บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
FPI กำไรทรุด! Q2/68 กำไรสุทธิลดลง 38.1% เหตุขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนพุ่ง
P/E 7.06 YIELD 4.91 ราคา 1.63 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ:
FPI รายได้รวม Q2/68 ลดลง 2.6% กำไรสุทธิร่วง 38.1% จากผลกระทบขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน แม้บริษัทย่อยในประเทศฟื้นตัวทำกำไร
สถานการณ์ธุรกิจ:
FPI เผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ยอดขายในประเทศลดลง อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยเฉพาะชิ้นส่วนยานยนต์ในตะวันออกกลาง แม้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า แต่ผลกระทบต่อ FPI มีจำกัด
ผลกระทบต่อรายได้และกำไร:
รายได้รวมลดลง 2.6% กำไรสุทธิลดลง 35.7% ปัจจัยหลักคือการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่พุ่งสูงขึ้นถึง 838.9% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนขายและบริการลดลงเล็กน้อย
ทรัพย์สินและหนี้สิน:
สินทรัพย์รวมลดลง 4% หนี้สินรวมลดลง 14% ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลงจาก 0.66 เท่า เป็น 0.60 เท่า สะท้อนการบริหารสภาพคล่องที่ดีขึ้น
ข้อสังเกตุและประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:
- ค่าเงินบาทแข็งค่า กระทบรายได้จากการส่งออกที่รับรู้ในรูปเงินบาท
- ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ยังคงมีทิศทางที่มั่นคงจากตลาดส่งออกและตลาดซ่อมบำรุง
- บริษัทมีการลงทุนขยายโรงงานและจัดซื้อเครื่องจักร เพื่อรองรับแผนการเพิ่มกำลังการผลิต
- FPI Auto Parts India มีโครงการในมือมูลค่าประมาณ 443 ล้านบาท สำหรับปี 2568-2570
- RBS Plastic Innovation มีรายได้รวม 24.6 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 0.3 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2568
- Tharwat Alqata Industries คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตชิ้นส่วนได้ในไตรมาสสามของปี 2569
- บริษัทมีเงินสดสุทธิที่ได้รับจากกิจกรรมดำเนินงานเพิ่มขึ้น 28.7%
- อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin), อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ลดลง
สรุป:
FPI เผชิญความท้าทายใน Q2/68 จากเศรษฐกิจชะลอตัวและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดส่งออกและลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต