘POPCORN MAJOR’ ให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับทั้งสองฝ่าย ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ การขยายช่องทางจัดจำหน่าย และการยกระดับมาตรฐานการผลิตที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสององค์กรเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน “การร่วมทุนในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญที่ท้าทาย คือ การผนึกกำลังระหว่างสองผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีความเชี่ยวชาญ แตกต่าง แต่สามารถเกื้อหนุนกันได้อย่างลงตัว เมเจอร์นำจุดแข็งจากแบรนด์ ‘เมเจอร์ ป๊อปคอร์น’ ที่เป็นที่ ชื่นชอบของคนรักการชมภาพยนตร์ ด้วยเอกลักษณ์ความอร่อยเฉพาะตัวที่แตกต่างจากป๊อปคอร์นทั่วไป ซึ่งเป็นรสชาติแห่งประสบการณ์ที่ผู้บริโภครู้จักและจดจำได้”
-
thunhoon
MAJOR ผนึก TKN ตั้งบ.ร่วมทุน ส่ง “POPCORN MAJOR” เจาะตลาดทั่วไทย 14/10/68
#ทันหุ้น – บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ผู้นำธุรกิจโรงภาพยนตร์และความบันเทิงครบวงจรของประเทศไทย เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ป๊อปคอร์นโรงภาพยนตร์ในตำนาน “เมเจอร์ ป๊อปคอร์น” สู่ตลาดขนมขบเคี้ยว (Ready-to-Eat Snacks) ได้ร่วมมือกับ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายแปรรูปชั้นนำระดับโลก จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดย TKN ถือหุ้น 51% และ MAJOR ถือหุ้น 49% ของทุนจดทะเบียน เพื่อผลิตและจำหน่ายข้าวโพดคั่วพร้อมรับประทานภายใต้แบรนด์ “POPCORN MAJOR” มุ่งขยายช่องทางสู่ร้านค้าปลีกทั่วประเทศ เสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตสินค้าในกลุ่ม Family of Snacks และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับทั้งสององค์กร โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทร่วมทุนในไตรมาส 4 ปี 2568 วิศรุต พูลวรลักษณ์ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ผนึกความร่วมมือ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKNผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น จำกัด” ซึ่งเป็นความร่วมมือทางธุรกิจที่เป็นการสร้าง Synergy ระหว่างผู้นำด้านความบันเทิงและผู้นำตลาดสแน็ก ที่นอกจากจะช่วยต่อยอดแบรนด์ ‘POPCORN MAJOR’ ให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับทั้งสองฝ่าย ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ การขยายช่องทางจัดจำหน่าย และการยกระดับมาตรฐานการผลิตที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสององค์กรเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน “การร่วมทุนในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญที่ท้าทาย คือ การผนึกกำลังระหว่างสองผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีความเชี่ยวชาญ แตกต่าง แต่สามารถเกื้อหนุนกันได้อย่างลงตัว เมเจอร์นำจุดแข็งจากแบรนด์ ‘เมเจอร์ ป๊อปคอร์น’ ที่เป็นที่ ชื่นชอบของคนรักการชมภาพยนตร์ ด้วยเอกลักษณ์ความอร่อยเฉพาะตัวที่แตกต่างจากป๊อปคอร์นทั่วไป ซึ่งเป็นรสชาติแห่งประสบการณ์ที่ผู้บริโภครู้จักและจดจำได้”
-
thunhoon
“MAJOR” เอเซีย พลัส แนะถือ คาด Q3/68 ธุรกิจโฆษณาฉุดกำไรฟื้นไม่เต็มที่ 14/10/68
#ทันหุ้น – บล.เอเซีย พลัส ส่องหุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR คาด Q3/68 กำไรสุทธิ 98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95%YoY รายได้ธุรกิจหลักเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่ทำรายได้เติบโต 35%YoY จากหนังทำเงินถล่มทลาย เรื่อง Jurassic World และ ดาบพิฆาตอสูร ส่งผลบวกต่อธุรกิจป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มที่ทำรายได้เติบโตในทิศทางเดียวกันอย่างไรก็ตามธุรกิจโฆษณากลับมีรายได้ลดลงเทียบ กับปีก่อนเนื่องจากลูกค้าบางรายขอเลื่อนต่อสัญญาออกไปเป็น Q4/68 เพื่อรอดูหน้าหนังที่แข็งแรงมากกว่า ภายใต้อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
-
iaa
-
iaa
-
mitihoon
MAJOR ผนึกTKN ตั้งบริษัทร่วมทุน ขายป๊อปคอร์นบุกตปท. 09/10/68
มิติหุ้น- บล.ฟิลลิป ระบุว่า TKN แจ้งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุน “ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น” เพื่อผลิตและจำหน่ายข้าวโพดคั่วแบบซองพร้อมทาน ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Popcorn Major” โดย TKN ถือหุ้น 51% และMAJOR ถือหุ้น 49% จากเดิม MAJOR จ้างให้ TKN เป็นผู้ผลิตให้ และMAJOR มีรายได้จากการขาย “Popcorn Major” ในร้านสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรด เดือนละ 6-7 แสนซอง การร่วมทุนกับTKN จะใช้ความชำนาญของTKN ในการกระจายและจัดส่ง รวมถึงช่องทางการขายในต่างประเทศ เพื่อรุกตลาดต่างประเทศด้วย และMAJOR คิดค้นรสชาติ เพื่อผลักดันยอดขายไปที่เดือนละ 1-1.5 ล้านซอง ช่วงแรกอาจทำให้รายได้ป๊อปคอร์นลดลง เพราะรายได้จากป๊อบคอร์นนอกโรงหนังที่ 19% จะโอนไปบริษัทร่วมทุน แต่ระยะยาวการเติบโตจะเข้ามาชดเชย ซึ่งMAJOR จะได้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมกลับมา สำหรับงวด Q3/68 รายได้จากหนัง Top10 คาดว่าจะโต 60% รายได้ดีขึ้น แต่จะมีการคืนพื้นที่เช่าบางส่วนให้สยาม พารากอน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเข้ามา 30-40 ลบ. แต่คาดกำไรจะยังโตได้ YoY ส่วนQ4/68 ที่เคยมองรายได้ “ธี่หยด3” น่าจะดีเหมือนภาค 2 ที่มีรายได้ boxoffice สูง 815 ลบ. แต่กระแสตอบรับไม่ดีเท่าภาค 2 และเป็นหนังไทยมีรายได้สูงสุดและเรื่องแรกของปีนี้ที่มีรายได้เกิน 200 ลบ. ถึงวันที่ 5 ต.ค. “ธี่หยด3” มีรายได้ 224 ลบ. แต่ยังมีหนังใหญ่อื่นจะช่วยชดเชยรายได้ที่ลดลงของ “ธี่หยด 3 ” จากภาค 2 อย่าง Avatar3 อนงค์2 รวมถึงหนังรองอีกหลายเรื่อง ยังคาด Q4/68 กำไรดีสุดของ MAJOR ในปีนี้ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 12.80 บาท
-
hoonsmart
TKN ผนึก MAJOR ตั้งบ.ร่วมทุน ส่ง “POPCORN MAJOR” เจาะตลาดขนมขบเคี้ยวทั่วประเทศ 08/10/68
HoonSmart.com>>”เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง” (TKN) ผนึก “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป” (MAJOR) ตั้งบริษัทร่วมทุน รุกตลาดข้าวโพดคั่วแบบซองพร้อมทาน ส่งแบรนด์ “POPCORN MAJOR” เจาะตลาดขนมขบเคี้ยวทั่วประเทศ ผนึกจุดแข็งสร้างพอร์ต Family of Snacks – Entertainment Brand เริ่มรับรู้รายได้ Q4/68 ตั้งเป้ายอดขายในปีแรกไม่ต่ำกว่า 238 ล้านบาท เพิ่มสัดส่วนรายได้ ผลิตภัณฑ์ Non-Seaweed จากไม่ถึง 5% เป็น 10% ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินตามกลยุทธ์ ‘GO Broad’ เพื่อขยายฐานธุรกิจกว้างขึ้นผ่านการพัฒนาสินค้านวัตกรรมกลุ่มใหม่ ๆ (Innovation Food) และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สาหร่าย (Non-seaweed) เข้าสู่ตลาด โดยมองเห็นศักยภาพการเติบโตของแบรนด์ ‘POPCORN MAJOR’ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2566 โดยพัฒนาจากป๊อปคอร์นโรงหนังมาอยู่ในรูปแบบซองเข้าสู่ตลาดขนมขบเคี้ยว (สแน็ก) ส่งผลให้เข้าถึงผู้บริโภคในชีวิตประจำวัน (Everyday life) ได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงเห็นโอกาสและช่องว่างการตลาดที่สามารถเติบโตได้จากการที่มีผู้เล่นหลักในตลาดเพียงรายเดียว TKN ได้เดินหน้ารุกขยายธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ล่าสุด บริษัทฯ ร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ในนาม ‘บริษัท ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น จำกัด’ เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิต จัดซื้อ และจัดจำหน่ายข้าวโพดคั่วแบบซองพร้อมรับประทาน ภายใต้เครื่องหมายการค้า “POPCORN MAJOR” ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดย TKN ถือหุ้น 51% และ MAJOR ถือหุ้น 49% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้ จะใช้ความเชี่ยวชาญจาก TKN ในการเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบในด้านรสชาติใหม่ ผู้ให้การสนับสนุนในด้านการตลาด การกระจายสินค้า และส่งเสริมการขยายธุรกิจดังกล่าวไปยังตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันในระยะยาว
-
set
-
hoonsmart
MAJOR ผนึก “ช่อง 3- M Studio” ยก “ธี่หยด3” สู่จอยักษ์ IMAX® เต็มอารมณ์หลอน 1 ต.ค.นี้ 29/09/68
HoonSmart.com>>”เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ผนึก “ช่อง 3- M Studio” สานต่อความสำเร็จ “ธี่หยด3” สร้างสถิติหนังไทยแห่งปีอีกครั้ง พร้อมยกระดับหนังไทยสู่จอยักษ์ IMAX® เต็มจอ เต็มอารมณ์หลอน 1 ตุลาคมนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสู่เวทีโลก ผนึกกำลัง ช่อง 3 (บีอีซี เวิล์ด) และ M Studio เปิดตัว “ธี่หยด 3” ภาคต่อของภาพยนตร์ไทยโกอินเตอร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด พร้อมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ครั้งสำคัญ ภาพยนตร์ทั้งเรื่องจะฉายในอัตราส่วนภาพขยาย 1.90:1 ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ IMAX® เต็มอรรถรสความหลอนทั้งภาพและเสียง “ธี่หยด 3” เตรียมเข้าฉายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ในระบบ IMAX® ทั้ง 10 สาขา และทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ โดยจะมีรอบพิเศษฉายชมก่อนใครแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะระบบ IMAX® ในวันที่ 30 กันยายนนี้ รอบ 19.00 น. เป็นต้นไป “ธี่หยด3”นำแสดงโดยนักแสดงแถวหน้าอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ รับบท “พี่ยักษ์”, ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน รับบท “ยี่” และ องอาจ เจียมเจริญพรกุล รับบท “จ่าปพันธ์” ร่วมถ่ายทอดความหลอน ลี้ลับ และปริศนา ที่จะกลับมาสะกดใจผู้ชมอีกครั้ง นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) กล่าวว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนภาพยนตร์ไทยที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะ “ธี่หยด 3“ ที่ถือเป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่น่าจับตามองที่สุดของปี คาดว่าจะทำรายได้สร้างสถิติใหม่อีกครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการหนังไทยในเวทีโลก ผ่านการฉาย ในระบบ IMAX® ที่ให้คุณภาพทั้งภาพและเสียงที่เหนือระดับ
-
set
-
set
-
set
-
hoonsmart
MAJOR ยกระดับสู่พื้นที่แห่งความบันเทิงระดับโลก ส่งคอนเสิร์ต BTS-CHA EUN-WOO-Kygo ขึ้นจอยักษ์ 23/09/68
HoonSmart.com>>”เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป” (MAJOR) ตอกย้ำจุดยืน “แพลตฟอร์มแห่งประสบการณ์” ยกระดับโรงภาพยนตร์สู่พื้นที่แห่งความบันเทิงระดับโลก นำคอนเสิร์ต K-POP และ EDM สู่จอยักษ์ พร้อมระเบิดความมันส์กับทัพคอนเสิร์ต BTS – CHA EUN-WOO – Kygo ให้ชมระหว่าง 24 ก.ย.-5 ต.ค.68 บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เดินหน้ายกระดับบทบาทสู่การเป็น “แพลตฟอร์มแห่งประสบการณ์” (Experience Platform) ด้วยการเปิดพื้นที่โรงภาพยนตร์ให้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อของแฟนเพลงทั่วไทยกับคอนเสิร์ตระดับโลกผ่านคอนเทนต์ทางเลือก (Alternative Content) ที่มอบมากกว่าการรับชม แต่คือการมีส่วนร่วมกับประสบการณ์ อย่างเต็มอารมณ์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ไม่ได้เป็นเพียงโรงภาพยนตร์ แต่คือ เวทีที่เชื่อมต่อความฝัน ความรู้สึก และศิลปินที่คุณรัก ให้มาใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีภาพและเสียงระดับโลก ซึ่งให้ความคมชัดระดับ 4K เปลี่ยนทุกที่นั่งให้เป็นที่นั่งหน้าคอนเสิร์ตในเดือนกันยายนนี้ แฟนคลับทั่วไทยจะได้ใกล้ชิดศิลปินระดับโลกแบบ “เกาะขอบเวที” กับคอนเทนต์ไฮไลท์ 3 เรื่องที่พลาดไม่ได้ ได้แก่
-
set
-
thunhoon
MAJOR โบรกฯ ชี้ Q4/68 น่าจับตา มีหนังไทยทำเงินหลายเรื่องต่อคิวเข้าฉาย “ธี่หยด3″นำร่อง 22/09/68
#MAJOR #ทันหุ้น-ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)หรือ MAJOR ระบุว่าไตรมาส 4/68 เป็นไตรมาสที่น่าจับตามองที่สุดของปี เพราะมีหนังไทยที่ M-Studio ร่วมสร้างถึง 5 เรื่อง เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค ที่ภาพยนตร์ “ธี่หยด 3” จะเข้าฉาย ลุ้นทำลายสถิติรายได้ “ธี่หยด 2” ที่เคยทำได้สูงถึง 800 ล้านบาท ส่วนอีก 4 เรื่อง ก็เป็นหนังจากผู้สร้างที่เคยทำรายได้สูงในอดีต ไม่ว่าจะเป็น อนงค์ 2, หมู่บ้านโคกระไหลก, หอแต๋วแตก และมือปืน ส่วนในไตรมาส 3/68 ภาพรวมธุรกิจโรงภาพยนตร์ คาดว่าจะออกมาดี เพราะมีหนังทำเงินถล่มทลายอย่าง Jurassic World และ ดาบพิฆาตอสูร ที่กวาดรายได้ทั่วประเทศกว่า 300 ล้านบาทเป็นตัวชูโรง นอกจากนี้ยังมีหนังอีกหลายเรื่องที่ทำรายได้ดีอย่าง Superman, คายอ้อ และ Fantastic4 เปรียบเทียบกับไตรมาส 3/67 ที่มีหนังทำเงินแค่เรื่อง Deadpool และ วิมานหนาม ฝ่ายวิจัยประเมินกำไรปกติงวดไตรมาส 3/68 ของ MAJOR น่าจะทำได้เติบโตทั้ง QoQ และ YoY อยู่ที่ระดับ 110-140 ล้านบาท พิจารณาจากรายได้ภาพยนตร์ที่เติบโต จะส่งผลต่อเนื่องไปถึงธุรกิจป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจโฆษณาในโรงภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามในงวดไตรมาส 3/68 จะมีค่าใช้จ่ายพิเศษเกิดขึ้นราว 30-40 ล้านบาท จากการคืนพื้นที่เช่าบางส่วนที่สาขาสยามพารากอน แต่ก็จะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวให้กับ MAJOR
-
iaa
-
iaa
-
thunhoon
กสิกรฯ มอง “MAJOR” ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนกำไรฟื้นตัว 18/09/68
#ทันหุ้น – ทันหุ้น -บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR มีอะไรใหม่? โดยอัปเดตธุรกิจกับหัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ ประการแรกรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศจากภาพยนตร์ 5 เรื่องที่ทำเงินสูงสุดของ MAJOR ในช่วง 10 สัปดาห์แรกของไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ประมาณ 580 ลบ. สูงกว่ารายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทั้งไตรมาสปีที่แล้วที่ 366 ลบ. และสูงกว่ารายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทั้งไตรมาส 2/2568 ที่ 455 ลบ. ประการที่สองราคาตั๋วเฉลี่ยในไตรมาส 3/2568 น่าจะแข็งแกร่งเช่นกัน เนื่องจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดทำผลงานได้ดี ประการที่สามรายได้จากโฆษณาในโรงภาพยนตร์น่าจะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ตามจำนวนผู้ชมภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น และการเลื่อนงบประมาณบางส่วนของลูกค้าจากไตรมาส 2/2568
-
set
-
mitihoon
มิติหุ้น – เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Luminox แบรนด์นาฬิกาชั้นนำ ระดับโลกที่เป็นสัญลักษณ์ของการผจญภัยและความแข็งแกร่ง เพื่อเปิดตัวแคมเปญสื่อสารแบรนด์ผ่านสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ IMAX with Laser ทั้ง 10 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งการจับมือครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังระหว่างสองแบรนด์ที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการมอบประสบการณ์ที่ “เหนือระดับ” ให้แก่ผู้บริโภค โดยมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์รักการผจญภัย ท้าทาย และหลงใหลในเทคโนโลยี ล้ำสมัย ผ่านการนำเสนอภาพลักษณ์ของ Luminox Pacific Diver Automatic 3100 รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งโดดเด่นด้วยหน้าปัดลายคลื่น สะท้อนจิตวิญญาณแห่งท้องทะเล พร้อมคุณสมบัติกันน้ำลึก 200 เมตร และเทคโนโลยีการเรืองแสงที่มองเห็นได้ตลอดเวลาในทุกสภาพแสง นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรายินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Luminox ในการถ่ายทอดภาพลักษณ์แบรนด์ที่เต็มไปด้วยพลังและความล้ำสมัย ผ่านประสบการณ์ IMAX ที่ให้ทั้งความตื่นเต้นและความประทับใจอย่างแท้จริง การนำเสนอผ่านระบบ IMAX with Laser ซึ่งขึ้นชื่อว่าให้ภาพและเสียงที่คมชัดสมจริงที่สุดในโลก ช่วยยกระดับการเล่าเรื่องของแบรนด์ Luminox ให้เข้าถึงอารมณ์และสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ชมอย่างลึกซึ้ง ด้วย จอภาพยนตร์ขนาดยักษ์ ระบบเสียงรอบทิศทางที่ทรงพลัง และเทคโนโลยีการฉายที่ชัดที่สุดในโลก ประสบการณ์การรับชมโฆษณาของ Luminox จึงไม่ใช่เพียงแค่การดู แต่คือ “การสัมผัส”
-
mitihoon
MAJOR หนังฟอร์มยักษ์ไทย-เทศพร้อมระเบิด 13/09/68
มิติหุ้น- MAJOR โดยบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) คาดกำไร Q3/68 พื้น QoQ YoY จากภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายมากขึ้น อาทิ Jurassic World Rebirth ,Superman และ The Fantastic Four : First Steps ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นจากกลยุทธ์ในการควบคุมต้นทุน และเลิกกลยุทธ์ในการปรับลดราคาป๊อปคอร์น แนวโน้ม Q4/68 คาดยังเติบโตดีต่อเนื่อง YOY จากภาพยนตร์ทำรายได้เกิน 100 ล้าน อาทิ Avata3 ธี่หยด3 อีเรียมซิ่ง2 ล้วนเป็นภาพยนตร์ทำเงินดีในภาคก่อน สำหรับธุรกิจอื่นๆ คาดว่าจะ ฟื้นตัวต่อเนื่องเช่นกัน อาทิธุรกิจป็อปคอร์น ที่หาช่องทางการขายใหม่ๆ มากขึ้น ส่วนรายได้โฆษณาคาดีขึ้นเนื่องจากภาพยนตร์ฟอร์มใหม่เข้าฉายมากขึ้นกว่าทั้งครึ่งปีแรกและปีก่อน ภาพรวมปี 68 คงประมาณการกำไรที่ 621 ลบ. ลดลง 17% ทั้งนี้ การจับมือกับ TKN ต่อยอดธุรกิจป็อปคอร์น มองมุมบวก เพราะนำจุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่ายมาผสมผสานกัน และดีลนี้จะช่วยให้เมเจอร์สามารถกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ใหม่จากธุรกิจอื่นนอกจากภาพยนตร์
-
thunhoon
MAJOR จับตา 2H/68 กลับมาเด่น หนังฟอร์มใหญ่ ต่อคิวเข้าฉายเพียบ 12/09/68
#ทันหุ้น – บล.หยวนต้า สแกนหุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR คาดกำไร Q3/68 ฟื้น QoQ, YoY จากภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายมากขึ้น ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นจากกลยุทธ์ในการควบคุมต้นทุน และเลิกกลยุทธ์ในการปรับลดราคาป๊อปคอร์น แนวโน้ม Q4/68 คาดยังเติบโตดีต่อเนื่อง YoY จากภาพยนตร์ทำเงินที่เข้าฉายต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อการตั้งบริษัทร่วมทุนกับ TKN ในการขยายธุรกิจป๊อปคอร์น คาดสร้าง synergy ทางธุรกิจและขยายฐานรายได้
-
set
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
-
set
-
iaa
-
set
-
hoonsmart
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
thunhoon
-
fin
-
set
แจ้งการลงทุนจัดตั้งบริษัทร่วมทุน 08/08/68
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
MAJOR ขนหนังฟอร์มยักษ์ จ่อเข้าฉายเพียบ! 28/07/68
MAJOR หรือ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดกำไร Q2/68 ที่ 100 ลบ. เติบโต 204% QoQ ฟื้นตัวเนื่องจากมีภาพยนตร์ฟอร์มดีเข้าฉายมากขึ้นอาทิ Lilo & Stitch (147 ลบ.) ,How to train your dragon (111ลบ.) , Mission: Impossible – The Final Reckoning (69ลบ.),พระแท้คนเก๊ (65ลบ.)
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
mitihoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
iaa
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
iaa
-
mitihoon
-
mitihoon
-
iaa
-
set
-
iaa
-
set
แจ้งการจดทะเบียนลดทุนชำระแล้ว 13/05/68
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
fin
-
thunhoon
-
set
-
set
-
set
-
iaa
No Title Found 06/05/68
-
iaa
No Title Found 02/05/68
-
set
-
set
รายงานผลการจำหน่ายหุ้นซื้อคืน (ไม่สามารถจำหน่ายได้) 30/04/68
รายงานผลการจำหน่ายหุ้นซื้อคืน เรื่อง : รายงานผลการจำหน่ายหุ้นซื้อคืน วันที่รายงานผล : 30 เม.ย. 2568 รายงานผลการจำหน่ายหุ้นซื้อคืน/ผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่จำหน่าย : 30 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ (หุ้น) : 0 ราคาสูงสุด (บาท/หุ้น) : 0.00 ราคาต่ำสุด (บาท/หุ้น) : 0.00 มูลค่ารวม (บาท) : 0.00 จำนวนหุ้นคงเหลือ (หุ้น) : 71,218,800 จำนวนหุ้นซื้อคืนคงเหลือที่ยังมิได้จำหน่ายรวม จำนวนหุ้นซื้อคืนที่ยังมิได้จำหน่าย (หุ้น) : 71,218,800 % ของจำนวนหุ้นซื้อคืนที่ยังมิได้จำหน่าย : 8.59 ต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว มูลค่ารวมของหุ้นซื้อคืนที่ยังมิได้จำหน่าย (บาท) : 71,218,800.00 วันที่ครบกำหนดระยะเวลาที่ต้องจำหน่ายหุ้นซื้อคืน : 30 เม.ย. 2568 บริษัทขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบรายงานนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ ลงลายมือชื่อ _________________ ( นางภารดี พูลวรลักษณ์ ) กรรมการ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ ลงลายมือชื่อ _________________ ( นายธนกร ปุลิเวคินทร์ ) กรรมการ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดสารสนเทศฉบับนี้แบบเต็ม โปรดคลิก "รายละเอียดแบบเต็ม"
-
iaa
-
thunhoon
-
iaa
-
kaohoon
CHAO-TKN ห่วงโซ่มาร์เก็ตติ้ง 21/04/68
-
mitihoon
-
thunhoon
-
iaa
-
iaa
-
mitihoon
-
set
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
kaohoon
-
fin
-
thunhoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
งบการเงิน ประจำปี 2567 (ตรวจสอบแล้ว) 21/02/68
-
set
-
iaa
-
iaa
-
kaohoon
-
iaa
-
iaa
-
thunhoon
-
iaa
-
iaa
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
set
-
set
-
set
-
thunhoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
thunhoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
-
set
-
set
-
thunhoon
ส่องหุ้น "MAJOR" โอกาส หรือ ความเสี่ยง? 12/12/67
#ทันหุ้น- บล.กสิกรไทย ส่อง บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ปีแห่งการกลับมา คาดว่ารายได้และกําไรปกติของ MAJOR จะฟื้นนตัวขึ้นในปี 2568 โดยประเมินจะเติบโตขึ้น 55.8% YoY ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่แข็งแกร่งขึ้นควบคู่ไปกับการขยายจํานวนโรงภาพยนตร์ในต่างจังหวัดของ MAJOR และกลยุทธ์การกําหนดราคาที่มีประสิทธิภาพจะเพิ่ม ส่งผลบวกอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยคาดว่าภาพยนตร์ฮอลลีวูดจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น หลังทําผลงานได้น่าผิดหวังในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
-
set
-
set
-
set
-
set
-
hoonsmart
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
thunhoon
'MAJOR' โบรกฯ ชี้กำไร Q3 ลดลง 52% คาด Q4/67 ดีขึ้น หนังใหม่จ่อคิวฉายเพียบ 12/11/67
ประเมินกำไรหลักปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 29%YoY จากการขยายโรงภาพยนตร์ต่างจังหวัดมากขึ้นและเน้นภาพยนตร์ไทยมากขึ้น โดยบริษัทวางแผนภาพยนตร์ไทยปีละ 50 เรื่อง ส่งผลให้รายได้อาหารและเครื่องดื่มทานเล่นและรายได้ค่าโฆษณาเติบโตตามรายได้ตั๋วภาพยนตร์ และการขายอาหาร Popcorn ผ่าน delivery รวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 เพิ่มขึ้น บริษัทได้มีการขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน Lotus, BigC ใน ก.พ.ที่ผ่านมา และบริษัทวางแผนขยาย โรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะต่างจังหวัด ปีนี้ประมาณ 47 โรงภาพยนตร์ 15 โลเคชั่น จากปีที่ผ่านมามี 851 โรงภาพยนตร์ 184 โลเคชั่น ฝ่ายวิจัยคาด Gross margin 34% ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย 24% ส่งผลให้คาดอัตรากำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 10%
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
MAJOR โบรกฯ ชี้กลับสู่ยุครุ่งเรือง 2H67 พลิกฟื้น Q4/67 ลุ้นธี่หยด 2 มาแรง 21/10/67
#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า สแกน หุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR คงคำแนะนำ “ซื้อ” กลับเข้าสู่ยุครุ่งเรืองของภาพยนตร์ไทย ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่พลิกฟื้นใน 2H67 และคาดเติบโตดีต่อเนื่องในปี 2568 ซึ่งคาดว่ารายได้จากภาพยนตร์ยังมีแนวโน้มเติบโตดี ตามกระแสภาพยนตร์ไทยที่กลับมานิยม และคาดฝั่งฮอลลีวูดจะมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายมากขึ้น รวมถึงการเติบโตจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่าง ธุรกิจจำหน่ายป๊อปคอร์นที่มีแผนขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ มากขึ้น ฝ่ายวิจัยมีการปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2568 ที่ 17.90 บาท อิงวิธี DCF สมมติฐาน WACC ที่ 7.8% Terminal growth 2%
-
kaohoon
-
mitihoon
-
thunhoon
MAJOR เคจีไอฯ คาดหนังดัง Hollywood ปี 68 หนุนรายได้โต 19/09/67
ขณะที่ทั้งปี 2567 -2568 คาดว่ากำไรจะขึ้น 1-2% บนสมติฐานของการปรับเพิ่ม GPM และสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้าน SG&A ต่อยอดขายและปรับลดรายได้รวมลง โดยที่กำไรใหม่ของ MAJOR ปี 2567 คาดอยู่ที่ 782 ล้านบาท (-19% YoY) จากฐานสูง ส่วนปี 2568 คาดกำไรอยู่ที่ 983 ล้านบาท เติบโต 26% YoY ด้วยแรงหนุนจากหนังโด่งดังหลายเรื่องของค่าย Hollywood ช่วยผลักดันรายได้จากโรงภาพยนตร์ให้เติบโตขึ้น (+20% YoY) และ margin ดีขึ้นด้วย
-
thunhoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
Technical Brief – บล.คิงส์ฟอร์ด 30/08/67
-
hoonsmart
-
thunhoon
MAJOR โบรกฯ ชี้กำไร Q2/67 ดีกว่าคาด รอลุ้น"ธี่หยด 2"หนุนกำไร Q4 09/08/67
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/67 คาดว่ากำไรจะลดลง YoY เนื่องจากหน้าหนัง Hollywood อ่อน และอ่อนตัวจาก QoQ ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล อย่างไรก็ตาม คาดว่าในไตรมาส 4/67 ธุรกิจโรงภาพยนตร์จะมีความคึกคัก โดยคาดว่าจะมีภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ธี่หยด 2" เข้าฉายในวันที่ 10 ต.ค. หลังจากที่ภาคแรกเคยทำรายได้สูง ส่วนในปีหน้ามองว่าจะมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่จาก Hollywood เข้าฉายมากขึ้น ประเมินว่าในปีหน้าจะมีกำไรอยู่ที่ 728 ล้านบาท เติบโต 19% YoY
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
thunhoon
MAJOR “หลานม่า” แบกไม่ไหว 10/07/67
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
mitihoon
MAJOR วางงบ 1,000 ลบ. ลุยซื้อหุ้นคืน 20/06/67
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
MAJOR-TMT กอดคอร่วง! ขึ้น XD วันแรก 09/04/67
-
mitihoon
-
mitihoon
MAJOR หนังดังจ่อฉาย ดันผลงานคึกคัก 26/02/67
-
thunhoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
mitihoon
TKN ลุ้นงบQ4/66มีเซอร์ไพรส์ ท่องเที่ยวบูมดันยอดพุ่ง 17/01/67
ขณะที่ผู้บริหาร TKN คาดผลประกอบการในปี 67 จะเติบโตกว่า 15% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น และเปิดตัวสินค้าใหม่อาทิ สาหร่ายรสชาติใหม่ๆมากขึ้น ประกอบกับแผนขยายตลาดในแถบยุโรปทั้ง อังกฤษ เยอรมนี เพิ่มเติมจากที่โฟกัสจีน,สหรัฐ,อินโดนีเซีย และมาเลเซียเป็นหลัก
-
mitihoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
จับทิศลงทุน "MAJOR" 14/12/66
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
hoonsmart
MAJOR โชว์กำไร 532 ลบ. พุ่ง 306% ขยายช่องทางขาย “ป๊อปคอร์น” ดันรายได้ 11/08/66
นางสาวฐิตาภัสร์ อิสราพรพัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงินและบัญชี บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,283 ล้านบาท กำไรสุทธิ 532 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 2 ปี 2565 มีรายได้รวม 1,639 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 131 ล้านบาท โดยผลประกอบการเติบโตขึ้น รายได้รวมปรับเพิ่มสูงขึ้น 39% กำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้น 306% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปี 2566 ที่เติบโตขึ้น มาจากรายได้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ 1,178 ล้านบาท, รายได้จากธุรกิจป๊อปคอร์น 654 ล้านบาท, รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณา 244 ล้านบาท, รายได้จากธุรกิจโบว์ลิ่ง 102 ล้านบาท, รายได้จากธุรกิจพื้นที่เช่า 63 ล้านบาท และรายได้จาก Movie Content 42 ล้านบาท ซึ่งทุกธุรกิจเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
MAJOR ลมเปลี่ยนทิศ 06/06/66
-
thunhoon
MAJOR เด่นกลุ่มสื่อ กำไรขาย MPIC 05/06/66
-
hoonsmart
ITC-MAJOR พันธมิตรต่างธุรกิจ พา “น้องหมา-แมว” ดูหนัง เพิ่มแบรนด์ไอเทล 29/05/66
ส่วนเรื่องผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2566 นั้น ในช่วงเดือนเม.ย.และพ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทฯยังคงได้รับผลกระทบจากกรณีสินค้าคงคลังของลูกค้าต่างประเทศมีอยู่จำนวนมาก ซึ่งจะต้องติดตามข้อมูลในเดือนมิ.ย.นี้ต่อไป อย่างไรก็ตามในครึ่งปีหลัง บริษัทฯจะนำกลยุทธ์ต่างๆ เช่น การออกสินค้าใหม่ที่สร้างรายได้เข้าบริษัททันทีมาใช้ เพื่อสร้างยอดขายในปีนี้ให้ได้สูงกว่าปีที่ผ่านมา หลังจากปรับลดเป้าหมายจากเติบโต 15% เหลือ 0% รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นจากระดับ 25% เหลือประมาณ 17-18%
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
MPIC หุ้นแร็ปเปอร์..!? 25/05/66
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
MAJOR หนังทำเงิน ชูไตรมาส2ทุบสถิติ 02/05/66
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
kaohoon
SET ผันผวนสูงและยากที่จะฟื้นตัวแรง 13/03/66
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
Daily Focus-บล.ฟินันเซีย ไซรัส 02/12/65
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
MAJOR กำไรทะลุจอ! 03/09/65
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
MAJORโตทุกไตรมาส หนังฟอร์มยักษ์เพียบ 14/06/65
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
MAJOR นักแสวงหา.!? 17/03/65
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
MAJOR-TKN เติมเต็มสิ่งที่ขาด.!? 11/03/65
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
จับตา MAJOR - SAWAD 11/02/65
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
MAJOR โบรกฯ ประเมิน Q4 เริ่มพลิกมีกำไร ปี 65 ฟื้นเด่น 04/02/65
#MAJOR #ทันหุ้น -บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ส่องหุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR คาดว่าผลประกอบการใน Q4/64 จะพลิกเป็นกำ ไร 55 ล้านบาท เทียบกับ ไตรมาสก่อนที่มีผลขาดทุนปกติ 389 ล้านบาท (ไม่นับรวมกำไรพิเศษจากการขายหุ้น SF) เนื่องจากผลบวกจากการเปิดประเทศ โรงภาพยนต์ กลับมาเปิดเกือบทุกโรง จากที่ปิดไป 5 เดือน เม.ย-ก.ย 64 โดยมีหนังฟอร์มใหญ่ ทำเงินดีหลายเรื่อง ส่งผลให้รายได้จากภาพยนต์เติบโต 11016%QoQ และ 35%YoY เป็น 884 ล้านบาท รายได้จากการขายอาหาร ป๊อบคอร์นเครื่องดื่ม +250%QoQ +23%YoY เป็น 344 ล้านบาท ขณะที่รายได้โฆษณาปรับเพิ่มขึ้น 2383%QoQ แต่ลดลง 15%YoY ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้นตามผลของขนาดรายได้ที่เพิ่ม และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงราว 17% จากการจ่ายคืนหนี้เงินกู้ แต่เนื่องจากบริษัทขายหุ้น SF ออกไปทา ให้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนลดลงเป็นผลให้เทียบกับปีก่อน 83%YoY
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
MAJOR พุ่งกระฉูด 10% นิวไฮรอบ 1 ปี คาดเก็งกำไรหุ้นเปิดเมือง โบรกฯเคาะเป้า 24 บาท 07/06/64
โดยหุ้นเด่นที่ ASPS เลือก คือ MTC ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลง 10% (mtd) ขณะที่ดัชนี (SET Index) ปรับตัวลง 1.8% (mtd) เท่านั้น หากพิจารณาทางด้านพื้นฐาน ถือว่ายังน่าสนใจจากทิศทางสินเชื่อจะเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่งวดไตรมาส 2/2564 เป็นต้นไป (เติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา) จากการเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก โดยเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้สินเชื่อมากขึ้น ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ในอุตสาหกรรมฯ คาดกำไรสุทธิปี 2564 จะเพิ่มขึ้น 15.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 6 พันล้านบาท
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
MAJOR กำไร Coming Soon.! 31/03/64
-
thunhoon
-
thunhoon
MAJOR คาดสัญญาณบวกกลับมาใน Q2-Q3/64 30/03/64
-
kaohoon
Kaohoon’s Top News on March 30, 2021 30/03/64
-
kaohoon
โบรกฯ แนะซื้อ MAJOR ชูหุ้น “แลกการ์ด” จับตาไตรมาส 2 แกร่ง รับหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉายเพียบ 30/03/64
เช่นเดียวกัน บล.ยูโอบีเคย์เฮียน ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น MAJOR ประเมินราคาเป้าหมาย 24 บาท/หุ้น มองแนวโน้มผลประกอบการของ MAJOR จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ไตรมาส 2/64 เป็นต้นไปเนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผ่อนคลายลงและภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์หลายเรื่องเข้าฉาย เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯเชื่อว่าผลประกอบการปี 64 จะพลิกกลับมากำไรจากการขาดทุนสุทธิจำนวนมากในปี 63 ล่าสุดได้ปรับประมาณการกำไรปี 64 ขึ้น 29% เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส4/63 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
MAJOR ลุ้นผลงานปี 64 พลิกเป็นบวกจาก COVID-19 คลี่คลาย ซื้อเก็งกำไรเป้า 21.50 บ. 16/03/64
แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/2564 จะยังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รอบ 2 ในประเทศ ส่งผลให้มีการปิดโรงภาพยนต์ชั่วคราวในเดือน ม.ค.แต่คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีตั้งแต่ไตรมาส 2/64 น่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นจากโปรแกรมภาพยนต์ Hollywood ฟอร์มใหญ่หลายเรื่องที่เลื่อนการฉายมาจากปีก่อน รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายอาหารและโฆษณาที่จะเริ่มฟื้นตัวตาม อิงประมาณการจาก Consensus คาดปี 64 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 832 ล้านบาท และคาดเติบโตต่อในปี 65 ที่ 1.26 พันล้านบาท +51%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
จับตา MAJOR-CBG 20/11/63
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
MAJOR ร่วมสบทบทุนวิจัยวัคซีนโควิด-19 01/10/63
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
MAJOR ครึ่งหลังเริ่มฟื้น หนังฟอร์มใหญ่จ่อเข้าฉายเพียบ ลุ้นปันผลปีหน้า 01/09/63
คาดว่าผลประกอบการในปี 2564จะฟื้นตัวโดดเด่น โดยคาดรายได้เติบโต 69%YoY เป็น 9,065 ล้านบาท โดยจากธุรกิจภาพยนต์จะฟื้นจากฐานต่ำ และภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ที่เลื่อนมาจากปี 2563 และภาพยนตร์ที่มีแผนจะฉายอยู่แล้ว ทำให้จะมีภาพยนต์เข้าฉายจำนวนมาก อาทิ Fast & Furious 9, Avatar2 , The Batman , Morbius , The Eternals ,Jurassic World 3 , venom 2, Sherlock Holmes 3 และ Mission: Impossible 7 เป็นต้น ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์คาดเพิ่ม 194%YoY เป็น 7,150 ล้านบาท ด้านรายได้โฆษณากลับมาสู่ภาวะปกติ +234%YoY เป็น 1,250 ล้านบาท
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
เคาะ MAJOR 18/08/63
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
MAJOR กลับตัวยาก ว่ากันใหม่ปีหน้า 23/04/63
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
A Quiet Place at MAJOR! 17/03/63
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
MAJOR โรงหนังร้าง.!? 17/03/63
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
MAJORเงินโฆษณาไหลเข้า ปันผลสูง-หนังใหม่อัพกำไร 17/12/62
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า กำไรปกติในงวด 9 เดือน62 คิดเป็น 80% ของกำไรทั้งปี ดังนั้นคาดกำไรปกติไตรมาส 4/62 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/62 เนื่องด้วยยังมีหนังแข็งแกร่งทั้งหนังไทยและฮอลลีวู้ด เช่น Jumaji : The next level, Frozen, Rambo และหนังไทย ได้แก่ จอมขมังเวทย์, ขุนแผนฟ้าฟื้น, ไบท์แมน 2 เป็นต้น ยังคงประมาณการเดิมคาดกำไรปกติปี 62 เติบโต 15% และปี 63 โต 12% จากคาดรายได้จากตั๋วหนังปี 62 เพิ่มขึ้น 2% และปี 63 เพิ่มขึ้น 8% จากการขยายโรงหนังเพิ่มขึ้น 26-30 โรง คาดรายได้จากการจำหน่ายอาหารคิดเป็นสัดส่วนรายได้การจำหน่ายตั๋วที่ 35-36% เติบโตตามรายได้ตั๋วหนัง คาดรายได้จากการโฆษณาเพิ่มขึ้น 13% และ 7% ตามลำดับ ตามการขยายโรงหนัง คาดรายการพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนปี 62 ที่ 29 ล้านบาท และปี 63 ไม่มีจำหน่ายเงินลงทุน ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 62 ลดลง 13% แต่ปี 63 เติบโต 9%
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
ทิสโก้ เจาะลึก 6 หุ้นธุรกิจสื่อ ประเมินกลยุทธ์-คำแนะนำ-ราคาเป้าหมาย, ชู PLANB-MAJOR 26/11/62
ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PLANB จากผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง จาก การลงทุนขยายสื่อใหม่ๆ ล่าสุดประกาศลงทุนเข้าถือหุ้น MACO สร้างรายได้เติบโตยั่งยืน หลังจากเพิ่งประกาศเข้าลงทุนสื่อโฆษณาในร้าน 7-Eleven ไม่นาน, เป็นตัวแทนบริหารสิทธิสื่อกีฬาโอลิมปิคสากลปีหน้า , ร่วมสร้าง synergy กับ VGI ผนึกความเป็นผู้นำตลาดสื่อนอกบ้าน และขยายสื่อดิจิทัลต่อเนื่องทั่วประเทศ คาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 25% (CAGR3Y) ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 11.00 บาท
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
MAJOR แนวโน้มกำไรยังสดใส 27/10/62
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
MAJOR ราคาหุ้นปรับลดลง 19% โบรกมองเป็นโอกาสสะสม ชี้ยังเติบโต-ปันผลสม่ำเสมอ 27/09/62
**กำไรปกติ Q3/62 ยังเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาลฝ่ายวิจัย คาดกำไรปกติ Q3/62 ในเบื้องต้นยังเติบโตแข็งแกร่งที่ประมาณ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64%YOY จาก Q3/61 มีกำไรปกติอยู่ที่ 122 ล้านบาท (กำไรสุทธิ Q3/61 อยู่ที่ 206 ล้านบาท เนื่องจากมีรายการพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุน) แต่ลดลงเทียบกับ Q2/62 ที่กำไรปกติ 505 ล้านบาท เนื่องจากปกติไตรมาส 2 เป็นช่วงไฮซีซั่นช่วงหน้าหนังของทุกปี คาดรายได้เพิ่มขึ้น +20%YoY จากรายการหนังแข็งแกร่งทั้งไทยและฮอลลีวู้ด โดยรายได้หนังในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.19 เติบโตแข็งแกร่งมากกว่า 40-50% จากรายการหนังทำเงิน ได้แก่ Spider Man : Far from Home 378 ล้านบาท, Fast & Furious : Hobbs and Shaw 306 ล้านบาท, The Lion King 135 ล้านบาท หนังไทย ได้แก่ หลวงตามหาเฮง
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
จับกระแส MAJOR-SAT 02/08/62
-
thunhoon
MAJOR โบรกเพิ่มน้ำหนักเป็น “ซื้อ” คาดรายได้ Q2 โตเป็นประวัติการณ์-ปันผลสูงราว 5% 31/07/62
บล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เพิ่มน้ำหนักคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” โดยปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงปี 2563 เป็น 31.50 บาท (10.5% Upside) คาดรายได้ในไตรมาสสองเติบโตได้ดีเป็น 3,188 ล้านบาท (+5% YoY) สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีหนัง Avengers: End Game เป็นตัวแปรสำคัญ ด้านกำไรปกติยังคงเติบโตเป็นสถิติใหม่ของบริษัทที่ 500 ล้านบาท (+4% YoY) แต่กำไรสุทธิอาจจะลดลงเล็กน้อย ส่วนหนังไทยจะเป็นตัวแปรสำคัญในไตรมาส 3/2562 ที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
MAJOR เติบโตท่ามกลางมรสุม Disruption 17/07/62
“นี่คือ ‘ความแข็งแกร่ง’ ของเมเจอร์ ปัจจุบันผู้ถือหุ้นเมเจอร์ส่วนใหญ่เป็นทั้งนักลงทุนสถาบันทั้งไทยและต่างชาติ เนื่องจากบริษัทมีผลการดำเนินการที่เติบโตขึ้นทุกปี การหารายได้จากธุรกิจหลักและหารายได้จากช่องทางใหม่ๆ เติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ สามารถจ่ายเงินปันผลที่มีอัตราสูงกว่า 80% ต่อเนื่อง”
-
thunhoon
MAJORหนังเข้าใหม่ทำเงิน รายได้โตตามเป้า-ยิวสูง5.4% 08/07/62
“ช่วงที่เหลือของปียังมีหนังเข้าฉายหลายเรื่อง อย่างล่าสุดก็สไปเดอร์-แมน เข้าและยังมีหลังฝรั่งอีกหลายเรื่องที่น่าจะทำรายได้ได้ดี รวมไปถึงหนังไทยด้วย ทำให้ปีนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้เติบโต 10-15% ซึ่งมองว่าอุตสาหกรรมหนังก็ยังเติบโตได้ดี คนก็ยังมีความต้องการชมภาพยนตร์ต่อเนื่อง” นายวิชา กล่าว
-
thunhoon
MAJORไตรมาส2ผลงานพีค หนังไทย-เทศจ่อเข้าฉายเพียบ 19/06/62
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/2562 โตดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ต่อเนื่องจากหนังฮฮลลีวู๊ดที่มีแผนเข้าฉายในช่วงต่อไปที่แข็งแกร่ง เช่น The Lion King, SpiderMan: Far from Home, Hobbs and Shaw รวมทั้งหนังไทยจะเข้าฉายราว 12 เรื่อง (รวมหนังของค่าย GDH) มากกว่าไตรมาสก่อน คาดว่ารายได้ตั๋วหนังจะยังเติบโตได้ จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ลดลงจากไตรมาส 2/2562 ตามฤดูกาลคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2562 โตดี 27% และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ 33 บาท พร้อมคงประมาณการกำไรปกติปี 2562 ที่ 1.23 พันล้านบาท โตดี 27% แม้กำไรสูทธิโตไม่มากนัก ที่ 8% เนื่องจากปีก่อนที่มีกำไรพิเศษสูง โดยเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลค่อนข้างสม่ำเสมอในอัตราใช้ได้ระดับ 5%
-
thunhoon
“Avenger”กอบกู้ MAJOR หนุนผลประกอบการ Q2/62 ดีสุดของปีนี้ 17/05/62
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ของบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ เนื่องจากภาพยนตร์เรื่อง Avenger: Endgame ที่เข้าฉาย สามารถทำรายได้ทั่วประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญ โดยยังมีภาพยนตร์ต่างประทศทั้งฟอร์มใหญ่และกลางที่ทยอยฉาย รวมถึงภาพยนตร์ไทย คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะยอดขายตั๋วตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 จนถึงขณะนี้โตแล้ว 15-20% แม้มีค่าค่าใช้พนักงานที่จะบันทึก 9.5 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีหลัง ภาพยนตร์ต่างประเทศและไทยยังมีต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
จังหวะเก็บ MAJOR ลุ้นกำไรไตรมาส 2 โตกระหึ่ม รับอานิสงส์ “Avengers Endgame” 02/05/62
ด้านนางสาวพรสุข อมรวดีกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หลังจากเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่มีภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดเข้าฉายในช่วงซัมเมอร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Avengers Endgame ที่ได้รับความสนใจและมีผู้ชมเข้ามาดูมาก จะทำให้รายได้จากการขายตั๋วเติบโตได้สูงกว่า 20% ในไตรมาส 2/62 และผลักดันให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 จะทำสถิติสูงสุดของปีนี้ด้วย
-
thunhoon
SET บ่ายแกว่งในช่วง 1,670 +/-5 จุด MAJOR เด่น 30/04/62
Ý SAPPE ตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโตก้าวกระโดด 30% รุกโหมแคมเปญตลอดปี
-
kaohoon
MAJOR ทะยานต่อ! บวกอีก 3% รับกระแส Avengers Endgame มาแรง-ลุ้นกำไรปีนี้สูงสุดในรอบ 5 ปี 30/04/62
นอกจากมีหนังที่ทำรายได้เกิน 100 ลบ.ถึง 5 เรื่องในไตรมาส 1/62 และมี line-up หนังที่แข็งแกร่งตลอดทั้งปี ทำให้คาดว่าการเติบโตของกำไรปกติในปีนี้จะสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 21% เป็น 1,173 ลบ. เป็นเม็ดเงินที่สร้างสถิติสูงสุด ราคาหุ้นพักฐานจน PE ลดจาก 24x เหลือ 22x เปิด upside อีกครั้ง
-
kaohoon
MAJOR วิ่งฉิว 4% ลุ้นกำไรปี 62 ทำนิวไฮรอบ 5 ปี รับกระแส “Avengers Endgame” ดันรายได้พุ่ง! 25/04/62
นอกจากนั้น ยังมีหนังที่ทำรายได้เกิน 100 ลบ.ถึง 5 เรื่องในไตรมาส 1/62 และมี line-up หนังที่แข็งแกร่งตลอดทั้งปี ทำให้คาดว่าการเติบโตของกำไรปกติในปีนี้จะสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 21% เป็น 1,173 ล้านบาท เป็นเม็ดเงินที่สร้างสถิติสูงสุด ขณะที่ด้านราคาหุ้นพักฐานจน PE ลดจาก 24 เท่า เหลือ 22 เท่า เปิด upside อีกครั้ง
-
kaohoon
MAJOR กระแส Avengers Endgame ร้อนแรง คาดหนุนกำไรปีนี้นิวไฮในรอบ 5 ปี ซื้อเป้า 31 บ. 25/04/62
นอกจากมีหนังที่ทำรายได้เกิน 100 ลบ.ถึง 5 เรื่องในไตรมาส1/62 และมี line-up หนังที่แข็งแกร่งตลอดทั้งปี ทำให้คาดว่าการเติบโตของกำไรปกติในปีนี้จะสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 21% เป็น 1,173 ลบ. เป็นเม็ดเงินที่สร้างสถิติสูงสุด ราคาหุ้นพักฐานจน PE ลดจาก 24x เหลือ 22x เปิด upside อีกครั้ง
-
thunhoon
-
thunhoon
MAJORหนังใหม่ทำเงิน หนุนผลงานปี62โดดเด่น 10/04/62
ก่อนหน้านี้นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่าสำหรับรายได้ในปี 2562 คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้เฉลี่ยที่ 10-15% จากการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์และภาพยนตร์ทั่วโลก ยังเติบโตต่อเนื่องในยุคดิจิทัล ทั้งนี้ประเทศไทยยังถือว่ามีจำนวนโรงภาพยนตร์น้อยกว่าประเทศอื่นๆ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดที่มีกว่า 67.7 ล้านคน
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
ดักเก็บ MAJOR โบรกฯฟันธงกำไรไตรมาส 4/61 โตทะลัก 244 ลบ. รับยอดขายตั๋วหนังพุ่ง 30/01/62
อีกทั้งจะปรับกลยุทธ์การขายโฆษณาจากเดิมขายโดยตรงให้เจ้าของสินค้า 70% และผ่านเอเจนซี่ 30% โดยจะเพิ่มสัดส่วนขายผ่านเอเจนซี่เป็น 50% เพราะ MAJOR ยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะขายโฆษณาตามโรงภาพยนตร์ในต่างจังหวัด กลยุทธ์ดังกล่าวคาดจะหนุนให้รายได้ค่าโฆษณาในปี 2562 เติบโตดีขึ้น อีกทั้งโปรแกรมหนังที่เข้าฉายในปี 2562 มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จำนวนมาก คาดจะช่วยให้กำไรปกติของ MAJOR ในปี 2562 เติบโตราว 10%
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
MAJOR พุ่ง 3% โบรกฯแนะซื้อเป้า 31 บ. ลุ้นกำไรไตรมาส 4 โตสนั่น พ่วงปันผลแจ่ม 22/01/62
ทั้งนี้ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” MAJOR ราคาเป้าหมาย 31 บาท/หุ้น และเลือกเป็น Top Pick กลุ่ม ผลตอบแทนเงินปันผลสูงเฉลี่ย 6% ต่อปี และจากกำไรงวดไตรมาส 4/61 ที่โดดเด่นเพิ่มขึ้น 20.4% เทียบจากปีกไตรมาสก่อน และ 232.1%เทียบจากปีก่อน เป็นผลจากรายได้จากขายตั๋ว เครื่องดื่ม และป๊อบคอร์นเติบโตถึง 25% เทียบจากไตรมาสก่อน และ 50% เทียบจากปีก่อนดีเกินคาด
-
kaohoon
-
kaohoon
MAJOR รายได้หนังดีเว่อร์!! 13/01/62
มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR จะกลับมาทำผลงานช่วงไตรมาส 4/2561 โดดเด่น โดยคาดกำไรจะเพิ่มขึ้นราว 20% จากไตรมาสก่อน และ 232% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากรายได้จากการขายตั๋ว เครื่องดื่ม และป๊อปคอร์น เติบโตถึง 25% จากไตรมาสก่อน และ 50% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ดีเกินคาด
-
thunhoon
-
kaohoon
MAJOR ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 15% ตั้งงบลงทุน 800 ลบ.ขยายโรงหนังเพิ่ม 74 แห่ง 06/12/61
ส่วนปีนี้มั่นใจรายได้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/61 คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่โดดเด่น จากการที่มีภาพยนตร์หลายเรื่องทั้งจากฮอลลีวู้ดและไทย มีกระแสนิยมและทำรายได้ได้ดีเข้าฉายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจำนวนมาก และเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค. 61) บริษัทได้เปิดให้บริการโรงภาพยนตร์แห่งใหม่ คือ “ไอคอน ซีเนคอนิค” (ICON CINECONIC) ที่ไอคอนสยาม เป็นวันแรก มีลูกค้าเข้ามาชมภาพยนตร์เป็นจำนวนมาก และสามารถขายตั๋วได้สูงที่สุดมากถึง 6,000 ใบ ภายในวันเดียว มากกว่าการขายตั๋วของโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ช่วยหนุนผลการดำเนินงานในช่วงโค้งสุดท้ายได้อย่างมีนัยสำคัญ
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
3 โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” MAJOR ฟันธงกำไรไตรมาส 4/61 โตกระโดดรับหนังฟอร์มยักษ์จ่อคิวฉายเพียบ! 14/11/61
อีกทั้งในเดือนธ.ค.นี้ MAJOR เตรียมเปิดโรงภาพยนตร์ใหม่ที่ไอคอนสยาม จำนวน 14 โรง ที่จะเข้ามาช่วยเสริมรายได้ของธุรกิจไนเดือนสุดท้าย และในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ไทย 2 เรื่อง คือ นาคี 2 และ Homestay สามารถทำรายได้ได้ดี ส่วนในช่วงไตรมาส 4 นี้จะมีการรับรู้รายได้ค่าโฆษณาของลูกค้าที่ทำการต่อสัญญาใหม่เข้ามา ซึ่งช่วยหนุนภาพรวมผลการดำเนินงานของ MAJOR ไนไตรมาสสุดท้ายที่โดดเด่น และยังคาดว่ากำไรของ MAJOR ในปีนี้จะเติบโต 20% จากปีที่ผ่านมา
-
kaohoon
-
thunhoon
MAJOR‘นาคี2"ทำเงินหนุนผลงานQ4ขึ้นแรง 22/10/61
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
เคาะ MAJOR 04/09/61
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
MAJOR หนังดัง”ฮอลลีวู้ด”ทำเงิน 16/07/61
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
เคาะ MAJOR 19/06/61
-
thunhoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
kaohoon
MAJOR จากปลายสู่ต้น..! 00/00/3