บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

TTCL เผชิญวิกฤติขาดทุนสุทธิ 1,851.05 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2568 เนื่องจากรายได้รวมลดลงถึง 66% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ลดลงอย่างมาก

รายได้และกำไรที่ลดลงอย่างน่าตกใจ

รายได้จากการก่อสร้างและให้บริการ (EPC) ลดลง 66% เหลือ 3,700 ล้านบาท เนื่องจาก Backlog ที่ลดลงและการได้งานใหม่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ต้นทุนในการก่อสร้างและให้บริการลดลง 62% อยู่ที่ 4,051.54 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยรายได้ที่หายไป ส่งผลให้ขาดทุนขั้นต้น 317.04 ล้านบาท

นอกจากนี้ TTCL ยังต้องเผชิญกับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 1,335.47 ล้านบาท จากโครงการที่ถูกยกเลิก แม้ว่าจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 58.75 ล้านบาท จากการแข็งค่าของเงินบาท แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลขาดทุนมหาศาลได้

ส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้า (TTGP) ก็ลดลง 58% เหลือ 43 ล้านบาท เนื่องจากปัญหาการขัดข้องของระบบสายส่งไฟฟ้าในเมียนมาร์ สถานการณ์เหล่านี้ซ้ำเติมผลประกอบการของ TTCL ให้ย่ำแย่ลงไปอีก

สินทรัพย์และหนี้สินที่เปลี่ยนแปลง

สินทรัพย์รวมลดลง 19% เหลือ 15,510 ล้านบาท โดยสินทรัพย์หมุนเวียนลดลง 29% เนื่องจากการลดลงของเงินสด ลูกหนี้ และสินทรัพย์ตามสัญญา ในขณะที่หนี้สินรวมลดลง 10% เหลือ 14,743 ล้านบาท โดยหนี้สินหมุนเวียนลดลง 12% เนื่องจากการลดลงของต้นทุนงานก่อสร้างค้างจ่ายและเงินรับล่วงหน้าจากลูกค้า

สิ่งที่น่ากังวลคือส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงถึง 72% เหลือเพียง 766 ล้านบาท เนื่องจากการขาดทุนสุทธิและขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นจาก 5.91 เป็น 19.24 บ่งบอกถึงภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

สรุปผลกระทบและข้อสังเกต

TTCL กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ผลประกอบการที่ย่ำแย่ในไตรมาส 2/68 เป็นสัญญาณเตือนถึงความจำเป็นในการปรับปรุงกลยุทธ์และการบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน การยกเลิกสัญญา EPC และผลขาดทุนด้านเครดิตส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อฐานะทางการเงินของบริษัท

นักลงทุนและผู้ถือหุ้นควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนใน TTCL เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิลดลงอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง