บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

สรุป Oppday NOBLE: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 และทิศทางธุรกิจอสังหาฯ ปี 2568

สรุป Oppday NOBLE: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 และทิศทางธุรกิจอสังหาฯ ปี 2568

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

Noble Development ได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้:

• เชิงบวก:
  • การเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ (NUE RARE, NUE COVE) มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท
  • ยอดขาย Pre-sale รวม 1,489 ล้านบาท
  • ยอดโอนกรรมสิทธิ์ 1,380 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ 87 ล้านบาท
• เชิงลบ:
  • สถานการณ์แผ่นดินไหวในตุรกี: แม้โครงสร้างอาคารไม่ได้รับผลกระทบ แต่มีผลกระทบต่อการจัดการและประสานงานกับลูกบ้าน
  • สภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เฟื่องฟูเท่าช่วงพีค: Absorption rate ยังต่ำกว่าช่วงก่อน COVID-19

ตัวเลขทางการเงินที่สำคัญ:

• รายได้รวม: 1,796 ล้านบาท
• Pre-sale: 1,489 ล้านบาท
• Transfer: 1,380 ล้านบาท
• Net Profit: 87 ล้านบาท
• มูลค่าโครงการทั้งหมดที่ Handle: 87,000 ล้านบาท (31 โครงการ, 17,000-18,000 Units)

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

Noble Development มองเห็นโอกาสทางธุรกิจดังนี้:

• การขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้า Affordable: มุ่งเน้นแบรนด์ "NUE" เพื่อเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้นและหลากหลายมากขึ้น
• การ Diversify กลุ่มลูกค้าต่างชาติ: ขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศต่างๆ นอกเหนือจากจีน
• การเติบโตในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง: มุ่งเน้น Living Services เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม

กลยุทธ์ในการคว้าโอกาส:

• พัฒนา Product ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Affordable (NUE Series)
• ขยายช่องทางการขายไปยังต่างประเทศ (Overseas Channel)
• สร้าง Synergy กับ Strategic Partners (BTS, Sahagroup)

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

Noble Development กำลังเผชิญความเสี่ยงดังนี้:

• สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน: ส่งผลต่อกำลังซื้อและความต้องการของลูกค้า
• การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์: ทำให้ต้องลดราคาและเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการตลาด
• ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย: ส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินและภาระหนี้สิน

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

Noble Development ใช้วิธีการแก้ไขปัญหาดังนี้:

• การบริหารจัดการทางการเงินอย่างระมัดระวัง: ควบคุม Cash Flow และลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น
• การ Diversify Product และ Channel: ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่ง
• การสร้างความร่วมมือกับ Strategic Partners: ลดภาระการลงทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

Noble Development มองเห็นแนวโน้มในอนาคตดังนี้:

• ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะค่อยๆ ฟื้นตัว: Absorption rate น่าจะกลับเข้าสู่ Trend ที่ Stable มากขึ้น
• กลุ่มลูกค้า Affordable จะมีความสำคัญมากขึ้น: แบรนด์ NUE จะเป็น Key Driver ในการเติบโต
• Living Services จะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่สำคัญ: สร้าง Ecosystem ที่ครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

เป้าหมายและแผนการเติบโต:

• Pre-sale ปี 2568: 13,000 ล้านบาท
• Transfer ปี 2568: 15,000 ล้านบาท

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม นาทีที่ 44:27]

1. คำถาม: บริษัทมีความกังวลใดๆ ในช่วง 1-3 ปีนี้หรือไม่ และมีแผนรับมืออย่างไร?

   คำตอบ: บริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงและอยู่ในโหมดระมัดระวังตั้งแต่ช่วง COVID-19 มีการบริหารจัดการการเงินและ Cash Flow อย่างรอบคอบ พร้อมทั้ง Monitor สภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด

2. คำถาม: บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ?

   คำตอบ: บริษัทให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยง (Diversification) ทั้งในเชิง Product (NUE, บ้าน) และกลุ่มลูกค้า (Local, Oversea) รวมถึงการสร้าง Synergy กับ Partners

3. คำถาม: ยอดขายและผลกระทบจากแผ่นดินไหว?

   คำตอบ: แผ่นดินไหวไม่ได้กระทบยอดขาย แต่ทำให้เกิดความล่าช้าในการโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 1-4 สัปดาห์ เนื่องจากต้องตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม

4. คำถาม: ไตรมาส 2 กำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาฯเป็นอย่างไร?

   คำตอบ: การแข่งขันรุนแรง อาจมีผลต่อการลดราคา แต่ยังคงสามารถทำกำไรและจ่ายดอกเบี้ยได้ ธุรกิจมีผลกำไร หมายความว่าสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ และมีการปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง

1. ความกังวลและความเสี่ยงในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า
2. สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
3. ผลกระทบจากแผ่นดินไหว
4. กำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาฯ ในไตรมาส 2

สรุป: Noble Development ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง โดยให้ความสำคัญกับการ Diversify ธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง และการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อให้สามารถรับมือกับสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น