GCAP เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ Lending & Non-Lending Business ในปี 2568 พร้อมรุกแพลตฟอร์มเกษตรดิจิทัล

P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.28 (0.00%)

GCAP เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ Lending & Non-Lending Business ในปี 2568 พร้อมรุกแพลตฟอร์มเกษตรดิจิทัล

สวัสดีครับท่านนักลงทุนและผู้สนใจทุกท่าน วันนี้ผมจะสรุปผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2568 ของบริษัท G Capital จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบถึงประวัติความเป็นมาและทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท

GCAP ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 และเริ่มให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถเกี่ยวข้าวเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2549 ต่อมาได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556 และได้เริ่มนำกลยุทธ์ Lending Business และ Non-Lending Business มาใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตอย่างยั่งยืนของ GCAP ในปี พ.ศ. 2566

ในปี พ.ศ. 2568 นี้ GCAP ได้เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มเกษตร Matching และลงนามในสัญญา ร่วมลงทุนเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการทำธุรกิจการให้บริการโดรนเพื่อการท่องเที่ยวและการขนส่ง

GCAP ประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร อาทิเช่น รถเกี่ยวข้าว, รถเกี่ยวข้าวโพด, โดรนการเกษตร, เรือเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ และนำเครื่องจักรกลการเกษตรและหรือเรือสปีดโบ๊ทไปใช้ในการประกอบอาชีพ เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับท้องถิ่น นอกจากนี้ GCAP ยังให้บริการสินเชื่อประเภทอื่นๆ เช่น สินเชื่อเพื่อธุรกิจ และสินเชื่อแบบมีหลักประกัน

ปัจจุบัน GCAP ตั้งอยู่เลขที่ 9/9 อาคารแอสสาธร ชั้น 19 ถนนสาทรใต้ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิอันเพียบพร้อมด้วยประสบการณ์ที่หลากหลายรวม 9 ท่าน และคณะกรรมการบริษัทได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอย่างครบถ้วนตามหลักกำกับดูแลกิจการที่ดี อันประกอบด้วย คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง, คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน, คณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลกิจการที่ดี

ทีมผู้บริหารระดับสูงของ GCAP ประกอบด้วย กระผม นายอนุวัตร โกศล ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, คุณพิธาน ชัยยะเนตร ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ และนางสาวพนิดา แจ้งกิจ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ

GCAP มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความโปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน บริษัทได้เข้าร่วมโครงการประเมินความยั่งยืนต่างๆ และได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์ให้เป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี พ.ศ. 2567 ระดับ A, ได้รับการประเมินโครงการสำรวจกำกับกิจการบริษัทจดทะเบียน CGR ประจำปี 2567 ในระดับ 5 ดาว หรือ ดีเลิศ, ได้รับการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ด้วยคะแนนเต็ม 100 คะแนน หรือ ระดับดีเยี่ยม และบริษัทได้ผ่านการรับรองให้เป็นสมาชิกแนวร่วมในการต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ CAC ประจำปี 2567

บริษัทให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งมั่นสร้างประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล โดยใช้แนวคิดการสร้างคุณค่าร่วมมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงาน บริษัทให้ความสำคัญกับการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

GCAP แบ่งประกอบธุรกิจออกเป็น 2 ส่วน คือ Lending Business และ Non-Lending Business ในส่วนของ Lending Business ก็จะประกอบไปด้วย สินเชื่อ "สบายใจเกษตรกร" เป็นการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย, สินเชื่อ "สบายใจอันดามัน" เป็นบริการการให้สินเชื่อเช่าซื้อเรือสปีดโบ๊ทเพื่อประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว และสินเชื่อ "สบายใจธุรกิจ" เพื่อให้สินเชื่อเงินกู้ยืมแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ภาพที่แสดงจะเป็นรถเกี่ยว นวดข้าว ที่ GCAP ให้สินเชื่อเช่าซื้อร่วมกับผู้ผลิตที่มีประสบการณ์อย่างยาวนาน และเป็นเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และผลิตโดยฝีมือคนไทย อีกอันหนึ่งของเครื่องจักรกลการเกษตรก็เป็นรถเกี่ยว นวดข้าวโพดที่ผลิตโดยฝีมือคนไทย ที่มีประสิทธิภาพสูง และ GCAP ให้เช่าซื้อร่วมกับผู้ผลิตเช่นกัน ด้านล่างทางซ้าย จะเป็นภาพโดรนการเกษตรที่ GCAP ให้สินเชื่อกับลูกค้าเพื่อประกอบอาชีพในการให้บริการการพ่นปุ๋ยและยาฆ่าแมลง กับเกษตรกร

ในตารางนี้จะแสดงให้เห็นถึงประเภทของสินเชื่อเช่าซื้อที่ GCAP ให้บริการ อันประกอบด้วย รถเกี่ยว นวดข้าว, สินเชื่อเช่าซื้อรถแลกเงิน, สินเชื่อเช่าซื้อโดรนเพื่อการเกษตร และสินเชื่อเช่าซื้อเรือเพื่อการท่องเที่ยว พร้อมด้วยรายละเอียดของวงเงินในการให้สินเชื่อ, อัตราเงินดาวน์ขั้นต่ำ, อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน, ระยะเวลาในการผ่อนสูงสุด และก็เทอมในการผ่อนชำระ ทั้งนี้หากท่านสนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้จากเจ้าหน้าที่ของบริษัทได้โดยตรง

นี่เป็นอีกภาพหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าทีมบริหารของ G Capital ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับคู่ค้าที่สำคัญ ที่เป็นผู้ผลิตรถเกี่ยว นวดข้าว รถเกี่ยวข้าวโพด ที่ดำเนินกิจการมายาวนาน และเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปี ในวันที่ 10 มกราคม ปี 2568 ภายใต้แบรนด์ "เจ้าช้าง" ของบริษัท เกษตรพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด และ บริษัท เทมโก้ เกษตรพัฒนา จำกัด

สำหรับภาวะเศรษฐกิจ และด้านการเกษตรกร การเกษตรของไทยในไตรมาสที่ 1 คาดว่าจะมีการขยายตัวร้อยละ 3 อันเนื่องมาจากปัจจัยการเข้าสู่สภาวะราญินย่า ตั้งแต่ปลายปี 2567 ทำให้ฝนตกมากขึ้น มีต้นทุนน้ำมากกว่าปีที่ผ่านมา และสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ความต้องการสินค้าเกษตรกรเพิ่มขึ้นตามการฟื้นฟูของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ดียังต้องมีความระมัดระวัง กับปัจจัยลบในเรื่องของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า บาทประเทศที่ชะลอตัว และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรของปี 2568 ยังคาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.8 ถึง ร้อยละ 2.8 จากปัจจัยสนับสนุนในเรื่องของปริมาณน้ำฝน และน้ำต้นทุนที่มีมากขึ้นจากอิทธิพลของราญินย่า เศรษฐกิจในประเทศยังมีแนวโน้มขยายตัว ความต้องการสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกไปยังตลาดโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น แต่ยังไรก็ดียังต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในประเด็นเรื่องของกฎระเบียบ และมาตรการกีดกันทางการค้าที่เข้มงวด และมาตรการกำแพงภาษีตามนโยบายของประธานาธิบดี ทรัมป์ และก็แนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีทิศทางการชะลอตัว

สำหรับในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 อัตราการเจริญเติบโตของสาขาการเกษตร ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจของบริษัท ในสาขาพืชขยายตัวร้อยละ 4.2 จากปัจจัยเรื่องสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี และก็ให้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น สาขาทางการเกษตรขยายตัวร้อยละ 3.7 จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกทำให้ภาพรวมกิจกรรมการจ้าง การเตรียมดิน บริการเก็บเกี่ยวเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะข้าวนาปี แล้วก็ข้าวนาปรัง ปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกำลังได้ผลกระทบจากราคาข้าวที่ลดต่ำลง แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นก็ได้มีการออก มาตรการการจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรโดยตรง โดยชำระและก็จ่ายให้จำนวนไร่ละ 1,000 บาท

นอกจากการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อตามที่ได้กล่าวมาแล้ว GCAP ยังมีการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ ทั้งนี้รูปแบบของการให้สินเชื่อก็เป็นไปตามประกาศแล้วก็หลักเกณฑ์การให้สินเชื่อที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และนอกจากนี้ GCAP ยังประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อเงินกู้ยืมแบบมีหลักประกัน บริษัทให้สินเชื่อแบบมีหลักประกันในแง่ของการจดจำนอง ประเภทหลักประกันก็ได้แก่ที่ดิน ที่ดินและก็สิ่งปลูกสร้าง การกำหนดวงเงินสินเชื่อก็ไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาประเมินของมูลค่าหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยก็ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี เงื่อนไขการผ่อนชำระเป็นรายเดือน ระยะเวลาในการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี

ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัท นะครับ ยอดลูกหนี้ของ GCAP ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 มียอดหนี้เท่ากับ 741 ล้านบาท มีสัดส่วนลูกหนี้เช่าซื้อซึ่งเป็นสินเชื่อหลักของ GCAP มีสัดส่วนร้อยละ 81 หรือมียอดมูลหนี้ 601 ล้านบาท และมีลูกหนี้เงินกู้ในสัดส่วนร้อยละ 19 หรือมียอดหนี้เท่ากับ 141 ล้านบาท กราฟนี้เป็นกราฟแสดงสัดส่วนของลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อและสินเชื่อ เงินกู้ ในสัดส่วนของลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้สัญญาเช่าซื้อที่เป็นสินเชื่อหลักของ GCAP นั้น GCAP สามารถบริหารจัดการลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 GCAP มีลูกหนี้ที่ไม่มี ยอดค้างชำระเลยแม้แต่ 1 บาท ถึงร้อยละ 76 หรือมีมูลค่า 517.65 ล้านบาท มีลูกหนี้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวด หรือเป็นลูกหนี้ NPL ร้อยละ 6.79 และ GCAP มีเป้าหมายว่าสัดส่วนของลูกหนี้ NPL ณ สิ้นปี 2568 จะไม่เกินร้อยละ 5

กราฟนี้จะแสดงให้เห็นถึง ยอดสัดส่วนของลูกหนี้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวด หรือ NPL และ เป็นกราฟแสดงการตั้งหนี้ ด้อยมูลค่า หรือ ECL ของมูลค่าของลูกหนี้ เช่าซื้อ และกราฟนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การควบคุมคุณภาพยอดลูกหนี้ NPL จะเห็นได้ว่า ณ สิ้นปี 2567 เรามีสัดส่วนลูกหนี้ NPL 6.62% มีมูลหนี้ NPL อยู่ 45 ล้านบาท และในสิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ในปีนี้ ถึงแม้ว่าเปอร์เซ็นต์จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก 6.62 เป็น 6.79 แต่ ยอดการควบคุมมูลค่าของหนี้ NPL เราลดลงจาก 45 ล้าน เหลือ 41.79 ล้านบาท และเราก็มั่นใจว่า เราจะควบคุมยอดหนี้ NPL ณ สิ้นปี 2568 ให้ไม่เกินร้อยละ 5

กราฟแสดงกำไร สุทธิ ของบริษัท ต้องเรียนว่า ในผลแสดงกำไรสุทธิ เราได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ของ โควิด-19 ทำให้ลูกหนี้ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ตามกำหนด ได้ลดลง นะครับ ทำให้บริษัทจำเป็นต้องมีการตั้งหนี้ ด้อยคุณภาพ หรือ ECL เพิ่มขึ้น ในปี 2021 และในปี 2022 จำนวนมาก อันทำให้มีผลขาดทุน ในปี 2021 จำนวนเงิน 58 ล้าน แล้วก็ในปี 2022 จำนวนเงิน 100 ล้านบาท แต่หากพิจารณาในกราฟทางขวามือ จะเห็นได้ว่าผลการดำเนินงานของ GCAP ก่อนการตั้ง ECL แล้วก็ ภาษี เรามีกำไรมาโดยตลอด

กราฟนี้จะแสดงให้เห็นถึง เงินกู้ยืมต่อหนี้สินรวม ในส่วนของเงินกู้ยืมของ GCAP ส่วนใหญ่ก็จะมาจากหุ้นกู้ แล้วก็เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน สัดส่วนของเงินกู้ยืมจากหุ้นกู้ เรามีแนวโน้มที่ลดลง จากปี 2021 จำนวน 848 ล้านบาท ลง แล้วชำระได้หมดในปี 2568 ในไตรมาสที่ 1 และหากพิจารณาในช่วงของเวลา 4 ปีที่ผ่านมา GCAP ได้มีการทยอยชำระคืนหุ้นกู้ไปแล้ว ทั้งหมดรวม 1,123.5 ล้านบาท แล้วก็มี นะครับ รายละเอียดการชำระคืน อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงวินัยทางการเงิน และการรักษาคำมั่น ในการชำระคืน อย่างต่อเนื่อง และ ณ ปัจจุบัน GCAP มีสัดส่วนของเงินกู้ยืมต่อส่วนของเจ้าของเพียง 1.1 เท่า และหากพิจารณาจากลูกหนี้ต่อเจ้าหนี้แล้ว เรามีลูกหนี้มากกว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ถึง 1.88 เท่า หากพิจารณาจาก อัตราผลต่าง ระหว่างเงินให้กู้ยืม แล้วก็เงินกู้ยืม หรือ Net Interest Margin เรามีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นนะครับ ตั้งแต่สถานการณ์ของ โควิด และล่าสุดในไตรมาสที่ 1 เรามีผลต่างถึง 11.77% และภาค ต่อไปก็จะ เป็นสัดส่วนของ Return on Asset แล้วก็ Return on Equity

ในธุรกิจที่สำคัญอีกธุรกิจหนึ่งก็คือ Non-Lending Business เรามี 2 กิจกรรมสำคัญก็คือ อันที่ 1 ก็คือ เกษตร Matching เป็นระบบการให้บริการรถเกี่ยว นวดข้าว และรถเกี่ยว นวดข้าวโพด GCAP ได้ร่วม แล้วก็จับมือกับบริษัท แว่นแก้ว Innovet จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาแพลตฟอร์มการบริหารจัดการทางการเกษตร ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทางด้านดิจิทัล และแพลตฟอร์มข้าวอัจฉริยะของกรมการข้าว โดยได้เรา ร่วมมือกันในการพัฒนา แล้วก็จัดทำแพลตฟอร์มในรูปแบบนะครับ ของ การใช้งาน แล้วก็จะเริ่มใช้ ใน 3 จังหวัดนำร่องได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และก็แพร่ ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ แพลตฟอร์มที่เราใช้ เราจะพัฒนา ทำให้ ผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร และหรือ ผู้ประกอบการ สามารถเข้าถึงได้ อย่างง่ายดายโดยใช้โทรศัพท์มือถือ แล้วก็ใช้ แอปพลิเคชั่น LINE ที่ทุกคนคุ้นเคย นี่คือรูปแบบ และ โครงการ Non-Lending Business ที่ 2 นะครับก็คือโครงการ เกาะเต่า Lifestyle Complex ต้องเรียนว่า GCAP ได้เริ่ม โครงการสนามบินส่วนบุคคลเกาะเต่า ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งได้มีการออกแบบสนามบิน แล้วก็อยู่ระหว่างการเตรียมแผนในการก่อสร้าง อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีแล้วก็นวัตกรรมด้านการบินได้มีการเปลี่ยนแปลงแล้วก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโดรนโดยสาร หรือ Passenger Drone ซึ่งมีการใช้พื้นที่น้อยกว่าการสร้างรันเวย์ของสนามบิน และ สามารถบริหารจัดการพื้นที่ส่วนที่เหลือมาใช้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวให้อย่างมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น จึงนำมาสู่การปรับคอนเซ็ปต์ของโครงการเป็นเกาะเต่า Lifestyle Development Complex ศูนย์รวมโรงแรมและกิจกรรมอย่างครบวงจร โดยเรามี ธุรกิจโรงแรม มีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีกิจกรรมผจญภัยแบบ Adventure มีลานกิจกรรมอเนกประสงค์ และที่สำคัญก็คือมีลานจอดโดรนโดยสาร ในส่วนของโดรนโดยสารนั้นบริษัทได้มีการพัฒนา ร่วมมือกับ อีหัง ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลก ด้านโดรนโดยสาร แบบขึ้นลงในแนวดิ่ง เพื่อพัฒนา ให้บริการโดรนโดยสารด้านการท่องเที่ยว แล้วก็การขนส่งที่เกาะเต่า อีหังเป็นบริษัทเทคโนโลยีการบินของประเทศจีนก่อตั้งตั้งแต่ปี 2014 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ Nasdaq ในสหรัฐอเมริกาในปี 2019 โดยโดรนโดยสารของอีหัง สามารถบรรทุกผู้โดยสาร รวมทั้งใช้ในการขนส่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีรัฐบาลจีนให้การสนับสนุน และได้มีการทดลอง ใช้บินนะครับ มา 19 ประเทศทั่วโลก กว่า 66,000 เที่ยวบิน ไม่ว่า จะเป็นประเทศต่างๆ และ ในวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้มีการ ลงนามร่วมกัน นะครับ ระหว่างบริษัท G Capital กับบริษัท C Venture เพื่อจัดตั้งบริษัท ร่วมทุน ชื่อว่า เกาะเต่า AAM โดย GCAP ถือหุ้น ในสัดส่วน 51% และก็บริษัท C Venture ถือหุ้น ในสัดส่วน 49% มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท แล้วก็ชำระเริ่มต้น 5 ล้านบาท และคาดว่า จะจัดตั้ง บริษัทแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน

นี่คือรายละเอียดนะครับของบริษัทร่วมลงทุน และเพื่อให้ ท่านนักลงทุนแล้วก็ผู้ชมที่สนใจ ได้มีความรู้ความเข้าใจในโครงการ เกาะเต่า Lifestyle Complex ได้มากขึ้น ก็อยากจะเชิญให้รับชมวีดิทัศน์เพื่อแสดงให้เห็นถึงที่มาแล้วก็ลักษณะของธุรกิจ ของโดรนเพื่อการโดยสารได้อย่างครบถ้วน ขออนุญาต เปิดวีดิทัศน์เพื่อให้ท่านนักลงทุนนะครับแล้วก็ผู้สนใจได้ชม เชิญเลยครับ

[เริ่มช่วงถาม-ตอบ นาทีที่ 48.17] ครับ ในส่วนต่อไปนะครับ ก็จะเป็นช่วงของการ เอ่อ ถาม แล้วก็ตอบคำถามนะครับ กับท่านนักลงทุน แล้วก็ผู้ที่ สนใจ ในขณะนี้มีคำถามเข้ามา 2 คำถาม นะครับ ผมขออนุญาตอ่านทวนคำถามทั้ง 2 คำถามนะครับ คำถามที่ 1 ก็คือแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจะดีกว่าหรือไม่เพราะสาเหตุใด นะครับ นั่นคือคำถามที่ 1 คำถามที่ 2 ปีนี้กำไรจะดี เทียบกับปี 2023 ได้หรือไม่ นะครับ สำหรับคำถามทั้ง 2 คำถามเนี้ย ผมจะขออนุญาต เรียนตอบไปพร้อมๆกัน นะครับ เพราะเป็นเรื่องของ เอ่อ แนวโน้มของผลการดำเนินงานของบริษัท นะครับ ทั้งในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้แล้วก็ในผลการดำเนินงานทั้งปีของปีนี้ ก่อนอื่นก็จะเรียนตัวเลขนะครับ ให้กับท่านได้ทราบก่อนว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ในปีที่ผ่านมาเนี้ย GCAP มีกำไร 4.5 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ของปี 67 แล้วก็กำไรในปี 2023 หรือปี 2566 GCAP มีกำไรทั้งปีเนี่ย 14.82 ล้านบาท นะครับ ต้องเรียนว่า การที่จะเรียนเป็นตัวเลขอย่างชัดเจนนะครับ คงจะเรียนได้ เอ่อ ลำบากเพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนะครับ แล้วก็เป็นข้อมูล ซึ่งเป็นข้อมูลภายในซึ่งเราจะเปิดเผยให้กับ นักลงทุนได้รับทราบเนี่ยก็คือเมื่อ ผลการดำเนินงานเนี่ยได้แจ้งนะครับ ต่อหลักทรัพย์ นะครับ แต่ขออนุญาตเรียนเป็นข้อมูลนะครับ โดยสังเขปว่า สถานการณ์ที่ผ่านมาของ GCAP เนี่ย อย่างที่เรียนแล้วว่า กระทบจากลูกหนี้ที่เกิดขึ้นจาก โควิดเนี่ย เราได้มีการตั้ง หนี้ด้อยคุณภาพเอาไว้จำนวนพอสมควรแล้ว นะครับ ทั้งในปี 2021 แล้วก็ปี 2022 แล้วก็ภาระที่เราต้องชำระคืน หุ้นกู้นะครับ ที่เราต้องเก็บเงินมาหรือหาแหล่งเงินมาเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ก็ได้หมดพันธนาการอันนั้นไปแล้วตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ เพราะฉะนั้นเม็ดเงินที่จะเกิดขึ้นจากนี้เนี่ยเราก็สามารถนำมาปล่อยสินเชื่อได้อย่างเต็มที่ และ ในไตรมาสที่ 3 นะครับเราก็มีแผนในการที่จะออกหุ้นกู้ใหม่นะครับ ก็จะฝากท่านนักลงทุนแล้วก็ผู้สนใจในการลงทุนในหุ้นกู้ของ GCAP ได้ ถ้าหากว่า GCAP ได้เงินนะครับ มาจากการปล่อยหุ้นกู้ก็สามารถจะสร้างพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพแล้วก็สร้างกำไร เกาะเก่าการตั้งสำรองได้ตั้งไปแล้วในปี 2021 และ 2022 เพราะฉะนั้นก็มีความมั่นใจว่า น่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดี ประกาศให้กับท่านนักลงทุนได้ทราบ ครับผม อันนี้ขออนุญาตตอบโดยสังเขป อย่างงี้นะครับผม ครับ ไม่ทราบ ณ ขณะนี้มีคำถามอื่นเพิ่มเติมไหมครับ หากไม่มีคำถามอื่นเพิ่มเติม ก็ ในนามของ GCAP ก็ขอกราบขอบพระคุณท่านนักลงทุนและผู้สนใจทุกท่าน ขอบพระคุณมากครับ **หัวข้อคำถามและคำตอบ:** * **แนวโน้มผลการดำเนินงาน:** * **คำถาม:** แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร และมีปัจจัยใดสนับสนุน * **คำตอบ:** แม้จะไม่สามารถให้ตัวเลขที่ชัดเจนได้ แต่คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นเนื่องจาก GCAP ได้ตั้งสำรองหนี้ด้อยคุณภาพจากผลกระทบโควิด-19 ไว้แล้ว และภาระชำระคืนหุ้นกู้ได้หมดไปตั้งแต่ไตรมาส 1 ทำให้มีเม็ดเงินสำหรับปล่อยสินเชื่อมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ใหม่ในไตรมาส 3 เพื่อสร้างพอร์ตสินเชื่อและกำไรเพิ่มเติม * **กำไรเทียบกับปี 2566:** * **คำถาม:** ปีนี้กำไรจะดีเทียบกับปี 2566 ได้หรือไม่ * **คำตอบ:** มีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีและประกาศให้ผู้ลงทุนทราบได้ โดย GCAP ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต * *หมายเหตุ: ปี 2566 มีกำไร 14.82 ล้านบาท, ไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไร 4.5 ล้านบาท* **สรุป:**

GCAP มองเห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจจากแพลตฟอร์มเกษตรดิจิทัลและโครงการพัฒนาเกาะเต่า Lifestyle Complex ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างรายได้และผลกำไรในอนาคต แม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการแข่งขันจะยังคงมีความท้าทาย แต่ GCAP มั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้

โพสต์ล่าสุด