https://aio.panphol.com/assets/images/community/4487_737B59.png

SCGD กำไรพุ่ง 171% จากการลดต้นทุน Q1/68 แต่ตลาดยังท้าทาย

P/E 9.18 YIELD 4.37 ราคา 4.58 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ: SCGD โชว์ผลงาน Q1/68 กำไรสุทธิโตกระโดด 171% จากการลดต้นทุน

SCGD (บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน)) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 สุดน่าประทับใจ โดยมี EBITDA อยู่ที่ 808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และมี กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 217 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 171% ปัจจัยหลักมาจากความสามารถในการลดค่าใช้จ่าย จากการปรับโครงสร้างธุรกิจและการเพิ่มประสิทธิภาพในช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงต้นทุนขายและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (Q1/2567) บริษัทมี EBITDA ลดลง 5% กำไรสุทธิลดลง 16% และรายได้จากการขายลดลง 12% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ตลาดโดยรวมที่ยังคงมีความท้าทาย

รายได้และกำไร: ต้นทุนลดฮวบดันกำไรสุทธิพุ่ง

รายได้จากการขายในไตรมาส 1/2568 ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 12% เมื่อเทียบกับ Q1/2567 อย่างไรก็ตาม ต้นทุนขายลดลง อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับทั้งไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะ ต้นทุนพลังงานผลิตกระเบื้องลดลง จาก 35 บาท/ตร.ม. ใน Q1/2567 เป็น 32 บาท/ตร.ม. ใน Q1/2568 จากการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงชีวมวล นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและบริหารก็ลดลง จากการปรับโครงสร้างธุรกิจและลดค่าใช้จ่ายภายใน ส่งผลให้ อัตรากำไรขั้นต้น (ไม่รวมรายการ Non-Recurring) อยู่ที่ 13.7% สูงกว่าทั้งไตรมาสก่อนหน้า (11.9%) และ Q1/2567 (12.3%) และ อัตรากำไรสุทธิ (ไม่รวมรายการ Non-Recurring) อยู่ที่ 3.9% สูงกว่าทั้งไตรมาสก่อนหน้า (2.8%) และ Q1/2567 (3.7%) ที่น่าสนใจคือ สัดส่วนยอดขายสินค้ามูลค่าเพิ่ม (HVA) ต่อยอดขายรวมเพิ่มขึ้นเป็น 36% จาก 34% ในปี 2567

วิเคราะห์สถานการณ์: ตลาดกระเบื้องยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ถึงแม้ผลประกอบการโดยรวมจะดีขึ้น แต่ SCGD ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์ตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยในหลายประเทศ โดยเฉพาะใน ประเทศไทย ที่ตลาดกระเบื้องยังคงอ่อนตัวเนื่องจากหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและโครงการต่างๆ ชะลอตัว ขณะที่ เวียดนาม ตลาดกระเบื้องมีแนวโน้มดีขึ้นจากการปฏิรูประบบราชการและมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่วน ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ตลาดกระเบื้องยังคงอยู่ระหว่างรอการฟื้นตัว นอกจากนี้ บริษัทยังต้องจับตาดูผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงความเสี่ยงทางกฎหมายในอินโดนีเซีย

สรุปและแนวโน้ม: เดินหน้าลดต้นทุน ขยายธุรกิจ HVA และรักษาสภาพคล่อง

SCGD ประสบความสำเร็จในการเพิ่มกำไรในไตรมาส 1/2568 จากการจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้ามูลค่าเพิ่ม (HVA) และการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์ตลาดที่ไม่แน่นอนและการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม SCGD มีแผนที่จะเร่งดำเนินการโครงการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับโครงสร้างธุรกิจ พร้อมทั้งรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าค้าปลีกอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสในการนำเข้าสินค้าต้นทุนต่ำจากจีน และขยายธุรกิจสุขภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด