บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
MAJOR: กำไร 4Q25F ส่อแววไม่สดใส "สัปเหร่อ2" เลื่อนฉาย ฉุดราคาเป้าหมาย
P/E 8.19 YIELD 3.06 ราคา 6.60 (0.00%)
Krungsri Securities (KSS) ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ของ MAJOR ลง 19% และราคาเป้าหมายลง 16% เหลือ 11.10 บาท จากเดิม 13.20 บาท เนื่องจากภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เลื่อนฉายและกระแสตอบรับไม่ดีเท่าที่คาด
"ธี่หยด3" กระแสแผ่ว
ชมรมวิจารณ์บันเทิงเผยรายได้เปิดตัว 4 วันแรกของ "ธี่หยด3" ทำได้ 72 ล้านบาท ต่ำกว่า "ธี่หยด2" ที่ทำได้ 106 ล้านบาท กระแสความนิยมไม่สูงเท่าภาคก่อน หนังทำเงินทั่วประเทศ 300 ล้านบาท เทียบกับ "ธี่หยด1" ที่ 500 ล้านบาท และ "ธี่หยด2" ที่ 800 ล้านบาท
"สัปเหร่อ2" เลื่อนฉาย
ภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์ "สัปเหร่อ2" และ "อีเรียมซิ่ง2" เลื่อนฉายจาก 4Q25 ไปเป็นปี 2569 "สัปเหร่อ1" ทำรายได้ทั่วประเทศกว่า 600 ล้านบาท ในปี 2566 ส่วน "อีเรียมซิ่ง1" ทำได้ 200 ล้านบาท ในปี 2563
ผลกระทบต่อประมาณการ
KSS คาดการณ์ว่ารายได้จากการขายตั๋วหนังของ MAJOR ใน 4Q25F จะเติบโตเพียงเล็กน้อย ขณะที่รายได้ค่าโฆษณาลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ อัตรากำไรลดลงจากการกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบ ส่งผลให้กำไร 4Q25F มีแนวโน้มลดลง
คำแนะนำการลงทุน
ถึงแม้ KSS จะมองแนวโน้มธุรกิจโรงหนังใน 4Q25F เป็นลบ แต่ยังคงคำแนะนำ "Buy" สำหรับ MAJOR โดยให้เหตุผลว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา 47% YTD ทำให้ซื้อขายที่ 13x ต่ำกว่า -1SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม Media (16x) สะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว นอกจากนี้ คาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผล 4-5% ต่อปี และมี Catalyst บวกจากภาพยนตร์ไทยฟอร์มใหญ่ที่จะเข้าฉายใน 1Q26 เช่น "สัปเหร่อ2" และ "ครุฑา นาคี"