บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
CPALL: กรุงศรีคงคำแนะนำ "ซื้อ" ชี้เป้า 80 บาท มองขยายสาขา-กำไรขั้นต้นหนุน
P/E 13.62 YIELD 3.16 ราคา 43.00 (0.00%)
Krungsri Securities (KSS) ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น CPALL โดยให้ราคาเป้าหมาย 80 บาท มองการเติบโตจากการขยายสาขาและการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นเป็นปัจจัยหนุน
มุมมองเป็นกลาง แต่ยังคงแนะนำซื้อ
KSS มีมุมมองที่เป็นกลางต่อแนวโน้ม 3Q25 ของ CPALL โดยคาดการณ์ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะอยู่ที่ประมาณ -0.8%
เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายจากการบริโภคที่ชะลอตัวและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง อย่างไรก็ตาม KSS ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีเหตุผลจากการเติบโตของยอดขายที่ดีจากการขยายสาขาปีละ 700 สาขา และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากสินค้าอาหาร (RTE) และสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและสุขภาพ)ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
- การขยายอัตรากำไรขั้นต้น: ผู้บริหารเน้นย้ำถึงการมุ่งเน้นการขยายอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับทั้งสินค้าอาหาร (อาหารพร้อมทาน) และสินค้าอื่นๆ โดยมองว่ายังมีโอกาสอีกมากในการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นในระยะยาว
- แนวโน้ม 3Q25: คาดการณ์ SSSG จะอยู่ที่ประมาณ -0.8% เนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม CPALL คาดว่าจะเพิ่มร้านค้าอีก 350 สาขาในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนต่อการเติบโตของรายได้
- สถานการณ์ในกัมพูชา: รายได้จากร้านค้าในกัมพูชามีสัดส่วนน้อยกว่า 1% แต่การจัดหาสินค้าจากประเทศไทยค่อนข้างยากขึ้น CPALL จึงกำลังหาวิธีจัดหาสินค้าในท้องถิ่น
- การซื้อหุ้นคืน: บริษัทฯ ยังคงซื้อหุ้นคืน ซึ่ง KSS มองว่าจะช่วยพยุงราคาหุ้น โครงการซื้อหุ้นคืนจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2025
ข้อสังเกตและมูลค่าที่เหมาะสม
KSS มองว่า CPALL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีก ด้วยการเติบโตของกำไรหลักที่เหมาะสมในอัตรา 15% ในปี 2025F ซึ่งได้รับแรงหนุนจากแผนการขยายธุรกิจที่แข็งแกร่งและความสามารถในการขยายอัตรากำไรขั้นต้นจากอาหารพร้อมทาน (RTE) นอกจากนี้ มูลค่าของหุ้นยังไม่สูงเกินไป โดยปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 2025F ที่ 14.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ระดับ -2SD
สรุป
Krungsri Securities ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น CPALL โดยให้ราคาเป้าหมาย 80 บาท ด้วยเหตุผลจากการเติบโตของยอดขายที่ดีจากการขยายสาขา อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น และมูลค่าหุ้นที่ไม่สูงเกินไป
วิธีคิดราคาเป้าหมาย: อิงจาก P/E ปี 2025 ที่ 25 เท่า