บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

FSSIA วิเคราะห์ผลประกอบการ Q2/25 ของ CPAXT กำไรสุทธิเป็นไปตามที่คาดการณ์ พร้อมคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 23 บาท มอง valuation ยังน่าสนใจ

ไฮไลท์สำคัญ

CPAXT รายงานกำไรสุทธิ Q2/25 ที่ 2,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% YoY แต่ลดลง 13.5% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษจากผลขาดทุน FX กำไรหลักอยู่ที่ 2,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% YoY แต่ลดลง 11.6% QoQ โดยรวมแล้วเป็นไปตามที่ FSSIA และตลาดคาดการณ์ไว้ ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของธุรกิจค้าปลีกยังคงอ่อนแอเมื่อเทียบกับปีก่อน

ผลการดำเนินงานและแนวโน้ม

ยอดขายรวม Q2/25 เติบโต 2.1% YoY จากการขยายสาขา แม้ว่า SSS ของ Makro's Go Wholesale จะลดลง 1.2% YoY ในขณะที่ Lotus hypermarket's SSS ทรงตัว ธุรกิจในต่างประเทศยังคงแข็งแกร่ง แต่ถูกหักล้างด้วยค่าเงินบาทที่แข็งค่า รายได้ค่าเช่าเติบโตเล็กน้อย 0.7% YoY GPM ของ Makro ปรับตัวดีขึ้นเป็น 11.5% จาก 10.9% ใน Q2/24 เนื่องจากการจัดประเภทบัญชีใหม่ ในขณะที่ Lotus รายงาน GPM ที่ 17.8% ลดลงจาก 18.1% ใน Q2/24 จากยอดขายที่ไม่ใช่อาหารที่อ่อนแอและการแข่งขันที่สูงขึ้น อัตราส่วน SG&A ต่อรายได้อยู่ที่ 13.1% ลดลงจาก 13.3% ใน Q2/24 จากค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง

ข้อสังเกตและประมาณการ

FSSIA ตั้งข้อสังเกตว่ากำไรครึ่งปีแรกคิดเป็น 43% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2568 ดังนั้นจึงยังคงประมาณการกำไรปี 2568 ที่เติบโต 6.5% YoY อย่างไรก็ตาม มีความระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการพัฒนา GPM ของ Lotus hypermarket เนื่องจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและยอดขายที่ไม่ใช่อาหารที่ลดลง ปัจจัยสำคัญในการลดผลกระทบนี้คือการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะติดตามอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผู้บริหารให้ข้อมูลว่ายอดขายที่ไม่ใช่อาหารในเดือนกรกฎาคม 2568 อ่อนแอกว่า Q2/25 ในขณะที่อาหารสดยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก SSS ในเดือนกรกฎาคม 2568 ทรงตัว YoY สำหรับทั้ง Makro และ Lotus

สรุปและคำแนะนำ

FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ CPAXT โดยมีราคาเป้าหมาย DCF ที่ 23 บาท มองว่า valuation ยังมีส่วนลดที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันซื้อขายที่ -1.7SD FSSIA แนะนำให้ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" เนื่องจากมองว่าการเติบโตของกำไรอาจไม่น่าตื่นเต้นเท่าที่ควร