บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

text-primaryไฮไลท์สำคัญ

FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ MEGA ด้วยราคาเป้าหมาย 36 บาท อิงจากวิธี DCF (Discounted Cash Flow) โดยมี WACC (Weighted Average Cost of Capital) ที่ 9.4% แม้ผลประกอบการ Q2/2568 คาดว่าจะทรงตัว แต่ธุรกิจผลิตภัณฑ์แบรนด์ยังคงแข็งแกร่ง และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพช่วยหนุนเสถียรภาพของกำไร

text-primaryผลการดำเนินงาน Q2/2568 และแนวโน้ม

FSSIA คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของ MEGA ใน Q2/2568 จะใกล้เคียงกับ Q1/2568 โดยธุรกิจผลิตภัณฑ์แบรนด์ยังคงเติบโตได้ดี แม้ธุรกิจจัดจำหน่ายในเมียนมาร์ยังคงเผชิญกับความท้าทาย นอกจากนี้ อัตราภาษีที่แท้จริงจะกลับสู่ระดับปกติที่ประมาณ 20% หลังหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI และบริษัทอาจมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิอยู่ที่ 456.2 ล้านบาท (+1.4% q-q, -11.0% y-y)

text-primaryการเติบโตของแบรนด์ชดเชยธุรกิจจัดจำหน่ายที่อ่อนแอ

FSSIA ประมาณการรายได้รวมใน Q2/2568 อยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท (+7.2% q-q, -13.0% y-y) โดยแบรนด์มีสัดส่วน 64% และจัดจำหน่าย 34% ธุรกิจแบรนด์ยังคงเติบโต 2-3% หรือประมาณ 2.0 พันล้านบาท แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นอาจถูกกดดันเล็กน้อยจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่ยังคงรักษาระดับไว้ที่ 63-66% ได้ ขณะที่รายได้จากการจัดจำหน่ายจะใกล้เคียงกับ Q1/2568 แต่ยังคงลดลง 33.0% y-y เนื่องจากความท้าทายในเมียนมาร์ ค่าใช้จ่ายคาดว่าจะคงที่เนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

text-primaryสรุปและคำแนะนำ

MEGA มีความสามารถในการปรับตัวได้ดี ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ ราคาหุ้นปัจจุบันน่าสนใจ โดยมี P/E ปี 2568 ที่ 12.1 เท่า และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 5% ต่อปี ดังนั้น FSSIA จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายเดิมที่ 36 บาท