บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

โบรกเกอร์ BLS วิเคราะห์ผลประกอบการ KBANK ไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิสูงกว่าคาดการณ์ แต่ยังคงคำแนะนำ "ขาย" พร้อมปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568

ไฮไลท์สำคัญ

• กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท ลดลง 3% YoY และ 9% QoQ แต่สูงกว่าที่ BLS คาดไว้ 8%
• รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากกำไรจากการประเมินมูลค่าทางการตลาดจากเครื่องมือทางการเงิน
• NIM ลดลง 34 bps YoY และ 9 bps QoQ มาอยู่ที่ 3.33%
• อัตราส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวม (NPL) ทรงตัว QoQ ที่ 3.18%

ผลประกอบการที่น่าสนใจ

KBANK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท text-primary สูงกว่าที่ BLS คาดการณ์ไว้ 8% แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ปัจจัยหลักมาจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกำไรจากการประเมินมูลค่าทางการตลาดจากเครื่องมือทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) และไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) เนื่องจากการลดลงของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) โดย NIM ในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 3.33% text-danger ลดลง 34 bps YoY และ 9 bps QoQ

ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 สินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.43 ล้านล้านบาท ลดลง 2% YoY แต่ทรงตัว QoQ ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 42.8% เพิ่มขึ้นจาก 41.9% ในไตรมาส 2/67 และ 40.8% ในไตรมาส 1/68

ข้อสังเกตและแนวโน้ม

BLS คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/68 จะอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท text-danger ลดลง 9% YoY และ 13% QoQ เนื่องจากการลดลงของ NIM และกำไรจากการประเมินมูลค่าทางการตลาดจากเครื่องมือทางการเงิน

นอกจากนี้ BLS ยังคงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า KBANK โดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่เน้นการส่งออก ซึ่งอาจส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารชะลอตัวลง

BLS ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 6% YoY มาอยู่ที่ 4.58 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการลดลงของ NIM

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

ถึงแม้ผลประกอบการไตรมาส 2/68 จะดีกว่าที่คาด แต่ BLS ยังคงคำแนะนำ "ขาย" สำหรับ KBANK โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 142.00 บาท

เหตุผลหลัก มาจากความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก รวมถึงการลดลงของ NIM ที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร