บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

แอร์โรว์ ซินดิเคท โชว์ผลงานครึ่งปีแรก กำไรสุทธิโตกระโดด แม้รายได้จากการขายจะลดลงเล็กน้อย เหตุต้นทุนวัตถุดิบหลักอย่างเหล็กลดฮวบ แถมบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดีเยี่ยม

ไฮไลท์สำคัญ: กำไรโตสวนกระแส

ARROW ประกาศผลประกอบการงวด 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2568 กำไรสุทธิ 72.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 43.50% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 50.32 ล้านบาท แม้ว่ารายได้จากการขายและบริการจะลดลง 5.67% จากลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ

เจาะลึกผลการดำเนินงาน

กำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 11.95% เนื่องจากต้นทุนขายลดลงถึง 11.07% โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบเหล็กที่เป็นต้นทุนหลักของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างมากตั้งแต่ปลายปี 2566 และยังคงทรงตัวในระดับต่ำ นอกจากนี้ บริษัทยังคงนโยบายเพิ่มยอดขายเพื่อให้ใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งปรับราคาขายให้สอดคล้องกับราคาตลาด ควบคู่ไปกับการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้สามารถแข่งขันได้

ในส่วนของค่าใช้จ่าย บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดลงถึง 15.66% เนื่องมาจากปีก่อนหน้าบริษัทย่อยประสบปัญหาผลขาดทุนด้านเครดิตของลูกหนี้การค้าจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงิน-ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 29.52% จากการใช้สินเชื่อเพื่อซื้อวัตถุดิบมากขึ้น แต่บริษัทยังคงมีความแข็งแกร่งทางการเงินและสามารถชำระหนี้สินได้

จากผลการดำเนินงานที่เติบโต ทำให้ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 17.33% เนื่องจากกำไรก่อนภาษีเงินได้ของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 37.61%

ข้อสังเกตและประเด็นที่น่าสนใจ

แม้ว่าผลกำไรจะเติบโตอย่างน่าประทับใจ แต่การลดลงของรายได้จากการขายเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจบ่งบอกถึงความท้าทายในการรักษายอดขายในอนาคต อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้กำไรสุทธิของบริษัทเติบโตอย่างโดดเด่น

นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทและความสามารถในการชำระหนี้สิน ยังเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน แม้ว่าต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นจากการใช้สินเชื่อเพื่อซื้อวัตถุดิบ

สรุปและแนวโน้ม

โดยรวมแล้ว ผลประกอบการของ ARROW ในช่วงครึ่งปีแรก ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของกำไรสุทธิที่สวนทางกับรายได้ที่ลดลง แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์รายได้ของบริษัทอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มการเติบโตในอนาคต