บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
MAJOR หุ้นโรงหนังรอวันคืนชีพ! เอเซีย พลัส ชี้ Q3/68 กำไรโต หนังดังเพียบ หนุนทั้งปีตามเป้า
P/E 8.19 YIELD 3.06 ราคา 6.60 (0.00%)
ASPS มอง MAJOR กำไร Q3/68 โตทั้ง QoQ และ YoY หนังทำเงินเพียบ แต่โดนฉุดจากค่าใช้จ่ายพิเศษ คาดปี 68 กำไรลดลงเล็กน้อย แต่ปี 69 กลับมาโตได้ พร้อมประเมินราคาเหมาะสม 14.80 บาท
ไฮไลท์สำคัญ
- ASPS คาดการณ์กำไรปกติ Q3/68 ของ MAJOR เติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากรายได้ภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น หนุนธุรกิจป๊อปคอร์น เครื่องดื่ม และโฆษณาในโรงภาพยนตร์
- 4Q68 เป็นไตรมาสที่น่าจับตา มีหนังไทยที่ M-Studio ร่วมสร้างถึง 5 เรื่อง รวมถึงภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่น่าสนใจอย่าง Avatar3
- ราคาหุ้น MAJOR ปรับตัวลง 47% ตั้งแต่ต้นปี 2568 สะท้อนความกังวลของนักลงทุน แต่ ASPS มองว่า Line Up ภาพยนตร์ที่น่าสนใจจะช่วยให้ราคาหุ้นกลับมาสร้างผลตอบแทนได้
ASPS วิเคราะห์ผลประกอบการและปัจจัยขับเคลื่อน
บล.เอเซีย พลัส (ASPS) ประเมินกำไรปกติงวด 3Q68 ของ MAJOR จะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY อยู่ที่ระดับ 110-140 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้ภาพยนตร์ที่เติบโต ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจป๊อปคอร์น เครื่องดื่ม และโฆษณาในโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์ทำเงินใน 3Q68 ได้แก่ Jurassic World และ ดาบพิฆาตอสูร ที่กวาดรายได้ทั่วประเทศกว่า 300 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีหนังอีกหลายเรื่องที่ทำรายได้ดีอย่าง Superman คายอ้อ และ Fantastic4
อย่างไรก็ตาม ในงวด 3Q68 จะมีค่าใช้จ่ายพิเศษเกิดขึ้นราว 30-40 ล้านบาท จากการคืนพื้นที่เช่าบางส่วนที่สาขาสยามพารากอน แต่จะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวให้กับ MAJOR
ASPS มองว่า งวด 4Q68 เป็นไตรมาสที่น่าจับตามองที่สุดของปี เนื่องจากมีภาพยนตร์ไทยที่ M-Studio ร่วมสร้างถึง 5 เรื่อง เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค. ที่ภาพยนตร์ธี่หยด 3 จะเข้าฉาย ซึ่งมีโอกาสทำลายสถิติรายได้ของธี่หยด 2 ที่เคยทำได้สูงถึง 800 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์จากผู้สร้างที่เคยทำรายได้สูงในอดีต เช่น อนงค์ 2 หมู่บ้านโคกระไหลก หอแต๋วแตก และมือปืน
ข้อสังเกตและประมาณการ
แม้ว่ากำไร 1H68 จะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 25% ของประมาณการทั้งปี และกำไรสุทธิ 3Q68 อาจถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายพิเศษ แต่ ASPS เชื่อว่า ภาพยนตร์ไทยภาคต่อที่เคยทำเงินสูงในอดีต และภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่น่าจับตามองที่สุดของปีอย่าง Avatar3 จะช่วยปลุกชีพธุรกิจโรงภาพยนตร์ และหนุนกำไรทั้งปีให้มีโอกาสทำได้ตามเป้าหมายที่ ASPS คาดไว้ที่ 624 ล้านบาท ลดลง 16% YoY
ASPS ประเมินราคาเหมาะสมของ MAJOR ด้วยวิธี DCF ได้ที่ 14.80 บาท คิดเป็น Implied PER 18 เท่า
สรุป
ASPS ให้น้ำหนักลงทุน Neutral สำหรับ MAJOR โดยมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาสะท้อนความกังวลของนักลงทุนแล้ว แต่ Line Up ภาพยนตร์ที่น่าสนใจจะช่วยให้ราคาหุ้นกลับมาสร้างผลตอบแทนได้เท่ากับตลาด