บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

CPALL ยังคงเป็นหุ้นแนะนำซื้อของ Maybank Securities (Thailand) PCL (MST) ด้วยราคาเป้าหมาย 68 บาท อิงจากวิธี DCF (WACC 7.6%, Growth 1.5%) ถึงแม้ SSSG จะอ่อนตัวลง แต่คาดการณ์กำไร Q2/68 ยังคงเติบโต 11% YoY ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในกลุ่มค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค

คาดการณ์ผลประกอบการ Q2/68

MST คาดการณ์กำไรหลัก Q2/68 จะลดลง 10% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่จะเพิ่มขึ้น 11% YoY เป็น 6.81 พันล้านบาท ปัจจัยหนุนหลักมาจากการขยายสาขาร้าน 7-Eleven และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีการเปิดสาขาใหม่สุทธิ 160 แห่งใน Q2/68 ส่งผลให้จำนวนร้านเพิ่มขึ้น 736 สาขาในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยชดเชย SSSG ที่คาดว่าจะอ่อนตัวลงเป็น -0.5% (เทียบกับ +3.8% ใน Q2/67 และ +3.0% ใน Q1/68) จากปริมาณลูกค้าที่ลดลงเนื่องจากฝนตกมากขึ้นและนักท่องเที่ยวลดลง แต่ค่าใช้จ่ายต่อบิลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากยอดขายผ่านบริการจัดส่งที่เติบโตดี

ข้อสังเกตและปัจจัยหนุน

อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน Q2/68 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 21 bps YoY มาอยู่ที่ 22.6% หนุนโดยยอดขายที่แข็งแกร่งของสินค้าประเภทพร้อมรับประทาน (RTE) และเครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTD) รวมถึงอัตรากำไรที่ดีขึ้นจาก CPAXT เนื่องจากประโยชน์จาก synergy หลังการควบรวม ส่วนค่าใช้จ่ายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามรายได้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการเงินคาดว่าจะลดลง 2% YoY จากต้นทุนหนี้ที่ลดลง

สรุปและประมาณการ

MST ยังคงประมาณการกำไรปี 68 เติบโต 12% YoY มาอยู่ที่ 2.83 หมื่นล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ 0.8 เท่า คาดว่ากำไรในครึ่งหลังของปี 68 จะเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก ด้วยแรงหนุนจากฤดูกาลจับจ่ายปลายปีในช่วงไตรมาส 4 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งระหว่าง ก.ค. – ต.ค. 68 ส่วนผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (เริ่มมีผล 1 ก.ค.) คาดว่าจะกระทบต่อกำไรปี 68 ไม่เกิน 0.4% เนื่องจาก CPALL ได้ทยอยปรับค่าจ้างมาตั้งแต่ปี 67 ขณะที่เป้าหมายการเปิดสาขาใหม่ 700 สาขาในปีนี้ยังคงมีความเป็นไปได้สูง