บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

SCGD โชว์กำไร Q3/25 โตแรง

SCGD รายงานกำไรสุทธิ Q3/25 ที่ 304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 61% จากปีก่อนหน้า สูงกว่าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ 7% เนื่องจากรายได้อื่นที่สูงกว่าคาด แต่โดยรวมการดำเนินงานหลักเป็นไปตามที่คาดไว้

ปัจจัยหนุนการเติบโต

ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลักใน Q3/25 มาจากโครงการลดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน Q3/25 ยังคงแข็งแกร่งที่ 28.2% ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นจาก 26% ใน Q3/24 โดยได้รับการสนับสนุนจากการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลและการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในสัดส่วนที่สูงขึ้น รวมถึงราคาพลังงานที่ลดลงและผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A-to-sales) ลดลงเหลือ 21.7% ใน Q3/25 จาก 22.9% ใน Q2/25 และ 22.1% ใน Q3/24 หลังจากการปรับโครงสร้างธุรกิจที่ดำเนินการในช่วงปลายปี 2567

ยอดขายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ยอดขายรวมใน Q3/25 ลดลงเหลือ 5.6 พันล้านบาท ลดลง 2% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 10% จากปีก่อนหน้า โดยถูกกดดันจากการลดลงในตลาดส่วนใหญ่ ยกเว้นฟิลิปปินส์ที่ยังคงทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้าและปีก่อนหน้า ยอดขายในประเทศไทย (65% ของยอดขายรวม) แสดงให้เห็นถึงแรงผลักดันที่ช้าลง เนื่องจากธุรกิจพื้นผิวตกแต่งลดลง 2% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 11% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยด้านฤดูกาลและกำลังซื้อของครัวเรือนที่อ่อนแอลง แม้ว่าเวียดนาม (21% ของยอดขายรวม) มียอดขายลดลง (ลดลง 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 8% จากปีก่อนหน้า) แต่ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินดองเวียดนามที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้ในสกุลเงินดองเวียดนามเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า โดยได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ลดลง 6% จากไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากฤดูฝน

คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 5.70 บาท

FSSIA คาดการณ์กำไรปี 2568 ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า และเติบโตต่อเนื่อง 11% จากปีก่อนหน้าในปี 2569 จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ SCGD โดยมีราคาเป้าหมายที่ 5.70 บาท อิงจากการเติบโตของกำไรที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และการจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ