บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
MAJOR กำไรปี 67 ลดลง 29% เหลือ 744 ล้านบาท! ธุรกิจโรงหนังเจอศึกหนัก
P/E 8.58 YIELD 2.92 ราคา 6.95 (0.00%)
ภาพรวมผลประกอบการปี 2567
ปี 2567 เป็นปีที่ท้าทายสำหรับ MAJOR โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 7,767 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้ 8,551 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 29% เหลือ 744 ล้านบาท จาก 1,042 ล้านบาทในปี 2566 อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการปรับกลยุทธ์ธุรกิจบางส่วนช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบได้บ้าง
ปัจจัยฉุดรายได้และกำไร
ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ ได้แก่ จำนวนภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้รับความนิยม ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลกระทบต่อรายได้จากธุรกิจโรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ ในปี 2566 บริษัทยังมีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนในบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 346 ล้านบาท ซึ่งทำให้กำไรสุทธิในปี 2566 สูงกว่าปี 2567 อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโบว์ลิ่ง คาราโอเกะ และพื้นที่เช่า มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการปรับปรุงพื้นที่และกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงการมีร้านค้าใหม่ในสาขาสุขุมวิท ขณะที่ภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ธี่หยด" ก็ทำรายได้สูงสุดช่วยชดเชยรายได้ที่ลดลงจากส่วนอื่น ๆ
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ถึงแม้รายได้จะลดลง แต่ MAJOR ก็สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้นทุนขายและบริการลดลง 11% เหลือ 5,046 ล้านบาท ทำให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงจาก 66% เป็น 65% อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 2% เป็น 2,196 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าบริหารจัดการสาขาที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายสาขา และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบเทคโนโลยี
สรุปและแนวโน้ม
ปี 2567 เป็นปีที่ MAJOR ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน แต่การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการปรับกลยุทธ์ธุรกิจบางส่วนช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบได้บ้าง การฟื้นตัวของธุรกิจโรงภาพยนตร์ และการขยายธุรกิจไปยังส่วนอื่นๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการเติบโตของบริษัทในอนาคต