บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ภาพรวมผลการดำเนินงาน: กำไรลดฮวบ

บมจ. อาม่า มารีน (AMA) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 49.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิ 63.38 ล้านบาท จากรายได้รวม 730.11 ล้านบาท ซึ่งลดลง 12.02% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.72% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8.68%

สถานการณ์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม: ปัจจัยลบถาโถม

AMA เผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัยภายนอก ทั้งราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่ลดลง, ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น, กฎระเบียบด้านการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้มงวดขึ้น, และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ลดลง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนและรายได้ของบริษัทโดยตรง

การวิเคราะห์รายได้และกำไร: เรือล่ม รถช่วยพยุง

รายได้จากการขนส่งสินค้าทางเรือลดลงถึง 29.05% จากอัตราค่าขนส่งเฉลี่ยที่ลดลงและความต้องการของตลาดที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ในขณะที่รายได้จากการขนส่งสินค้าทางรถเพิ่มขึ้น 8.30% จากการขนส่งสินค้าเหลวที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นลดลง 15.67% และอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 19.53% เป็น 18.72% ส่งผลให้กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

สินทรัพย์, หนี้สิน และกระแสเงินสด: ทรงตัวแต่ต้องระวัง

สินทรัพย์รวมลดลง 3.26% จากสิ้นปีก่อนหน้า ในขณะที่หนี้สินรวมลดลง 4.12% และส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 2.84% อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลงเล็กน้อยจาก 0.49 เท่า เป็น 0.48 เท่า กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานอยู่ที่ 322.51 ล้านบาท แต่มีกระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมการลงทุนและจัดหาเงิน

ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส: บริหารความเสี่ยง มองหาโอกาส

AMA ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยน, กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น, และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีโอกาสในการเติบโตจากการขยายธุรกิจการขนส่งสินค้าทางรถและการปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน

สรุป: รายได้ลด กำไรหด ต้องเร่งเครื่อง

ผลประกอบการของ AMA ในไตรมาส 2 ปี 2568 แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษาระดับกำไร ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่ไม่เอื้ออำนวย การบริหารจัดการต้นทุนและแสวงหาโอกาสในการเติบโตใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ AMA ในการฟื้นฟูผลกำไรในอนาคต