https://aio.panphol.com/assets/images/community/10520_D29711.png

PTT: จับตารัฐบาลใหม่ปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ หนุนกำไรเพิ่ม 4%

P/E 12.16 YIELD 6.67 ราคา 31.75 (0.00%)

Krungsri Securities (KSS) มอง slightly positive ต่อทิศทางแรงกดดันของธุรกิจหลักของ PTT ที่ลดลง จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยมี upside ต่อกำไรและราคาเป้าหมาย (TP) หากสามารถลดผลกระทบจาก single pool gas price ได้ 50%

ประเด็นสำคัญจากการเยี่ยมชมบริษัท

ธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ (GSP) ยังอยู่ระหว่างเจรจากับภาครัฐเพื่อปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ ซึ่งปัจจุบันแบกรับผลกระทบจาก single pool gas ที่ไม่สามารถปรับเพิ่มราคาขายกับลูกค้าอุตสาหกรรมได้ ในขณะที่ต้นทุนสูงขึ้น แนวทางแก้ไขคือการกำหนดผลตอบแทนที่เหมาะสมกับโรงแยกฯ (utility model กำหนด IRR ระดับ single digit) โดยเปลี่ยนกลับมาใช้ราคาก๊าซฯ อ่าวไทย แล้วให้แบ่งมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ที่แยกได้บางส่วนไปเป็นส่วนลดราคาก๊าซฯ ที่ใช้คำนวณใน pool แทน

ธุรกิจ Hydrogen ยังอยู่ในช่วงศึกษาการใช้งานในประเทศ ซึ่งต้องอาศัยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่และการสนับสนุนจากรัฐบาล แม้ Hydrogen จะมีโอกาสเป็นเชื้อเพลิงทดแทนในอนาคต แต่ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าก๊าซธรรมชาติ 4-5 เท่า โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่พร้อม และต้องลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตเพิ่มเติม

PTT ยังคงแผนทำ Asset monetization ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ถึง 2569 ทั้งสินทรัพย์โรงไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจ EV คาดว่าจะได้กระแสเงินสดรวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของกลุ่มและลดภาระค่าใช้จ่ายคงที่

ข้อสังเกตและมุมมอง

KSS มองว่าการลดค่าพลังงานเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลใหม่ต้องการจัดการ แต่สถานการณ์ supply พลังงานที่ตึงตัวน้อยลงจาก supply LNG ที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ และนโยบายไม่ตุนก๊าซฯ ของ EU คาดว่าจะส่งผลให้ราคา LNG มีแนวโน้ม normalized และผลกระทบจาก single pool gas price ของธุรกิจก๊าซฯ PTT มีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ หากสามารถปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ โดยให้โรงแยกก๊าซฯ กลับมาใช้ต้นทุนก๊าซฯ อ่าวไทยได้สำเร็จ จะมี upside ต่อกำไรสุทธิปี 2569 ราว 3.9 พันล้านบาท หรือ +4% และ upside ต่อ TP25F ราว 1.4 บาท/หุ้น

ธุรกิจไฮโดรเจนยังมีข้อจำกัดสำคัญด้านต้นทุนการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ยังไม่ใช่ priority หลักของรัฐบาลใหม่ที่จะเร่งให้เกิดขึ้น ธุรกิจหลักของ PTT จึงยังไม่ต้องแบกภาระการลงทุนและการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีพลังงานอาจทำให้เกิดการชะลอกฎหมายคุมราคาน้ำมัน ช่วยลดแรงกดดันต่อกลุ่มโรงกลั่นและสถานีบริการฯ

KSS คาดการณ์กำไรปกติในไตรมาส 3/2568 จะฟื้นตัวทั้ง y-y และ q-q จากความพยายามคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียและสงครามฯ ที่หนุนราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว ธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีจะไม่มี stock loss ก้อนใหญ่เหมือนไตรมาส 3/2567 และ 2/2568 รวมถึงค่าการกลั่นและ spread ปิโตรเคมีฟื้นตัว (y-y) จาก supply ตึงตัวขึ้น ชดเชยธุรกิจก๊าซฯ ที่ลดลง y-y ตามปริมาณลูกค้าโรงไฟฟ้า และ q-q ที่ปัจจัยฤดูกาลกดดันทั้งปริมาณขายและอัตรากำไร

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

KSS คงคำแนะนำ Neutral สำหรับ PTT ที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 32.50 บาท/หุ้น นักลงทุนสามารถเก็งกำไร upside จากแนวโน้มความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ที่ลดลงได้ ประกอบกับมีปันผล yield ราว 6% (คาดปันผลระหว่างกาลประกาศช่วงปลาย ก.ย.- ต้น ต.ค. 25) และกำไรทรงตัวในช่วงปี 2568-2569 รองรับความเสี่ยงสำคัญด้านความชัดเจนในการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ ระยะยาวได้

โพสต์ล่าสุด