สรุปงบล่าสุด NOBLE

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NOBLE) ปี 2567
บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้รวม 11,567.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% จากปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมและแนวราบที่สร้างเสร็จ เช่น โครงการนิว เมกา พลัส บางนา และนิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง รวมถึงรายได้จากค่าเช่าและบริการที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารงานก่อสร้างโครงการร่วมทุน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของปีอยู่ที่ 431.6 ล้านบาท ลดลง 52.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุหลักคือรายได้อื่นและกำไรจากการขายเงินลงทุนในโครงการร่วมทุน (ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2566) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่ารายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตขึ้น
ในปี 2567 NOBLE มียอดขายโครงการรวม 16,957.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% โดยเป็นยอดขายจากโครงการใหม่และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถึง 12,051.4 ล้านบาท บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 18,400 ล้านบาท ได้แก่ โนเบิล นอร์ส กรุงเทพกรีฑา, นิว เฌด ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ, นิว อีพิด อโศก-พระราม 9 และนิว อีโว พัฒนาการ ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้ที่รอการรับรู้ (Backlog) ณ สิ้นปี 2567 จำนวน 25,455.4 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในอีก 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 25.2% เป็น 20.4% อัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 9.1% เป็น 3.7% อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นลดลงจาก 14.7% เป็น 6.8% อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ลดลงจาก 6.9% เป็น 4.2% อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 3.07 เท่า เป็น 3.32 เท่า อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 2.68 เท่า เป็น 3.12 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 2.05 เท่า เป็น 2.15 เท่า
แม้ว่าผลประกอบการปี 2567 จะมีกำไรสุทธิลดลงและอัตราส่วนทางการเงินหลายตัวบ่งชี้ถึงความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง แต่ NOBLE ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต จากยอด Backlog จำนวนมากที่รอการรับรู้ในอนาคต หากพิจารณาจากตัวเลข P/E ล่าสุดที่ 6.73 และ P/BV ที่ 0.46 อาจบ่งชี้ได้ว่าหุ้น NOBLE มี Valuation ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับ Yield ที่สูงถึง 18.82% อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท ตลอดจนพิจารณาอัตราส่วนทางการเงินที่แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรและประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ลดลง เพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนอย่างรอบด้าน
**โอกาส:**
* **Backlog จำนวนมาก:** ช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ในอนาคต
* **การเปิดตัวโครงการใหม่:** สร้างความสนใจและกระตุ้นยอดขาย
* **Yield ที่น่าสนใจ:** ดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสด
* **มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จากภาครัฐ:** ช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค
**ความเสี่ยง:**
* **ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว:** ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและความต้องการที่อยู่อาศัย
* **การแข่งขันที่รุนแรง:** ในตลาดอสังหาริมทรัพย์
* **อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น:** เพิ่มภาระต้นทุนทางการเงิน
* **ความผันผวนของราคาที่ดินและวัสดุก่อสร้าง:** ส่งผลกระทบต่อต้นทุนโครงการ
* **ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง:** บ่งชี้ถึงความท้าทายในการรักษาอัตรากำไรในอนาคต
* **ภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น:** อาจส่งผลกระทบต่อความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัท
(50.90%)
(637.15%)
(110.72%)
(40.68%)
(329.17%)
(80.92%)
(48.05%)
(15.52%)
(7,193.02%)
(21.22%)
(35.83%)
(286.18%)