ช่าวหุ้น SCGD
เดือนนี้ / เดือนก่อน
ปีนี้ / ปีก่อน
-
oppday
-
hoonsmart
SCGD ทุ่มลงทุน 599 ล้านบาท เพิ่มผลิตกระเบื้องเวียดนามตามแผนกลยุทธ์ 25/11/68
HoonSmart.com>>”เอสซีจี เดคคอร์” (SCGD) เผย PRIME บริษัทย่อยในเวียดนามลงทุน 599 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนเป็นทั้งสิ้น 25.6 ล้านตารางเมตรต่อปีหรือประมาณ 32% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จากเดิมที่ 25% สิ้นปีนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวในอาเซียน สร้างโอกาสขยายตลาดส่งออกไปในภูมิภาคต่าง ๆ รักษาส่วนแบ่งตลาดในเวียดนาม นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ (SCGD) เปิดเผยว่า PRIME Dai Loc Joint Stock Company บริษัทในเครือของ PRIME Group Joint Stock Company (PRIME) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGD ถือหุ้นทั้งหมด จะ ลงทุนโครงการปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลน ภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 499 พันล้านเวียดนามดอง (หรือประมาณ 599 ล้านบาท) โดย PRIME จะพิจารณาใช้แหล่งเงินทุนภายใน PRIME มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปลายปี 2569 โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงสายการผลิต 1 และ 2 ที่โรงงาน Dai Loc ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม โดยจะปรับเปลี่ยนสายการผลิตจากกระเบื้องเซรามิกขนาด 6 ล้านตารางเมตรต่อปี เป็นกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนขนาด 6.6 ล้านตารางเมตรต่อปี หากแล้วเสร็จ PRIME จะมีกำลังการผลิตเกรซพอร์ซเลนทั้งสิ้น 25.6 ล้านตารางเมตรต่อปีหรือประมาณ 32%ของกำลังการผลิตทั้งหมด (จากเดิมที่ 25% ณ สิ้นปี 2568)
-
kaohoon
SCGD ทุ่มงบ 599 ล้าน! อัปเกรดโรงงานเวียดนาม มุ่งผลิต “เกลซพอร์ซเลน” ดันกำไรระยะยาว 24/11/68
บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า PRIME Dai Loc Joint Stock Company บริษัทในเครือของ PRIME Group Joint Stock Company ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGD ถือหุ้นทั้งหมด จะดำเนินการลงทุนโครงการปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องจักรในประเทศเวียดนาม เพื่อขยายกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลน โดยใช้งบลงทุนรวมประมาณ 499 พันล้านเวียดนามดอง หรือราว 599 ล้านบาท ทั้งนี้ PRIME จะใช้แหล่งเงินทุนภายใน และโครงการมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปลายปี 2569 โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงสายการผลิตที่ 1 และ 2 ของโรงงาน Dai Loc ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม โดยจะเปลี่ยนสายการผลิตเดิมที่เป็นกระเบื้องเซรามิกกำลังการผลิต 6 ล้านตารางเมตรต่อปี ให้เป็นกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนกำลังการผลิต 6.6 ล้านตารางเมตรต่อปี เมื่อโครงการแล้วเสร็จ PRIME จะมีกำลังการผลิตเกรซพอร์ซเลนรวม 25.6 ล้านตารางเมตรต่อปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32 ของกำลังการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากระดับร้อยละ 25 ณ สิ้นปี 2568 การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวในภูมิภาคอาเซียน โดยมุ่งตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดเวียดนาม รวมถึงเพิ่มโอกาสการขยายตลาดส่งออกไปยังภูมิภาคอื่น พร้อมยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันและรักษาสถานะผู้นำตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวในประเทศเวียดนาม
-
thunhoon
SCGD ทุ่มงบ 599 ลบ. เพิ่มกำลังผลิตกระเบื้องในบ.ย่อยที่เวียดนาม 24/11/68
#SCGD #ทันหุ้น-บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCGD แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า PRIME Dai Loc Joint Stock Company บริษัทในเครือของ PRIME Group Joint Stock Company (หรือ “PRIME”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGD ถือหุ้นทั้งหมด จะลงทุนโครงการปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลน ภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 499 พันล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 599 ล้านบาท โดย PRIME จะพิจารณาใช้แหล่งเงินทุนภายใน มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปลายปี 2569 โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงสายการผลิต 1 และ 2 ที่โรงงาน Dai Loc ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม โดยจะปรับเปลี่ยนสายการผลิตจากกระเบื้องเซรามิกขนาด 6 ล้านตารางเมตรต่อปี เป็นกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนขนาด 6.6 ล้านตารางเมตรต่อปี หากโครงการนี้แล้วเสร็จ PRIME จะมีกำลังการผลิตเกรซพอร์ซเลนทั้งสิ้น 25.6 ล้านตารางเมตรต่อปีหรือ 32% ของกำลังการผลิตทั้งหมด (จากเดิมที่ 25% ณ สิ้นปี 2568) การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวในอาเซียน โดยมุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของตลาดประเทศเวียดนามที่เพิ่มสูงขึ้นสร้างโอกาสในการขยายตลาดส่งออกไปในภูมิภาคต่าง ๆอีกทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในฐานะผู้นำตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวในประเทศเวียดนาม
-
set
-
set
-
set
-
hoonsmart
SCGD โชว์พลังกลยุทธ์ กำไรออลไทม์ไฮ ต้นทุนผลิตต่ำชนะผู้เล่นระดับโลก 13/11/68
HoonSmart.com>>”เอสซีจี เดคคอร์” (SCGD) ผู้นำผลิตภัณฑ์ตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในอาเซียน เพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจาก 4 กลยุทธ์ ลดต้นทุน 4 ด้าน เกิดดอกออกผล กำไรและอัตรากำไรสุทธิไตรมาส 3/68 สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา (ออลไทม์ไฮ) PRIME ที่เวียดนาม ฮับส่งออกลดต้นทุนการผลิตกระเบื้องเกรซ พอร์ซเลนลงต่ำกว่าผู้เล่นระดับโลก เสริมศักยภาพส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มความสามารถแข่งขันได้ดี แนวโน้มปี 69 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง สิทธิชัย สุขกิจประเสริฐ นายสิทธิชัย สุขกิจประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “SCGD ได้เริ่มดำเนินการตามแผนกลยุทธ์มาตั้งแต่กลางปี 2567 เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน ผลที่ได้รับในวันนี้สร้างความแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากผลดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 มีกำไรและอัตรากำไรสุทธิ (ออลไทม์ไฮ) EBITDA จำนวน 902 ล้านบาท เติบโต 12% QoQ จากไตรมาส 2 ที่ 803 ล้านบาทและเติบโต 18% YoY มี EBITDA Margin อยู่ที่ 16% กำไรสุทธิ 305 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.3% เพิ่มขึ้น 37% QoQ และ 61% YoY โตต่อเนื่อง” ความสำเร็จของ SCGD มาจาก 4 กลยุทธ์ ได้แก่
-
set
-
iaa
-
oppday
-
hoonsmart
SCGD ทุ่มลงทุน 599 ล้านบาท เพิ่มผลิตกระเบื้องเวียดนามตามแผนกลยุทธ์ 25/11/68
HoonSmart.com>>”เอสซีจี เดคคอร์” (SCGD) เผย PRIME บริษัทย่อยในเวียดนามลงทุน 599 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนเป็นทั้งสิ้น 25.6 ล้านตารางเมตรต่อปีหรือประมาณ 32% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จากเดิมที่ 25% สิ้นปีนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวในอาเซียน สร้างโอกาสขยายตลาดส่งออกไปในภูมิภาคต่าง ๆ รักษาส่วนแบ่งตลาดในเวียดนาม นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ (SCGD) เปิดเผยว่า PRIME Dai Loc Joint Stock Company บริษัทในเครือของ PRIME Group Joint Stock Company (PRIME) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGD ถือหุ้นทั้งหมด จะ ลงทุนโครงการปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลน ภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 499 พันล้านเวียดนามดอง (หรือประมาณ 599 ล้านบาท) โดย PRIME จะพิจารณาใช้แหล่งเงินทุนภายใน PRIME มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปลายปี 2569 โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงสายการผลิต 1 และ 2 ที่โรงงาน Dai Loc ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม โดยจะปรับเปลี่ยนสายการผลิตจากกระเบื้องเซรามิกขนาด 6 ล้านตารางเมตรต่อปี เป็นกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนขนาด 6.6 ล้านตารางเมตรต่อปี หากแล้วเสร็จ PRIME จะมีกำลังการผลิตเกรซพอร์ซเลนทั้งสิ้น 25.6 ล้านตารางเมตรต่อปีหรือประมาณ 32%ของกำลังการผลิตทั้งหมด (จากเดิมที่ 25% ณ สิ้นปี 2568)
-
kaohoon
SCGD ทุ่มงบ 599 ล้าน! อัปเกรดโรงงานเวียดนาม มุ่งผลิต “เกลซพอร์ซเลน” ดันกำไรระยะยาว 24/11/68
บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า PRIME Dai Loc Joint Stock Company บริษัทในเครือของ PRIME Group Joint Stock Company ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGD ถือหุ้นทั้งหมด จะดำเนินการลงทุนโครงการปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องจักรในประเทศเวียดนาม เพื่อขยายกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลน โดยใช้งบลงทุนรวมประมาณ 499 พันล้านเวียดนามดอง หรือราว 599 ล้านบาท ทั้งนี้ PRIME จะใช้แหล่งเงินทุนภายใน และโครงการมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปลายปี 2569 โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงสายการผลิตที่ 1 และ 2 ของโรงงาน Dai Loc ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม โดยจะเปลี่ยนสายการผลิตเดิมที่เป็นกระเบื้องเซรามิกกำลังการผลิต 6 ล้านตารางเมตรต่อปี ให้เป็นกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนกำลังการผลิต 6.6 ล้านตารางเมตรต่อปี เมื่อโครงการแล้วเสร็จ PRIME จะมีกำลังการผลิตเกรซพอร์ซเลนรวม 25.6 ล้านตารางเมตรต่อปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32 ของกำลังการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากระดับร้อยละ 25 ณ สิ้นปี 2568 การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวในภูมิภาคอาเซียน โดยมุ่งตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดเวียดนาม รวมถึงเพิ่มโอกาสการขยายตลาดส่งออกไปยังภูมิภาคอื่น พร้อมยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันและรักษาสถานะผู้นำตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวในประเทศเวียดนาม
-
thunhoon
SCGD ทุ่มงบ 599 ลบ. เพิ่มกำลังผลิตกระเบื้องในบ.ย่อยที่เวียดนาม 24/11/68
#SCGD #ทันหุ้น-บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCGD แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า PRIME Dai Loc Joint Stock Company บริษัทในเครือของ PRIME Group Joint Stock Company (หรือ “PRIME”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGD ถือหุ้นทั้งหมด จะลงทุนโครงการปรับปรุงเทคโนโลยีและเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลน ภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 499 พันล้านเวียดนามดอง หรือประมาณ 599 ล้านบาท โดย PRIME จะพิจารณาใช้แหล่งเงินทุนภายใน มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปลายปี 2569 โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงสายการผลิต 1 และ 2 ที่โรงงาน Dai Loc ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม โดยจะปรับเปลี่ยนสายการผลิตจากกระเบื้องเซรามิกขนาด 6 ล้านตารางเมตรต่อปี เป็นกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนขนาด 6.6 ล้านตารางเมตรต่อปี หากโครงการนี้แล้วเสร็จ PRIME จะมีกำลังการผลิตเกรซพอร์ซเลนทั้งสิ้น 25.6 ล้านตารางเมตรต่อปีหรือ 32% ของกำลังการผลิตทั้งหมด (จากเดิมที่ 25% ณ สิ้นปี 2568) การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวในอาเซียน โดยมุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของตลาดประเทศเวียดนามที่เพิ่มสูงขึ้นสร้างโอกาสในการขยายตลาดส่งออกไปในภูมิภาคต่าง ๆอีกทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในฐานะผู้นำตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวในประเทศเวียดนาม
-
set
-
set
-
set
-
hoonsmart
SCGD โชว์พลังกลยุทธ์ กำไรออลไทม์ไฮ ต้นทุนผลิตต่ำชนะผู้เล่นระดับโลก 13/11/68
HoonSmart.com>>”เอสซีจี เดคคอร์” (SCGD) ผู้นำผลิตภัณฑ์ตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในอาเซียน เพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจาก 4 กลยุทธ์ ลดต้นทุน 4 ด้าน เกิดดอกออกผล กำไรและอัตรากำไรสุทธิไตรมาส 3/68 สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา (ออลไทม์ไฮ) PRIME ที่เวียดนาม ฮับส่งออกลดต้นทุนการผลิตกระเบื้องเกรซ พอร์ซเลนลงต่ำกว่าผู้เล่นระดับโลก เสริมศักยภาพส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มความสามารถแข่งขันได้ดี แนวโน้มปี 69 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง สิทธิชัย สุขกิจประเสริฐ นายสิทธิชัย สุขกิจประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “SCGD ได้เริ่มดำเนินการตามแผนกลยุทธ์มาตั้งแต่กลางปี 2567 เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน ผลที่ได้รับในวันนี้สร้างความแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากผลดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 มีกำไรและอัตรากำไรสุทธิ (ออลไทม์ไฮ) EBITDA จำนวน 902 ล้านบาท เติบโต 12% QoQ จากไตรมาส 2 ที่ 803 ล้านบาทและเติบโต 18% YoY มี EBITDA Margin อยู่ที่ 16% กำไรสุทธิ 305 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.3% เพิ่มขึ้น 37% QoQ และ 61% YoY โตต่อเนื่อง” ความสำเร็จของ SCGD มาจาก 4 กลยุทธ์ ได้แก่
-
set
-
iaa
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
#SCGD แจ้งงบ Q3/68 กำไรแตะ 304 ลบ. 07/11/68
มิติหุ้น – SCGD แจ้งผลประกอบการ งวดไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2568 บริษัทมีกำไร 304.44 ลบ. จากไตรมาส 3 ปี 2567 ที่มีกำไร 188.99 ลบ. ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง Web : https://www.mitihoon.com/ Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770 Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
iaa
-
hoonsmart
“คิงส์ฟอร์ด”คาด SET ทรงตัวรอเฟดคืนนี้ แนะ SCGD-CBG 29/10/68
HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด มองตลาดหุ้นวันนี้ คาดดัชนีทรงตัวรอผลประชุมเฟดในวันพุธ และการหารือสหรัฐ – จีนในวันพฤหัสนี้ แนะทยอยซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้า,ไอทีซี หุ้นเด่นแนะ SCGD , CBG บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,305 – 1,310 จุด แนวต้าน 1,320 – 1,325 จุด คาดดัชนีทรงตัวรอผลการประชุมเฟดช่วงค่ำวันนี้ และการหารือสหรัฐ – จีนในวันพฤหัสนี้ ในการประชุม Apec วันพฤหัสนี้ รวมถึงการรายงานกำไร บจ.Q3/68 ซึ่ง BB.Consensus คาด +20% YoY แต่ -30% QoQ เนื่องจาก Q2 ที่ผ่านมา SCC,THAI,GULF มีการบันทึกกำไรพิเศษค่อนข้างสูง กลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,BGRIM,GUNKUL ได้ประโยชน์จากโครงการโซลาร์ชุมชุนและ Direct PPA, กลุ่มไอซีที ADVANC,TRUE คาดกำไร Q3/68 เติบโตดี กอปรได้แรงหนุนจากเทรนด์การใช้ AI
-
iaa
-
iaa
-
hoonsmart
SCGD โชว์กำไร Q3/68 เพิ่ม 37% เร่งผลิต-ส่งออก ตลาดอาเซียน 28/10/68
HoonSmart.com>> SCGD เผยผลประกอบการไตรมาส 3 กำไร 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% โตเทียบไตรมาสก่อน และดีที่สุดตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมี PRIME ประเทศเวียดนามเป็นฐานการผลิตส่งออกทั่วอาเซียน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต-บริหารต้นทุน อีกทั้งพัฒนาสินค้า HVA และกลุ่มสินค้าใหม่ในประเทศไทยเข้าถึงผู้บริโภคครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) (SCGD) ผู้นำในธุรกิจเซรามิก วัสดุตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า “ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 EBITDA อยู่ที่ 902 ล้านบาท ดีขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 18 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรอยู่ที่ 305 ล้านบาท ดีขึ้นร้อยละ 37 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 61 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA on sales และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 16 และร้อยละ 5.3 ตามลำดับ ทั้งนี้ หากพิจารณาผลประกอบการที่ไม่รวมผลกระทบของ Non-Recurring บริษัทยังคงมีอัตราความสามารถในการทำกำไรดีที่สุด จากการเดินหน้าตามกลยุทธ์ที่เข้มข้นรวมถึงการเร่งปรับตัวเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2568 บริษัทมี EBITDA อยู่ที่ 2,513 ล้านบาทและกำไรอยู่ที่ 744 ล้านบาท
-
thunhoon
SCGD สรุปคำแนะนำการลงทุนและประมาณการกำไร 28/10/68
SCGD สรุปคำแนะนำการลงทุนและประมาณการกำไร #ทันหุ้น #SCGD รวมข้อมูลบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ สรุปคำแนะนำการลงทุน ราคาเป้าหมาย และประมาณการผลการดำเนินงาน
-
mitihoon
มิติหุ้น – 28 ตุลาคม 2568 – SCGD เผยผลประกอบการไตรมาส 3 กำไร 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% โตเทียบไตรมาสก่อน และดีที่สุดตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมี PRIME ประเทศเวียดนามเป็นฐานการผลิตส่งออกทั่วอาเซียน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต-บริหารต้นทุน อีกทั้งพัฒนาสินค้า HVA และกลุ่มสินค้าใหม่ในประเทศไทยเข้าถึงผู้บริโภคครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCG Decor (SCGD) ผู้นำในธุรกิจเซรามิก วัสดุตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า “ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 EBITDA อยู่ที่ 902 ล้านบาท ดีขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 18 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรอยู่ที่ 305 ล้านบาท ดีขึ้นร้อยละ 37 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 61 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA on sales และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 16 และร้อยละ 5.3 ตามลำดับ ทั้งนี้ หากพิจารณาผลประกอบการที่ไม่รวมผลกระทบของ Non-Recurring บริษัทยังคงมีอัตราความสามารถในการทำกำไรดีที่สุด จากการเดินหน้าตามกลยุทธ์ที่เข้มข้นรวมถึงการเร่งปรับตัวเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2568 บริษัทมี EBITDA อยู่ที่ 2,513 ล้านบาทและกำไรอยู่ที่ 744 ล้านบาท
-
thunhoon
SCGD พุ่ง 6.12% สวนตลาดรับกำไร Q3/68 โต 61% YoY 28/10/68
บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) (“SCGD”) ราคาหุ้นขึ้นอย่างร้อนแรงในการซื้อขายช่วงเช้าของวันที่ 28 ตุลาคม 2568 โดยราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 5.25 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 6.12% ท่ามกลางความเชื่อมั่นของนักลงทุนหลังบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ที่แข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก กำไรสุทธิไตรมาส 3/68 ของ SCGD อยู่ที่ 304 ล้านบาท เติบโตถึง 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 37% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ขณะที่กำไรปกติ (ไม่รวมรายการพิเศษ) อยู่ที่ 288 ล้านบาท พุ่งขึ้น 53% YoY ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่อง บทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำไรของ SCGD พุ่งขึ้นอย่างโดดเด่น แม้ว่า รายได้จากการขายรวมจะลดลง 10% YoY มาอยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท:
-
kaohoon
SCGD พุ่ง 5% รับกำไร Q3 โตแรง 61% แตะ 304 ล้านบาท ดีกว่าโบรกคาด เคาะเป้า 6 บ. 28/10/68
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (28 ต.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ณ เวลา 10:26 น. อยู่ที่ระดับ 5.15 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 5.10% สูงสุดที่ระดับ 5.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.00 บาทด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12.53 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง SCGD รายงานกำไรไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากไตรมาสก่อนหน้าและ 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษ คือ ค่าชดเชยเหตุการณ์น้ำท่วมในฟิลิปปินส์ 16 ล้านบาท (เทียบกับขาดทุน 60 ล้านบาทในไตรมาส 2/68) กำไรปกติอยู่ที่ 288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดกระเบื้องของไทยเป็นตลาดเดียวที่หดตัว 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามการซบเซาของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ตลาดอื่นๆ ขยายตัวทั้งอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 9%, ฟิลิปปินส์ 3%, และเวียดนาม 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
-
set
-
iaa
-
thunhoon
SCGD กำไร Q3/68 ที่ 305 ลบ. โต 61% จากช่วงเดียวกันปีก่อน 27/10/68
#SCGD #ทันหุ้น-บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ SCGD แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ไตรมาส 3/68 มีกำไรอยู่ที่ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 37% จากไตรมาสก่อน โดยบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมี EBITDA อยู่ที่ 902 ล้านบาท ดีขึ้น 12% จากไตรมาสก่อน และ 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบดังกล่าว เป็นผลมาจากความพยายามในการลดต้นทุนของฐานการผลิตในไทยและต่างประเทศ และการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การออกสินค้านวัตกรรมที่มีอัตราการทำกำไรดี และการลดต้นทุนการผลิตโดยโดยใช้พลังงานชีวมวลและพลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนการผลิตกระเบื้องรวมต่อตารางเมตรอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ และลดลงอย่างมีนัยยะเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
-
fin
-
mitihoon
#SCGD แจ้งงบ Q3/68 กำไร 304,447 ลบ. 27/10/68
มิติหุ้น – SCGD แจ้งผลประกอบการ Q3/ 68 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2568 บริษัทมีกำไร 304,447 ลบ. จากไตรมาส 3 ปี 2567 ที่มีกำไร 188,990 ลบ. ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง Web : https://www.mitihoon.com/ Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770 Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
thunhoon
บัวหลวงชี้ SCGD ใกล้ถึงจุดต่ำสุด ก่อนฟื้นในปี 69 จากต้นทุนลด 09/10/68
#ทันหุ้น -บล.บัวหลวง ส่องหุ้น บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD คาดกำไรสุทธิ Q3/68 อยู่ที่ 300 ล้านบาท (+59% YoY, +35% QoQ) จากการควบคุมต้นทุนและขาดค่าใช้จ่ายพิเศษด้านโครงสร้างองค์กร แม้ยอดขายยังอ่อนตามฤดูกาลและตลาดอสังหาฯ ในต่างจังหวัดที่ชะลอ โดยใน Q3/68 ยอดขายคาดลดลง 11.5% YoY และ 4.4% QoQ เหลือ 5.8 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้น (GM) คาดขยายเป็น 28.5% (จาก 26.0% ใน Q3/67) หนุนโดยการใช้พลังงานชีวมวลและพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น ต้นทุนพลังงานที่ลดลง และการเจรจาลดต้นทุนจากซัพพลายเออร์ ขณะที่ SG&A ลดลงทั้ง YoY และ QoQ หลังไม่มีค่าใช้จ่ายปรับปรุงองค์กรราว 60 ล้านบาท เหมือนไตรมาสก่อน แม้ยอดขายระยะสั้นยังไม่ฟื้นเต็มที่ แต่ฝ่ายวิจัยมองว่า Q3/68 เป็นจุดต่ำสุดของรอบนี้ โดย SCGD มีโครงสร้างต้นทุนที่ Lean ขึ้นและประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น พร้อมรับอานิสงส์จากตลาดที่อยู่อาศัย ในประเทศที่คาดจะเริ่มกลับมาปกติ และคำสั่งส่งออกไปเวียดนาม–อินโดฯ ที่ทยอยดีขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณของการฟื้นตัว
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
set
-
mitihoon
มิติหุ้น – บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เร่งขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมแผนการเติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืน ล่าสุด ณ ปี 2567 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้แล้วกว่า 35% (เทียบกับปีฐาน 2563) โดยใช้ 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. การลงทุนในโครงการใช้พลังงานทดแทน เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงชีวมวล มุ่งมั่นขยายการใช้พลังงานทดแทนครอบคลุมฐานการผลิตทั่วอาเซียน และ 2. การปรับโครงสร้างธุรกิจนำเอาเทคโนโลยีระบบดิจิทัล และระบบอัตโนมัติมาปรับใช้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และยกระดับการบริหารจัดการทั่วทั้งองค์กร ในปี 2568 SCGD มีประมาณการค่าใช้จ่ายในการลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยมีแผนใช้จ่ายในโครงการด้านพลังงานสะอาดและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ด้วยงบกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอน และยังเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว โดยการลงทุนในโครงการด้านพลังงานทดแทนในปี 2567 ช่วยลดต้นทุนพลังงานได้แล้วกว่า 300 ล้านบาทต่อปี และสำหรับโครงการที่แล้วเสร็จในครึ่งปีแรกของปี 2568 คาดว่าจะลดเพิ่มได้อีก 36 ล้านบาทต่อปี ขณะเดียวกัน การปรับโครงสร้างธุรกิจปรับใช้เทคโนโลยี ระบบดิจิทัล และระบบอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ช่วยลดต้นทุนรวมได้กว่า 60 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าจะลดต้นทุนได้เพิ่มอีกในระยะถัดไป นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “SCGD เดินหน้าเรื่องความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่นำมาใช้สร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ การลดการปล่อยคาร์บอนกว่า 35% ในขอบเขตที่ 1 และ 2 จากปีฐาน 2563 เป็นผลจากการวางแผนระยะยาว การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน”
-
kaohoon
SCGD โล่ง “ศาลฎีกาอินโด” ยกฟ้อง KIA ปมพิพาทรัฐ เดินหน้าธุรกิจตามปกติ 09/09/68
บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า ตามที่เคยรายงานในหนังสือชี้ชวนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (Filing) และรายงานประจำปี 2567 (แบบ 56-1 One Report) เกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานรัฐอินโดนีเซียกับบริษัทย่อยในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย PT Keramika Indonesia Assosiasi Tbk (KIA) และบริษัทย่อย PT KIA Keramik Mas (KKM) ล่าสุด ศาลฎีกาอินโดนีเซียมีคำพิพากษายืนตามศาลสูงให้ยกฟ้องข้อกล่าวหาดังกล่าว ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการเรียกร้องของหน่วยงานรัฐอินโดนีเซียต่อ KIA และ KKM โดยทั้งสองบริษัทได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองตั้งแต่ปลายปี 2566 และยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงในเดือนกรกฎาคม 2567 ก่อนดำเนินการโต้แย้งต่อศาลฎีกาในช่วงตุลาคม – พฤศจิกายน 2567 กระทั่งมีคำตัดสินล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 โดย KIA ได้เปิดเผยข้อมูลต่อ Indonesia Stock Exchange (IDX) ว่าคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยบริษัทจะพิจารณาดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป พร้อมยืนยันว่าการดำเนินธุรกิจยังเป็นไปตามปกติ โดยผลประกอบการรวมรอบ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มียอดขายราว 623 ล้านบาท EBITDA ประมาณ 11 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิราว 16 ล้านบาท
-
thunhoon
SCGD เผยศาลฏีกาอินโดนีเซีย ยกฟ้องคดีบ.ย่อยข้อพิพาทกับหน่วยงานรัฐ 09/09/68
#SCGD #ทันหุ้น-บริษัท เอสซีจี เดคอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCGD แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตามที่ระบุในแบบไฟลิ่งเกี่ยวกับข้อเรียกร้องจากหน่วยงานรัฐประเทศอินโดนีเซียต่อบริษัทย่อยของ SCGD ชื่อ PT Keramika Indonesia Assosiasi Tbk (หรือ “KIA”) และบริษัทย่อยของ KIA (PT KIA KERAMIK MAS หรือ “KKM”) โดย เมื่อเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2566 ทั้ง KIA และ KKM ได้ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐของอินโดนีเซียต่อศาลปกครองชั้นต้น เพื่อให้ยกเลิกการเรียกร้องที่อ้างว่า KIA มีหนี้เงินต่อหน่วยงานรัฐของอินโดนีเซีย และให้ยกเลิกการระงับการเข้าระบบจดแจ้งทางทะเบียนกับ Ministry of Law and Human Rights ซึ่งต่อมาเมื่อ ก.ค. 2567 ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูง และเมื่อ ต.ค.-พ.ย. 2567 ได้ดำเนินการโต้แย้งต่อศาลฏีกา เพื่อขอให้ทบทวนคำพิพากษายกฟ้องนั้น โดยเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2568 KIA ได้เปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย หรือ IDX ว่า ศาลฏีกาได้ตัดสินยืนยันตามคำพิพากษาของศาลสูงให้ยกฟ้องในส่วนคดีของ KIA ดังนั้น KIA จึงจะพิจารณาการดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป
-
set
-
hoonsmart
“คิงส์ฟอร์ด” คาดดัชนีแกว่งขึ้นรอโหวต “อนุทิน”นายกฯใหม่พรุ่งนี้ แนะ SCGD-CPALL 04/09/68
HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีปรับตัวขึ้น หลังมีความชัดเจนในการเสนอชื่อคุณอนุทิน ขึ้นเป็นนายก ฯ คนที่ 32 เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา แนวต้านดัชนี 1,270 – 1,280 จุด แนวรับ 1,250 จุด หุ้นเด่นแนะนำ SCGD, CPALL บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,250 จุด แนวต้าน 1,270 – 1,280 จุด คาดดัชนีจะปรับขึ้นหลังมีความชัดเจนในการเสนอชื่อคุณอนุทิน ขึ้นเป็นนายก ฯ คนที่ 32 เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา แนะนำซื้อ CPALL,BJC,CRC,GLOBAL,MTC,TIDLOR,JMT,PLANB คาดได้ประโยชน์จากเม็ดเงินในช่วงก่อนเลือกตั้ง หุ้นนิคมฯ AMATA,WHA เก็งกำไร SAV,OR,CBG,OSP จากปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชามีแนวโน้มดีขึ้น ปัจจัยการเมืองมีความขัดเจนมากขึ้น ขณะที่พรรคเพื่อไทยพยายามเสนอ พ.ร.ฎ. ยุบสภา แต่สำนักองคมนตรีไม่รับร่างดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีความขัดแย้งในสภา ฯ จนปฏิบัติราชการไม่ได้ โดยช่วงค่ำวานนี้ ปธ.สภาได้บรรจุวาระโหวตเลือกนายก ฯ ในวันที่ 5 ก.ย. ซึ่งคาดนายอนุทินจะได้เสี่ยงสนับสนุนราว 288 เสี่ยงให้ดำรงตำแหน่งนายก ฯ คนที่ 32 โดย ครม.ชุดใหม่คาดจะมีรายชือของเทคโนแครตเข้าบริหารกระทรวงสำคัญ เช่น กระทรวงการคลัง, พาณิชย์, พลังงาน และต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนต่างชาติ
-
oppday
-
set
-
mitihoon
มิติหุ้น – บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 มีอัตรากำไรขั้นต้น 28.3% และ EBITDA on sales 15.2% สูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส จากกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน การปักหมุดเวียดนามเป็นฐานผลิตหลัก หนุนปริมาณการขายเติบโต 21% เทียบ ไตรมาสก่อนหน้า พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตสินค้ามูลค่าเพิ่มและเสริมแกร่งการแข่งขันในภูมิภาค
-
set
-
thunhoon
SCGD โชว์ฟอร์ม Q2/68 กำไร 222 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส 05/08/68
*กำไรปกติเติบโตแข็งแกร่ง : SCGD มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 222 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างธุรกิจ 76 ล้านบาท กำไรปกติจะอยู่ที่ 283 ล้านบาท เติบโต 19% จากไตรมาสก่อนหน้า
-
set
-
set
-
set
-
set
-
iaa
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
SCGD กำไรดีเกินคาด ดีลM&A หนุนโต 30/07/68
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
set
-
iaa
-
iaa
-
iaa
-
kaohoon
-
kaohoon
-
fin
-
set
ปันผลระหว่างกาล 29/07/68
-
set
การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของ SCGD 29/07/68
-
set
แจ้งเปลี่ยนแปลง CFO 29/07/68
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
-
iaa
-
iaa
-
mitihoon
-
iaa
-
iaa
-
hoonsmart
-
set
-
iaa
-
mitihoon
-
thunhoon
"SCGD" รุก 4 กลยุทธ์ มั่นใจรับมือศก.โลกผันผวน 24/06/68
จากกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยใน ไตรมาสที่ 1/2568 บริษัทเติบโต EBITDA อยู่ที่ 808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาสก่อน EBITDA Margin อยู่ที่ 13.7% สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 11.9% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171% จากไตรมาสก่อน ขณะเดียวกัน อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.9% เทียบกับ 2.8% ในไตรมาสก่อน ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับความผันผวนที่กำลังเกิดขึ้นอนาคต พร้อมเดินหน้าปรับตัวเชิงรุก มองหาโอกาสทางการค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็งด้านประสิทธิภาพด้านต้นทุนเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก
-
mitihoon
SCGD รุก 4 กลยุทธ์ มั่นใจรับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน 24/06/68
จากกลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยใน ไตรมาสที่ 1/2568 บริษัทเติบโต EBITDA อยู่ที่ 808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาสก่อน EBITDA Margin อยู่ที่ 13.7% สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 11.9% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171% จากไตรมาสก่อน ขณะเดียวกัน อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 3.9% เทียบกับ 2.8% ในไตรมาสก่อน ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับความผันผวนที่กำลังเกิดขึ้นอนาคต พร้อมเดินหน้าปรับตัวเชิงรุก มองหาโอกาสทางการค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็งด้านประสิทธิภาพด้านต้นทุนเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก
-
oppday
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
iaa
-
mitihoon
-
iaa
-
mitihoon
มิติหุ้น – 25 เมษายน 2568 – SCGD เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน กำไร 217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171% จากค่าใช้จ่ายลดลงจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ อีกทั้งการบริหารต้นทุนขายและต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพตามแผน รับมือภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกา เร่งปรับตัวสู้สงครามการค้า รักษาความสามารถการแข่งขันด้วยต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทั้งธุรกิจในไทยและต่างประเทศ เตรียมเดินหน้าด้วย 4 กลยุทธ์ 1.) มุ่งดูแลรักษาลูกค้าเดิมและขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ทั่วโลก 2.) ปรับการผลิตทันท่วงทีสอดคล้องกับความต้องการของตลาด 3.) มุ่งเป็นผู้นำด้านการบริหารต้นทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก 4.) เพิ่มโอกาสด้วยการนำเข้าหรือจ้างผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ต้นทุนแข่งขันได้ นอกจากนั้น ยังมุ่งเดินหน้ารักษาสภาพคล่องทางการเงินและฐานะการเงินโดยเคร่งครัด ทั้งยังพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ เตรียมพร้อมธุรกิจฝ่าความท้าทายเศรษฐกิจโลก
-
set
-
iaa
-
iaa
-
kaohoon
SCGD รายได้ขาย-อีบิทด้าลด กดกำไรไตรมาส 1 เหลือ 216 ล้านบาท 24/04/68
โดยธุรกิจตกแต่งพื้นผิวในประเทศเวียดนามมีรายได้จากการขาย 1,179 ล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากพิจารณารายได้ที่เป็นดองเวียดนาม (ก่อนแปลงค่าเป็นเงินบาท) ธุรกิจจะมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 1% เนื่องจากประเทศเวียดนามอยู่ระหว่างการปฏิรูประบบราชการ และดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ตลาดฯ มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ ส่วนประเทศอินโดนีเซีย มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 300 ล้านบาท ลดลง 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
-
fin
-
set
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
SCGD Q1ดีมานด์เพิ่ม หลังแผ่นดินไหว 16/04/68
-
iaa
-
set
-
mitihoon
SCGD กุมต้นทุนดันกำไรพุ่ง โบรกซื้อราคาถูกสวนโต 25/03/68
สำหรับแนวทางของตลาดเซรามิกในประเทศไทยคาดว่าจะทยอยฟื้นตัว โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและมาตรการผ่อนปรน LTV รวมถึงตลาดเวียดนาม สร้างรายได้ 20% คาดว่าจะจีดีพีจะเติบโต 6.8% (World Bank)
-
set
-
set
-
set
-
iaa
-
oppday
-
iaa
-
set
-
set
-
set
-
iaa
-
set
-
mitihoon
#SCGD แจ้งงบปี 67 กำไร 809 ล. 11/02/68
-
set
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
-
fin
-
fin
-
iaa
-
mitihoon
-
iaa
-
thunhoon
-
hoonsmart
SCGD ปักหมุุดปี 68 รายได้โต 5% งบลงทุน 4 พันล้าน ปั๊มกำลังผลิตลุยส่งออก 29/01/68
HoonSmart.com>> “เอสซีจี เดคคอร์” (SCGD) ตั้งเป้าปี 68 รายได้เติบโต 5% มั่นใจตลาดอาเซียนฟื้น ทุ่มงบลงทุน 4,000 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตสินค้า HVA รับการเติบโต พร้อมเพิ่มช่องทางจำหน่ายครอบคลุมทั่วอาเซียน ขยายส่งออกต่างประเทศ ตั้งเป้าโต 2 เท่าภายในปีนี้ หนุนผลงานโตต่อเนื่องจากปี 67 กำไรสุทธิ 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147% สวนกระแสตลาดอาเซียนชะลอตัว เคาะจ่ายปันผลงวดสุดท้าย 0.10 บาท XD 31 มี.ค.68
-
kaohoon
SCGD ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โต 5% วางงบลงทุน 4 พันล้าน ลุยขยายกำลังผลิตเพิ่ม 29/01/68
นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า ปี 2568 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5% และ EBITDA จะเพิ่มขึ้นกว่า 5% จากสถานการณ์ตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิว กระเบื้องเซรามิก และสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนมีสัญญาณการเริ่มทยอยพื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันการเติบโตในปีนี้
-
set
-
iaa
-
hoonsmart
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
วันหยุดประจำปี พ.ศ. 2568 16/12/67
-
set
-
set
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
kaohoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
kaohoon
สังคมข่าวหุ้น 05/08/67
บอร์ด EA ไฟเขียวแต่งตั้ง “สุพันธุ์ มงคลสุธี” เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการคนใหม่ พร้อมตั้ง “ฉัตรพล ศรีประทุม” ขึ้นแท่น CEO ขณะที่ “วสุ กลมเกลี้ยง” ขึ้นนั่ง CFO มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ “สมใจนึก เองตระกูล” ยังคงนั่งเป็นประธานบอร์ด มั่นใจศักยภาพทีมผู้บริหารรุ่นใหม่สามารถผลักดันแผนธุรกิจที่วางไว้ให้องค์กรเติบโตในแนวทางพลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตอบโจทย์ Net Zero สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน อีกทั้ง เตรียมประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 2 วัน ขอเลื่อนจ่ายหุ้นกู้ EA248A และ EA249A โดยในวันที่ 9 ส.ค. ประชุมขอเลื่อนจ่ายหุ้นกู้ EA248A วงเงิน 1,500 ล้านบาท และ วันที่ 14 ส.ค.นี้ ประชุมขอเลื่อนจ่ายหุ้นกู้ EA249A วงเงิน 4,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินราว 5,500 พันล้านบาท ออกไปเป็นภายในปีหน้า ซึ่งแลกกับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 5% ต่อปี
-
kaohoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
SCGD มั่นใจแรงซื้อเริ่มกลับ หนุนกำไรไตรมาส 2-4 เพิ่ม 23/04/67
ขยายธุรกิจสุขภัณฑ์ในอาเซียน ด้วยการต่อยอดจากช่องทางจัดจำหน่ายของธุรกิจตกแต่งพื้นผิว และขยายการลงทุนโรงงานสุขภัณฑ์ใหม่ในอาเซียน โดยตั้งเป้าหมายยอดขายสุขภัณฑ์เติบโต 2 เท่า หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยในไตรมาสที่ผ่านมา SCGD ได้เร่งดำเนินการตามกลยุทธ์ขยายธุรกิจสุขภัณฑ์ในอาเซียนซึ่งเป็นอีก 1 ธุรกิจหลักของ SCGD มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 20% โดยเร่งขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพิ่มตัวแทนจำหน่ายสุขภัณฑ์ในต่างประเทศต่อยอดจากช่องทางการจัดจำหน่ายของธุรกิจตกแต่งพื้นผิว ในเวียดนามจากเดิม 17 รายเป็น 39 ราย ฟิลิปปินส์ จากเดิม 78 รายเป็น 85 ราย และอินโดนีเซีย จากเดิม 28 ราย เป็น 37 ราย ทำให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายสุขภัณฑ์รวม 161 ราย ใน 3 ประเทศดังกล่าว
-
mitihoon
-
hoonsmart
-
mitihoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
kaohoon
-
hoonsmart
-
mitihoon
-
thunhoon
-
thunhoon
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon
-
thunhoon