MAJOR กำไรปกติ 4Q24 ต่ำกว่าคาด! KSS ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 15.60 บาท แต่ยังคงแนะนำ "Buy"

P/E 8.19 YIELD 3.06 ราคา 6.60 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: กำไรปกติ 4Q24 ต่ำกว่าคาด แต่คาดปี 2025F โต +15%yy

บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี (KSS) ปรับลดราคาเป้าหมาย (TP25F) ของ MAJOR ลงเป็น 15.60 บาท (เดิม 17.10 บาท) สะท้อนกำไรปกติ 4Q24 ต่ำกว่าคาด -38% จากค่าใช้จ่าย SG&A สูงกว่าคาด อย่างไรก็ตาม KSS มองว่าราคาหุ้นที่ลดลงมาซื้อขายที่ P/E’25F 18x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตสะท้อนแล้ว และคาดกำไรปกติปี 2025F โต +15%yy จึงยังคงคำแนะนำ "Buy"

ผลประกอบการ 4Q24: ต่ำกว่าคาดจาก SG&A ที่สูงขึ้น

MAJOR รายงานกำไรปกติ 4Q24 ที่ 178 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ KSS คาดการณ์ไว้ -38% เนื่องจากค่าใช้จ่าย SG&A สูงกว่าคาด +38% อย่างไรก็ตามมีกำไรสุทธิ 321 ล้านบาท สูงกว่าคาด +12% จากรายการพิเศษหนุน กำไรปกติลดลง -41%yy จากฐานสูงในปีก่อน (ปีก่อนมีภาพยนตร์ไทย 3 เรื่องทำรายได้สูง vs ปีนี้มี 2 เรื่อง) รายได้ลดลง -20%yy แต่กำไรปกติเพิ่ม +218%qq ตามฤดูกาลรายได้เพิ่ม +42%qq ขณะที่กำไรสุทธิลดลง -4%yy แต่เพิ่มขึ้น +539%qq กำไรปกติปี 2024 อยู่ที่ 524 ล้านบาท ลดลง -12%yy จากรายได้ที่ลดลง -9%yy เนื่องจากหน้าหนังสู้ปีก่อนไม่ได้ และกำไรสุทธิ 744 ล้านบาท ลดลง -29%yy ทั้งนี้ MAJOR ประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2024 จำนวน 0.20 บาท/หุ้น (xd 17 เม.ย. จ่าย 7 พ.ค.)

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2025F-2026F: สะท้อนผลประกอบการปี 2024 ที่ต่ำกว่าคาด

KSS ปรับลดกำไรปกติปี 2025F-26F ลง -17% เป็น 602 ล้านบาท (+15%yy) และ 661 ล้านบาท (+10%yy) ตามลำดับ สะท้อนกำไรปกติปี 2024 ต่ำกว่าคาด -20% จากรายได้ต่ำกว่าคาด -5% โดย KSS ได้ (1) ปรับลดรายได้ลง -4% และ (2) ปรับเพิ่มค่าใช้จ่าย SG&A ขึ้น +7% KSS คาดกำไรปกติปี 2025F จะฟื้นกลับมาเติบโต +15%yy จากหน้าหนัง Hollywood มีแนวโน้มดีขึ้น และยังมีภาพยนตร์ไทยภาคต่อที่ทำรายได้สูงเข้าฉายต่อเนื่อง เช่น สัปเหร่อ2 ธี่หยด3 เป็นต้น คาดรายได้ขายตั๋วหนัง และรายได้ขายอาหารและเครื่องดื่มโต +9%yy หนุนรายได้รวมเติบโต +8%yy

คำแนะนำการลงทุน: คงคำแนะนำ "Buy"

KSS คงคำแนะนำ "Buy" ปรับลดราคาเป้าหมาย (TP25F) เป็น 15.60 บาท (เดิม 17.10 บาท) ประเมินด้วยวิธี DCF, WACC 7% เทียบเท่า P/E’25F ที่ 21.5x (ระหว่างค่าเฉลี่ยในอดีตถึง +1SD) KSS มองว่าหุ้น MAJOR น่าสนใจจาก (1) เป็นผู้นำธุรกิจโรงภาพยนตร์ในประเทศ (ส่วนแบ่งตลาด 70%) (2) คาดหน้าหนังปี 2025F ดีกว่าปี 2024 โดยเฉพาะหนังไทย และ (3) ราคาหุ้นลดลงมาซื้อขายที่ P/E’25F เพียง 18x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตสะท้อนกำไร 2024 ต่ำกว่าคาดแล้ว ขณะที่ผลประกอบการมีความเสี่ยงผันผวนตามความนิยมของภาพยนตร์ที่เข้าฉาย

โพสต์ล่าสุด