บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
NOBLE กำไรสุทธิโต 10.3% แม้ตลาดอสังหาฯ ยังซบเซา!
P/E 3.15 YIELD 8.67 ราคา 2.18 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: NOBLE โชว์ผลงาน Q1/68 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.3% แม้ตลาดอสังหาฯ ยังเผชิญความท้าทาย
บมจ. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวม 1,796.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิ 86.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% การเติบโตนี้มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมการบริหารโครงการที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ารายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จะลดลงเล็กน้อย โครงการที่สร้างรายได้หลัก ได้แก่ นิว เมกา พลัส บางนา, โนเบิล อราวน์ อารีย์ และโนเบิล สเตท 39
สถานการณ์ตลาด: ตลาดอสังหาฯ ยังคงท้าทายจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในไตรมาส 1/68 ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภครายได้ปานกลางถึงล่างที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่สูง นโยบายสินเชื่อที่เข้มงวดทำให้การเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น SCB EIC คาดการณ์ว่าจำนวนยูนิตการโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศในปี 2568 จะหดตัวลงประมาณ 5-7% อย่างไรก็ตาม NOBLE ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์บริหารพอร์ตโฟลิโอที่เหมาะสม โดยครอบคลุมทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบและคอนโดมิเนียม เน้นเจาะตลาดในกรุงเทพฯ และทำเลศักยภาพ รวมถึงการกระจายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มต่างประเทศ
ผลกระทบต่อรายได้และกำไร: รายได้อื่นหนุน กำไรสุทธิเพิ่ม แม้กำไรขั้นต้นลด
ถึงแม้ว่ารายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จะลดลง 1.1% และกำไรขั้นต้นรวมลดลง 19.0% แต่บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.3% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่น ๆ จากค่าธรรมเนียมการบริหารโครงการ และการลดลงของต้นทุนทางการเงิน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท ธนาซิตี้ เวนเจอร์ จำกัด อีกด้วย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 10.0% เนื่องจากการขยายธุรกิจและค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น
สินทรัพย์และหนี้สิน: หนี้สินลดลง อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลง
สินทรัพย์รวมของ NOBLE ลดลง 382.6 ล้านบาท และหนี้สินรวมลดลง 472.0 ล้านบาท ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมเพิ่มขึ้น 89.5 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 3.32 เท่า ณ สิ้นปี 2567 เหลือ 3.20 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 2.15 เท่า เหลือ 2.03 เท่า ณ สิ้นปี 2567 ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้ (Backlog) จำนวน 25,564.7 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายใน 4 ปีข้างหน้า