S เอสเตท โชว์ผลประกอบการ Q1 ปี 2568 ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวเด่น หนุนกำไรโตต่อเนื่อง

P/E 77.83 YIELD 2.00 ราคา 0.50 (0.00%)

S เอสเตท โชว์ผลประกอบการ Q1 ปี 2568 ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวเด่น หนุนกำไรโตต่อเนื่อง

สวัสดีค่ะ ท่านนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เราจะมาแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2568 นะคะ โดยได้รับเกียรติจากคุณชัยรัตน์ ศิวาพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน มาบรรยายข้อมูลบริษัทและตอบข้อซักถามค่ะ

สวัสดีท่านนักลงทุนทุกท่านนะครับ ก่อนอื่นต้องขออภัยที่สัปดาห์ที่แล้วบริษัทมีการเลื่อนกำหนดการ Oppday แบบกะทันหันเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ในวันนี้เราจะมาเล่าถึงผลประกอบการในไตรมาส 1 ของปีที่ผ่านมาให้ท่านนักลงทุนได้ฟังนะครับ ขอเริ่มจาก Company Overview ก่อนนะครับ เพื่อให้ท่านที่ยังไม่คุ้นเคย Portfolio ของบริษัทได้ทำความเข้าใจว่า สิงห์เอสเตททำธุรกิจอย่างไรบ้าง

สิงห์เอสเตทมี 4 ธุรกิจหลัก:

  1. ที่พักอาศัย
  2. โรงแรม
  3. อาคารสำนักงาน
  4. นิคมอุตสาหกรรม

โดยหลักแล้วเรามีส่วนผสมที่ดี ส่วนมากของรายได้บริษัทจะเป็น Recurring Income หรือรายได้ต่อเนื่อง คือรายได้จากค่าเช่า ค่าห้องพัก อย่างธุรกิจโรงแรมหรืออาคารสำนักงานประมาณ 70% ส่วนธุรกิจ Non-Recurring Income คือรายได้ที่ไม่เกิดประจำจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ที่พักอาศัย หรือขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม อยู่ที่สัดส่วนประมาณ 30% ของปีนี้นะครับ

ที่พักอาศัยมีโครงการที่ Active อยู่ 11 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 30,000 ล้านบาท โรงแรมมี 36 โรงแรมใน 5 ประเทศทั่วโลก มีแพลตฟอร์มหลากหลายระหว่างบริหารเอง ให้ผู้อื่นบริหารให้ก็มีครบ อาคารสำนักงานมี 5 อาคารสำนักงานหลัก เนื้อที่เช่าเกือบ 200,000 ตารางเมตร อยู่ในแถบ Non-CBD Area คือ Area ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นวิภาวดีรังสิต อโศก-เพชรบุรี เพื่อให้เกิด Yield สูงสุดในปัจจุบันสำหรับอาคารสำนักงานนะครับ

ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม S อ่างทอง อยู่ที่จังหวัดอ่างทอง มีเนื้อที่ขายเกือบ 1,000 ไร่ มีโรงไฟฟ้าประเภท SPP คือพลังความร้อนร่วม ใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิต รวมแล้ว 3 โรงไฟฟ้าที่นิคมอุตสาหกรรม มีกำลังการผลิตรวม 400 เมกะวัตต์ และสิงห์เอสเตทถือหุ้นในโรงไฟฟ้า 30% นั่นคือ Overview ของ Portfolio ของเรานะครับ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • รายได้รวม 3,365 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 40% ถือเป็น Quarter ที่ดี โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม

  • EBITDA หรือกำไรเงินสด 967 ล้านบาท ในไตรมาส 1 อยู่ในระดับเดียวกับไตรมาส 1 ของปีที่ผ่านมา (2567)

  • กำไรสุทธิปรับปรุงรายการทางบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้อง 46 ล้านบาท ใกล้เคียงเดิมกับไตรมาส 1 ปีที่แล้ว

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • ธุรกิจโรงแรม: ไตรมาส 1 เป็นไตรมาสที่ดีมากสำหรับธุรกิจโรงแรมของสิงห์เอสเตท มีทั้งโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ ซึ่ง High Season อยู่ที่ไตรมาส 1 และ 4

  • ที่พักอาศัย: การเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1 เปิด 3 โครงการ (Summit เกษตรนวมินทร์, Summit รามอินทรา, One River พระราม 3)

  • อาคารสำนักงาน: อาคาร S Oasis (แยกลาดพร้าว) Occupancy ค่อยๆ Ramp ขึ้นมา อยู่ในอัตราที่น่าพอใจ ปิดไตรมาส 1 ที่ระดับ 50% ซึ่งเป็นระดับที่เริ่มทำกำไรกลับมาแล้ว

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • ที่พักอาศัย: อาจมีอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมโดยรวม

  • นิคมอุตสาหกรรม: ไตรมาส 1 มีความท้าทายในการให้นักลงทุน Commit การลงทุน โดยเฉพาะภาคการผลิต เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมไม่เอื้อให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนมากนัก

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • ที่พักอาศัย: เน้นการเปิดโครงการใหม่ใน Segment Luxury ที่มีกำลังซื้อสูง

  • โรงแรม: ปรับปรุงห้องพักและบริการให้ทันสมัย ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวแบบ Experiential Traveling (เช่น ไซลากูน่า ภูเก็ต)

  • อาคารสำนักงาน: หา Anchor Tenant และธุรกิจที่มีความสนใจใน Location ของอาคาร S Oasis

  • นิคมอุตสาหกรรม: ปลูกปั้นลูกค้าแต่ละราย (30-60 ไร่) และคาดว่าจะเกิดการลงทุนจริงในปีนี้

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • ธุรกิจโรงแรม: คาดหวัง Performance ของ Edinburgh จะช่วยให้ภาพรวมของ UK Portfolio Rebound ขึ้นมาในช่วง High Season ของการท่องเที่ยวอังกฤษ (ไตรมาส 2-3)

  • อาคารสำนักงาน: การเติบโตของรายได้และกำไรขึ้นอยู่กับผลประกอบการของอาคาร S Oasis ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อ Bottom Line ของสิงห์เอสเตทในอนาคต

  • นิคมอุตสาหกรรม: คาดว่าจะได้รับปันผลที่เป็นรายได้ต่อเนื่องที่ดีจากโรงไฟฟ้า 3 โรง

  • ภาพรวม: Recurring Income ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับบริษัท

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 53.33]

แผนการลดค่าใช้จ่ายทางการเงินและหนี้สิน

  • ผู้ถาม: บริษัทมีแผนลดค่าใช้จ่ายทางการเงินหรือหนี้สินอย่างไร?

  • ผู้บริหาร: เราแบ่งหนี้สินเป็น 2 ส่วน หนี้สินในประเทศ (เงินบาท) และหนี้สินต่างประเทศ แต่ละธุรกิจต้องดูแล Net Service ด้วยตนเอง (ระเบียบวินัยทางการเงิน, ชำระหนี้, ดอกเบี้ย) การขายบ้าน/คอนโดฯ จะนำเงินมาลดหนี้สินของโครงการนั้นๆ สำหรับโครงการใหม่ๆ ที่ธนาคารอาจไม่มั่นใจเท่าทำเลเดิม เราเพิ่มความสบายใจให้ธนาคารด้วยการผูกการชำระคืนกับโครงการที่ธนาคารมั่นใจ นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยที่เป็นนโยบายฐานของธนาคารในไทยก็ลดลง ซึ่ง S Estate ก็ได้รับอานิสงส์นั้นด้วย รวมทั้งการใช้เครื่องมือหุ้นกู้เข้ามาเป็นส่วนผสมของหนี้สิน (จากเดิม 10% เป็นเกือบ 30%) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินในอนาคต สำหรับ Project ต่างประเทศ ทิศทางดอกเบี้ยฐานก็ลดลงชัดเจน (โดยเฉพาะจากฝั่งยุโรป) และ Portfolio ของเรามีความ Mature ขึ้น สามารถ Refinance และต่อรองกับธนาคารเพื่อลดดอกเบี้ยได้

สถานการณ์ท่องเที่ยวมีผลกระทบหรือไม่

  • ผู้ถาม: สถานการณ์ท่องเที่ยวมีผลกระทบหรือไม่?

  • ผู้บริหาร: จำนวนรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยอาจดูน่ากังวล (ลดลงแบบมีนัยยะ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน) แต่ Portfolio ของเราโชคดีที่ไม่พึ่งพิงนักท่องเที่ยวชาติใดชาติหนึ่ง (โดยเฉพาะโรงแรมระดับ Upper Upscale) มีการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวที่ดีกว่า (ยุโรป, อเมริกา) และมีประเทศทางเลือกด้วย (อิสราเอล, อินเดีย) จีนส่วนมากจะเข้ามาช่วง Low Season ซึ่งเราปรับตัวกับการที่ลูกค้าจีนเข้ามาน้อยตั้งแต่ช่วง Covid แล้ว เราปรับตัวมาตั้งนานแล้ว เราหาตลาดใหม่ๆ มาตั้งนานแล้ว การลดลงในปีนี้อาจ Impact ในเชิงโมเมนตัม แต่ผลกระทบมาที่โรงแรมเรามีจำกัด (แต่เราไม่ประมาท) pp สมัยก่อน (pre-Covid) แม้กระทั่งอเมริกาใต้ก็เป็น Destination ทางเลือก ดังนั้นการกลับไปทำตลาดในประเทศที่เป็นทางเลือกต่างๆ เหล่านี้ ด้วย Destination มันดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาจากหลายทวีปทั่วโลกอยู่แล้ว ถ้าทวีปใดทวีปหนึ่งไม่ทำงาน เราก็ต้องไปหาประเทศทางเลือกเหล่านั้นมากขึ้น

นิคมอุตสาหกรรมอ่างทองปลอดภัยจากน้ำท่วมหรือไม่

  • ผู้ถาม: นิคมอุตสาหกรรมอ่างทองมีความปลอดภัยจากน้ำท่วมหรือไม่?

  • ผู้บริหาร: สมัยน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 อ่างทองมีน้ำท่วมจริง แต่พื้นที่ที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมของเราไม่ได้ท่วม (พื้นที่อยู่ตรงขอบของอ่างของจังหวัด เป็นพื้นที่สูงของจังหวัด) และตอนนั้นพื้นที่เองก็เป็นพื้นที่ที่ใช้ดูแลผู้ประสบภัยด้วย แต่การก่อสร้างเราก็ไม่ได้ประมาท นอกจากว่าเราใช้ข้อมูลของระดับน้ำระดับ 100 ปีแล้ว ยังมีการสร้างคันดินกั้นน้ำ เพื่อดูแลนิคมฯ ของเราให้เกินระดับน้ำ 100 ปี ที่ทางผู้เชี่ยวชาญของเรามีการศึกษาด้วย ทั้ง Comport ธนาคารที่เป็นผู้ให้กู้ และทำให้นักลงทุนที่มาลงทุนในโรงงานในพื้นที่เรามีความสบายใจเช่นกัน

แนวโน้ม Q2

  • ผู้ถาม: แนวโน้ม Q2 เป็นอย่างไร?

  • ผู้บริหาร: ธุรกิจโรงแรม ธรรมชาติของ Port เราจะไป Peak Q1 กับ Q4 (Q4 จะ Peak มากกว่า Q1) Q2 Q3 เป็น Q ที่เราต้อง Manage เพื่อให้มีผลกระทบจากความเป็น Low Season ของ Portfolio ใหญ่ให้น้อยที่สุด ภูมิภาคที่ควรจะมาก็เริ่มมาแล้ว (ฟิจิ, ยุโรป) ไทยมีการ Drop ลง Maldive มีการ Drop ลง (แต่ Drop ลงไม่น้อยกว่า Low Season ของปีที่ผ่านมา) รายได้ที่เริ่มกลับมามีให้เห็นคือรายได้จากธุรกิจที่พักอาศัย เรามี Backlog ที่เราปั้นกันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วต่อต้นปีนี้ ก็มา Schedule การโอนมากขึ้นในไตรมาส 2 บ้านที่เป็น Shorn ที่เป็นระดับ 10 กลางๆ ถึง 30 ล้าน ตลาดนี้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นมากขึ้น มีความสามารถในการต่อรอง/หา Funding ได้ดีขึ้น

โพสต์ล่าสุด