บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
VRANDA เผยผลประกอบการ Q1/2568 โตต่อเนื่อง พร้อมลุยขยายธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯ
P/E 21.21 YIELD 2.87 ราคา 4.36 (0.00%)แน่นอนครับ นี่คือสรุปผลการประชุม Oppday หุ้น VRANDA ปี 2568 ไตรมาส 1 ตามโครงสร้างที่คุณกำหนด
VRANDA เผยผลประกอบการ Q1/2568 โตต่อเนื่อง พร้อมลุยขยายธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯ
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**VRANDA รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2568 โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากกิจการโรงแรม คิดเป็น 90% โดยรายได้รวมเติบโต 2% year-on-year จาก 421 ล้านบาท เป็น 428 ล้านบาท EBITDA เพิ่มขึ้นจาก 124 ล้านบาท เป็น 151 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 21% กำไรสุทธิอยู่ที่ 43 ล้านบาท เติบโต 18% year-on-year
อัตราการเข้าพัก (occupancy rate) ลดลง 5% จาก 72% เป็น 67% เนื่องจากการเปิดโรงแรมใหม่ในช่วงต้นปี แต่ ADR (Average Daily Rate) เติบโต 11% และ RevPar (Revenue per available room) เติบโต 3% เนื่องจากทำเลที่ตั้งของโรงแรมในภูเก็ตและสมุยมี ADR ที่ดี
รายได้รวมจากธุรกิจโรงแรมเติบโตจาก 339 ล้านบาท เป็น 413 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 22% year-on-year EBITDA เติบโตในสัดส่วนที่สูงกว่ารายได้ เพิ่มขึ้นจาก 117 ล้านบาท เป็น 156 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 33% year-on-year
สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (debt-to-equity ratio) อยู่ในระดับเดียวกับสิ้นปีที่แล้ว ที่ประมาณ 1.53 เท่า
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตจาก:
- การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน (แม้จะลดลงใน Q1 แต่คาดว่าจะฟื้นตัวในอนาคต)
- การเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ เช่น ออสเตรเลีย, UK, และอินเดีย
- การเน้นตลาด MICE (Meetings, Incentives, Conferences, Exhibitions) โดยเฉพาะในพัทยา
- โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงจาก:
- ผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ (ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว)
- การลดลงของนักท่องเที่ยวจีน (เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง)
- ผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ (ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและประเทศไทย)
- ความล่าช้าของการก่อสร้างถนนพระราม 2 (ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางไปยังหัวหิน)
บริษัทมีแผนการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้:
- กระจายความเสี่ยงไปยังตลาดนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย (diversification)
- ลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย (เช่น ค่าไฟฟ้าและดอกเบี้ย)
- ปรับปรุงความปลอดภัยของโรงแรม (เช่น การทำ safety audit และซ่อมแซมห้องพัก)
- เน้นการตลาดในประเทศ (เช่น การเข้าร่วมโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน")
บริษัทคาดการณ์ว่า:
- รายได้รวมในปี 2568 จะเติบโตเกิน 20%
- การเติบโตจะมาจากโรงแรมในภูเก็ตและสมุยเป็นหลัก
- สัดส่วนหนี้สินต่อทุนจะลดลง (เนื่องจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต)
- จะมีการพิจารณาเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นในตลาด (เช่น การซื้อหุ้นคืน) หากผลประกอบการดีขึ้น
- อัตราส่วน ROIC (Return on Invested Capital): อยู่ที่ประมาณ 5%
- ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย (WACC): อยู่ที่ประมาณ 5% กว่าๆ
- แผนการลดต้นทุนทางการเงิน: อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ย
- ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง: เน้น diversification และออกจากธุรกิจที่ไม่ถนัด
- แผนการซื้อที่ดินที่ชะอำ: เลื่อนการโอนออกไปก่อน เนื่องจากความล่าช้าของโครงการถนนพระราม 2 และรอความพร้อมของตลาด
- แผนการเพิ่มสภาพคล่องของหุ้น: พิจารณาเพิ่มสภาพคล่องโดยการซื้อหุ้นคืนหากผลประกอบการดีขึ้นและมีกระแสเงินสดเพียงพอ
- การลงทุนในธุรกิจผู้สูงอายุ: ยังไม่ได้โฟกัสในขณะนี้ แต่โรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงได้
- การลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก: ให้ความสำคัญและมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็กในหลายโรงแรม
โดยสรุป VRANDA ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แม้จะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกหลายประการ แต่บริษัทก็มีแผนการรับมือที่ชัดเจน และยังคงมุ่งเน้นการสร้างผลกำไรและกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต