บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

NEO เผชิญความท้าทายในไตรมาส 2/2568 แม้รายได้รวมจะเติบโต 3.6% แต่กำไรสุทธิกลับลดลงอย่างมากถึง 70.3% สาเหตุหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น

รายได้เติบโต แต่กำไรหดตัว

บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) (NEO) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 2,584 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตนี้มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน (+15.1%) และของใช้ส่วนบุคคล (+9.3%) ที่มีการขยายตัว อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ ลดลงอย่างน่าตกใจถึง 70.3% เหลือเพียง 80 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งกำไรคือ ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย นอกจากนี้ Product Mix ที่เปลี่ยนแปลงไปก็มีส่วนทำให้กำไรขั้นต้นลดลงจาก 46.8% เป็น 38.7%

NEO ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม (NPD & Relaunch) โดยมีจำนวน 136 SKUs ที่คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มเติมในครึ่งปีหลัง

วิเคราะห์ผลกระทบและแนวโน้ม

ถึงแม้ NEO จะยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงาน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การขยายฐานลูกค้า และการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย แต่บริษัทฯ ก็ตระหนักถึงความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน

เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว NEO ได้ปรับแผนการลงทุน โดยเลื่อนการก่อสร้างอาคารผลิตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน (ระยะที่ 2) และคลังจัดเก็บวัตถุดิบออกไปอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อบริหารจัดการต้นทุนและรักษาสภาพคล่องทางการเงิน

สรุปและข้อสังเกต

NEO ยังคงมีสินทรัพย์รวมที่แข็งแกร่งที่ 11,274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากสิ้นปี 2567 อย่างไรก็ตาม หนี้สินรวมก็เพิ่มขึ้น 6.9% มาอยู่ที่ 6,278 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 1.3 เท่า

แม้ผลประกอบการในไตรมาสนี้จะไม่เป็นที่น่าพอใจนัก แต่ NEO ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาแบรนด์หลักอย่าง Fineline และ BeNice ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการใช้พลาสติกรีไซเคิล