สรุป Oppday HFT: ทิศทางธุรกิจยางล้อ ปี 2568 ฝ่าความท้าทาย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

P/E 9.16 YIELD 7.45 ราคา 3.76 (0.00%)

โอเคครับ ตามคำขอ สรุป OPPDAY หุ้น HFT อย่างละเอียด โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ให้มา พร้อมจัดรูปแบบให้อ่านง่ายและพร้อมใช้งานครับ

สรุป Oppday HFT: ทิศทางธุรกิจยางล้อ ปี 2568 ฝ่าความท้าทาย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

สวัสดีท่านนักลงทุนทุกท่าน พบกับการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2568

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ผลกระทบเชิงลบ:

  1. ยอดขายลดลง 15.62% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2567 คิดเป็น 131 ล้านบาท
  2. สาเหตุหลัก: การปรับขึ้นราคาสินค้า (ยางนอก ยางใน) เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น
  3. ลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อ
  4. ตลาดฟิลิปปินส์: สินค้าจากจีนเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ทำให้คำสั่งซื้อลดลง
  5. กำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ลดลง 0.98%
  6. EBITDA ลดลง 78 ล้านบาท หรือ 42.54%
  7. Net Profit ลดลง 74.95 ล้านบาท หรือ 49.11%

ผลกระทบเชิงบวก:

  1. ยอดขายโดยรวมโตขึ้น 2.98% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567
  2. กลุ่มลูกค้า OEM ยังคงเติบโตต่อเนื่อง
  3. ตลาดยุโรป: ยอดขายยางรถจักรยานยังคงดี (High Season ต่อเนื่องจาก Q4)

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

  1. ตลาดยุโรป: ความต้องการยางรถจักรยานยังสูงต่อเนื่อง
  2. ลูกค้า OEM: การเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเป็นที่ยอมรับในตลาด
  3. ESG Project: สร้างความแตกต่างและความยั่งยืนให้กับผลิตภัณฑ์

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

  1. การแข่งขันจากสินค้าจีนราคาถูกในตลาดอาเซียน
  2. ความผันผวนของราคาวัตถุดิบและอัตราแลกเปลี่ยน
  3. ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและมาตรการกีดกันทางการค้า (Tariff)

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

  1. เน้นการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า OEM
  2. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและควบคุมต้นทุน
  3. ทำตลาดเชิงรุกและสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง
  4. พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ESG)
  5. ปรับกลยุทธ์การขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

  1. Q2/2568: คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานจะไม่แตกต่างจาก Q1 มากนัก
  2. ครึ่งปีหลัง: เฝ้าระวังสถานการณ์การแข่งขันจากจีนในตลาดฟิลิปปินส์และผลกระทบต่อตลาดอื่น ๆ
  3. เป้าหมาย: ดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี และรักษายอดขายให้เติบโตต่อเนื่อง
  4. แผนระยะยาว: ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จาก Steam Boiler ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 41:30]

คำถามและคำตอบที่น่าสนใจ:

  1. แนวโน้มงบไตรมาส 2 และช่วงครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร?

    ผู้บริหาร: ไตรมาส 2 ไม่น่าจะแตกต่างจากไตรมาส 1 มากนัก ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในฟิลิปปินส์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

  2. มีแผนรับมือกรณีเศรษฐกิจและส่งออกชะลอตัวอย่างไร?

    ผู้บริหาร: มีแผนรับมืออยู่แล้ว โดยเฉพาะการดูแลลูกค้า OEM ที่มีการ Fix Spec สินค้าไว้ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบด้านราคามากนัก และมีการพูดคุยกับลูกค้าเพื่อหาทางช่วยเหลือหากเกิดผลกระทบ

  3. ยอดขายในประเทศและเอเชียที่ชะลอตัว YOY เกิดจากอะไร?

    ผู้บริหาร: สาเหตุหลักมาจากการปรับขึ้นราคาสินค้าในไตรมาส 1 เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ แต่กลุ่มลูกค้า OEM ยังคงเติบโตได้ดี

  4. Demand Outlook ในช่วงปีนี้เป็นอย่างไร? ความไม่แน่นอนเรื่อง Tariff มีผลกระทบต่อการสั่งซื้อหรือไม่?

    ผู้บริหาร: Demand Outlook ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ส่วนเรื่อง Tariff นั้น มีทั้งผลโดยตรงและโดยอ้อม แต่ลูกค้า OEM ส่วนใหญ่ยังคงต้องใช้สินค้าจากบริษัท ทำให้ผลกระทบไม่มากนัก และมีการพูดคุยกับลูกค้าเพื่อหาทางออกร่วมกัน

  5. คู่แข่งจากจีนตัดราคาสินค้าของบริษัทอยู่ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์? และด้านต้นทุนบริษัทสามารถสู้กับบริษัทจีนได้หรือไม่?

    ผู้บริหาร: การตัดราคาเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และคงไม่ใช่จุดที่บริษัทจะไปต่อสู้ด้วยโดยตรง แต่จะเน้นที่คุณภาพสินค้า การบริการ และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า OEM มากกว่า

  6. สินค้าของบริษัทถือเป็นสัญชาติไทยหรือไต้หวัน เมื่อส่งเข้าอเมริกาโดนแทรกเรทประมาณเท่าไหร่?

    ผู้บริหาร: สินค้าเป็น Made in Thailand ส่วนเรื่องแทรกเรท จะขอตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและแจ้งให้ทราบภายหลัง

  7. ข้อแตกต่างระหว่างตลาดไทยและตลาดฟิลิปปินส์เป็นอย่างไร? ทำไมฟิลิปปินส์ถึงโดนบริษัทจีนตี แต่ตลาดไทยไม่โดน?

    ผู้บริหาร: ในฟิลิปปินส์ไม่มีผู้ผลิตรายใหญ่ในประเทศ ทำให้จีนสามารถเข้ามาทำตลาดได้ง่ายกว่า ในขณะที่ไทยมีผู้ผลิตในประเทศ สมาคม และหน่วยงานรัฐบาลที่คอยดูแลเรื่องการทุ่มตลาด

  8. คำสั่งซื้อล่วงหน้าตอนนี้มีกี่เดือน? มากหรือน้อยกว่าปีที่แล้วเท่าไหร่?

    ผู้บริหาร: ตอนนี้มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าถึงไตรมาส 3 แล้ว และมากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากตั้งเป้าหมายไว้สูงกว่าและลูกค้ายังทำได้ตามเป้าที่วางไว้

  9. ปัญหาในฟิลิปปินส์เกิดจากคู่แข่งของฮั้วฟงมีจำนวนเพิ่มขึ้น หรือลูกค้าของฮั้วฟงเจอกับคู่แข่งจากจีนเพิ่มขึ้น?

    ผู้บริหาร: ลูกค้าของฮั้วฟงในฟิลิปปินส์เจอสินค้าจากจีนในตลาดมากขึ้น ซึ่งจีนใช้ช่องทางการขายเดียวกับลูกค้าของบริษัท ทำให้ต้องมีการพูดคุยและสนับสนุนลูกค้ามากขึ้น

สรุป

แม้ว่า HFT จะเผชิญกับความท้าทายจากต้นทุนที่สูงขึ้นและการแข่งขันจากจีน แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้นที่คุณภาพสินค้า การบริการลูกค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์และตรงตามความต้องการของคุณนะครับ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยครับ

โพสต์ล่าสุด