3/10

เดือนนี้ / เดือนก่อน

87/51

ปีนี้ / ปีก่อน

  • kaohoon

    NOBLE แจ้ง “แฟรงค์ ฟง” หลังเทนเดอร์ถือ 34.46% หากแปลง “W3” ดันสัดส่วนเป็น 41.06% 01/12/68

    บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า บริษัทได้รับสำเนาแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (แบบ 247-3) จาก Prestige Investment Management Limited ซึ่งก็คือ นายแฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 โดย Prestige Investment Management Limited ระบุความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วน (Voluntary Partial Tender Offer) ของบริษัทสูงสุดจำนวน 205,412,054 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งกำหนดราคาเสนอซื้อเบื้องต้นที่ 2.32 บาทต่อหุ้น โดยราคาดังกล่าวอาจมีการปรับเปลี่ยนตามเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การจ่ายเงินปันผล การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ หรือการออกสิทธิในการจองซื้อหุ้นใหม่ รวมมูลค่า 476,555,965.28 ล้านบาท ทั้งนี้ นายแฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง ถือหุ้นทางอ้อมอยู่จำนวน 266,522,177 หุ้น คิดเป็น 19.46% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด และยังถือใบสำคัญแสดงสิทธิ NOBLE-W3 จำนวน 153,261,088 หน่วย ซึ่งสามารถแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ในอัตรา 1:1

  • set
  • set
  • oppday
  • kaohoon

    NOBLE งบไตรมาส 3 พลิกมีกำไร 688 ล้านบาท พร้อมเตรียมโอนโครงการใหม่ต่อเนื่อง 17/11/68

    นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังคงอยู่ในภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าโลก ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศชะลอตัว ประกอบกับตัวเลขของภาคหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น อัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินสูงขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง จากปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงกดดันต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ต้องปรับตัว ซึ่งโนเบิลได้วางกลยุทธ์รับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนผ่านผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ที่มีกำไรสุทธิ 688 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 9 เดือนแรก 715.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 258% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของกำไรสุทธิในไตรมาส 3 มาจากการจำหน่ายเงินลงทุนในโครงการนิว เอปิค อโศก-พระราม 9 ภายใต้บริษัท เวอร์ติคอล พระราม 9 อัลไลแอนซ์ 1 จำกัด ให้แก่ บริษัท สเตคเอ็กซ์ เวนเจอร์ส จำกัด คิดเป็นสัดส่วน 50% และมีการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น จากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส ได้แก่ โครงการ นิว อีโว อารีย์ (เริ่มโอนเดือนสิงหาคม 2568) ซึ่งช่วยสนับสนุนให้กำไรขั้นต้นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสนี้สูงขึ้น

  • mitihoon

    NOBLE “โนเบิล” เดินหน้าสร้าง Synergy เสริมพันธมิตร ปิดดีลขายโครงการนิว เอปิค อโศก-พระราม 9 บันทึกกำไรสุทธิไตรมาส 3 จำนวน 688 ล้านบาท พร้อมเตรียมโอนโครงการใหม่ต่อเนื่องในไตรมาส 4 17/11/68

    มิติหุ้น – บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “NOBLE” ประกาศ ผลการดำเนินงานโดดเด่นรอบ 3 เดือน ไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิรวม 688 ล้านบาท จากการปิดดีลขายเงินลงทุนในโครงการ นิว เอปิค อโศก–พระราม 9 ในสัดส่วน 50% ให้แก่ บริษัท สเตคเอ็กซ์ เวนเจอร์ส จำกัด รวมถึงประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตโฟลิโอ เร่งระบายสินค้า ปิดโครงการ และเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วง ไตรมาส 3 พร้อมประกาศเดินหน้าบริหารพอร์ตโฟลิโออย่างเหมาะสม – เปิดกว้างรับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เสริมความมั่นคงทางธุรกิจในระยะยาว นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “NOBLE” ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจ ในประเทศยังคงอยู่ในภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าโลก ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศชะลอตัว ประกอบกับตัวเลขของภาคหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ จากสถาบันการเงินสูงขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง จากปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงกดดันต่อ ภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ต้องปรับตัว ซึ่งโนเบิลได้วางกลยุทธ์รับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนผ่าน ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ที่มีกำไรสุทธิ 688 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 9 เดือนแรก 715.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 258% YoY ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของกำไรสุทธิในไตรมาส 3 มาจากการจำหน่ายเงินลงทุนในโครงการนิว เอปิค อโศก-พระราม 9 ภายใต้บริษัท เวอร์ติคอล พระราม 9 อัลไลแอนซ์ 1 จำกัด ให้แก่ บริษัท สเตคเอ็กซ์ เวนเจอร์ส จำกัด คิดเป็นสัดส่วน 50% และมีการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น จากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส ได้แก่ โครงการ นิว อีโว อารีย์ (เริ่มโอนเดือนสิงหาคม 2568) ซึ่งช่วยสนับสนุนให้กำไรขั้นต้นธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสนี้สูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์อีก 2 โครงการ คือ โครงการ โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ (เริ่มโอนเดือนกันยายน 2568 ) และโครงการ โนเบิล ครีเอท (เริ่มโอนช่วงปลายเดือนกันยายน 2568) ส่งผลให้จะมีการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องในไตรมาส 4 โดยทั้ง 3 โครงการมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) พร้อมโอนมูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทฯ ได้ปิดโครงการไปแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ โครงการนิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา โครงการนิว โนเบิล รัชดา- ลาดพร้าว และโนเบิล สเตท 39

  • fin
  • set
  • set
  • set