บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

FSSIA มอง DELTA ยังมีโอกาสเติบโต แม้เจอผลกระทบจาก Global Minimum Tax

ประเด็นสำคัญ: DELTA กับผลกระทบจากภาษี

FSSIA ประเมินว่ากำไรของ DELTA ในไตรมาส 4/2567 จะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการตั้งสำรองสินค้าคงคลัง แม้ว่ารายได้จาก AI จะยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ยังปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 11% เพื่อสะท้อนผลกระทบจาก Global Minimum Tax (GMT) แต่ยังคงคาดหวังการเติบโตของกำไร

รายละเอียดการวิเคราะห์และประมาณการ

FSSIA คาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4/2567 จะเติบโต 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และ 15.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยรายได้จากกลุ่ม AI ยังคงเติบโตได้ดี แม้จะเป็นช่วงที่การส่งออกต่ำตามฤดูกาล โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จาก AI จะเพิ่มขึ้นเป็น 8-10% จาก 5-7% ในไตรมาส 3/2567 ในขณะที่รายได้จากกลุ่ม EV จะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะในสหรัฐฯ นอกจากนี้ FSSIA คาดว่า DELTA อาจมีการตั้งสำรองสินค้าคงคลังอีกครั้งในไตรมาส 4/2567 เนื่องจากคำสั่งซื้อที่ชะลอตัวในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ AI โดยเฉพาะ EV

FSSIA ได้ปรับเพิ่มประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นปี 2568 ขึ้น 50 bps และลดค่าใช้จ่ายลงเล็กน้อย เนื่องจาก DELTA เริ่มขายผลิตภัณฑ์ AI ที่พัฒนาเองจากโรงงานในเยอรมนีในไตรมาส 4/2567 และคาดว่าจะมีการขายผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในปี 2568 ซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงขึ้นและไม่มีค่าธรรมเนียมให้กับ Delta Taiwan อย่างไรก็ตาม ผลกระทบเชิงลบจาก GMT มีมากกว่าผลกระทบเชิงบวก ทำให้มีการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 11% เหลือ 24.3 พันล้านบาท แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

FSSIA ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568 ของ DELTA ลงเหลือ 100 บาท (จากเดิม 110 บาท) เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไร แม้ว่า FSSIA จะยังคงมองในแง่ดีต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้และกำไร รวมถึงความแข็งแกร่งของบริษัทแม่ที่ช่วยให้ DELTA ได้รับคำสั่งซื้อมากขึ้น แต่ราคาหุ้นยังคงค่อนข้างแพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 2568-69 ที่ 79x และ 62x ตามลำดับ ดังนั้น FSSIA จึงแนะนำให้ซื้อขายสำหรับนักลงทุนที่พร้อมรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น

วิธีการประเมินมูลค่า: FSSIA ใช้วิธี P/E ในการประเมินราคาเป้าหมาย โดยอิงจากประมาณการกำไรปี 2568 และ P/E ที่เหมาะสมกับ DELTA