บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: SCGD โชว์ผลงานไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิโตกระโดด 61% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ EBITDA ก็แรงเกินต้าน เพิ่มขึ้น 18% แม้รายได้จะลดลงเล็กน้อย

SCGD (บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน)) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 สุดปัง! โดยมี EBITDA อยู่ที่ 902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรสุทธิพุ่งแรงถึง 305 ล้านบาท เติบโต 37% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แม้ว่ารายได้จากการขายจะลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอยู่ที่ 5,638 ล้านบาท

สถานการณ์และปัจจัยหนุน: ตลาดต่างประเทศฟื้นตัว เวียดนามสดใส SCGD คุมต้นทุนอยู่หมัด หนุนกำไรโตต่อเนื่อง

แม้ค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการเมื่อแปลงค่าเงินจากสกุลต่างประเทศ แต่หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทจะเพิ่มขึ้นถึง 39% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเฉพาะในเวียดนามที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นหลังกฎหมายที่ดินได้รับการอนุมัติ และการลงทุนในโครงการภาครัฐที่เพิ่มขึ้น

ผลการดำเนินงานที่น่าจับตา: อัตรากำไรขั้นต้นยังแกร่ง EBITDA และกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ ต้นทุนลดฮวบ!

อัตรากำไรขั้นต้น ทรงตัวในระดับสูงที่ 28.2% EBITDA on Sales อยู่ที่ 16% สูงที่สุดตั้งแต่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่นเดียวกับ อัตรากำไรสุทธิ ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 5.3% ต้นทุนขายลดลงอย่างเห็นได้ชัดถึง 92 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 567 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจัยที่ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น ได้แก่ การลดต้นทุนของฐานการผลิตทั้งในและต่างประเทศ การลดค่าใช้จ่ายในการบริหาร การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีอัตรากำไรดี

สรุปและแนวโน้ม: ฐานะการเงินแข็งแกร่ง SCGD เดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ เพิ่มสินค้ามูลค่าสูง ตั้งเป้าลดต้นทุนต่อเนื่อง

SCGD มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Debt to Equity) เพียง 0.2 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า บริษัทมุ่งเน้นการส่งออกจากเวียดนาม เพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลน ขยายพอร์ตสินค้าใหม่ในประเทศไทย และเติบโตพอร์ตสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง (HVA) พร้อมเดินหน้าโครงการลดต้นทุนด้านพลังงาน เจรจาลดต้นทุนวัตถุดิบ และบริหารจัดการฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง แม้คาดการณ์ว่าตลาดในประเทศไทยจะชะลอตัวต่อเนื่อง แต่ SCGD ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน