บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SMD100 ขาดทุนหนัก! ไตรมาส 2/68 พลิกเป็นขาดทุน 13.76 ล้านบาท ยอดขายกลุ่มเวชบำบัดวิกฤตทรุด
P/E 85.06 YIELD 26.98 ราคา 2.78 (0.00%)
ภาพรวมผลประกอบการ
SMD100 หรือ บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 ขาดทุนสุทธิ 13.76 ล้านบาท ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 5.30 ล้านบาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง ลดลงถึง 19.06 ล้านบาท หรือ 359.62% สาเหตุหลักมาจากการลดลงของยอดขายในกลุ่มเวชบำบัดวิกฤต, กลุ่มหทัยวิทยา, กลุ่มเครื่องมือแพทย์ทั่วไป และกลุ่มบริการสุขภาพ
วิเคราะห์ผลกระทบและปัจจัย
สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 40.23 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นถึง 35.05 ล้านบาท หรือ 676.64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การลดลงของยอดขายในกลุ่มเวชบำบัดวิกฤตเป็นปัจจัยหลัก เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณภาครัฐและการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาด นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มจำนวนบุคลากรและค่าที่ปรึกษาเพื่อรองรับการเพิ่มสินค้ากลุ่มใหม่และการขยายธุรกิจก็มีส่วนทำให้ผลประกอบการลดลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมี Backlog คงเหลือ 480.57 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มเวชศาสตร์การนอนหลับ, กลุ่มเวชบำบัดวิกฤต, กลุ่มรังสีวิทยาฯ และกลุ่มอื่นๆ สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงและกลยุทธ์
บริษัทฯ มองว่าการลดลงของผลการดำเนินงานเป็นผลมาจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนจาก "ผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์" ไปสู่การเป็น "ผู้ให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทาง" (Specialized Healthcare Service Provider) ครอบคลุมทุกห่วงโซ่คุณค่าทางการแพทย์ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ดังกล่าว บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ โดยจัดตั้งบริษัทในเครือเฉพาะทางเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในแต่ละกลุ่มธุรกิจ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดโครงการ SMD Rise SLEEPVERSE อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นระบบนิเวศสุขภาพการนอนระดับภูมิภาค
สรุปและแนวโน้ม
แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2568 จะไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่ SMD100 ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยมุ่งเน้นการลงทุนในระยะยาวและการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มบริการทางการแพทย์เฉพาะทาง การจัดตั้งบริษัทในเครือและการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการเติบโตในอนาคต