https://aio.panphol.com/assets/images/community/6751_dc98ab.png

KUN อนาคตอสังหาฯไทย ปี 2568: กลยุทธ์รับมือความผันผวน เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน

P/E 28.74 YIELD 1.13 ราคา 0.00 (0.00%)

KUN อนาคตอสังหาฯไทย ปี 2568: กลยุทธ์รับมือความผันผวน เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน

สวัสดีคุณผู้ชมทุกท่านที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสด Oppday บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ในวันนี้เราจะมาอัปเดตกันในเรื่องของ Performance ช่วง 3 เดือนแรกของปี อัปเดต Financial Statement ของเราเป็นอย่างไร รวมไปถึง New Business Landscape ของคุณอะไรนะคะที่เราเองได้ตั้งใจถ่ายทอดออกมาผ่านในโครงการของ นวรา ทั้งที่พระราม 2 และที่รังสิตคลอง 2 ประกอบกับนี่เป็นในช่วงการดำเนินงานของเรา 5 ปีที่ 2 แล้วค่ะว่า คุณอะไรเองเนี่ยจะมีการเดินหน้านะคะในการพัฒนาสร้างพื้นที่สร้างความสุขนะคะ ปักหมุดชานเมืองรอบ 4 ทิศของกรุงเทพฯ อย่างไรกันบ้างและปีนี้ค่ะ Investor เองนะคะจะเห็นพัฒนาการอะไรที่สำคัญที่จะสร้าง Return ให้กับองค์กรรวมถึงการสร้าง Return ให้กับนักลงทุนด้วยนะคะซึ่งวันนี้ผู้บริหารทั้ง 2 ท่านร่วมพูดคุยกับเราแล้วนะคะท่านแรกคุณประวีรัตน์ เทวอักษรค่ะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทวิลล่า คุณาลัยจำกัดมหาชนนะคะ กราบสวัสดีค่ะ รวมถึงพี่โจนะคะ คุณสุรเดช ประจวบศิรรัตน์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีการเงินและงบประมาณบริษัทวิลล่า คุณาลัยจำกัดมหาชน พี่โจสวัสดีค่ะ

ถือว่าเป็น Oppday แรกในฐานะที่คุณ อะไรได้มูฟจาก MAI มา SET นะคะ เริ่มต้นเลยค่ะอยากจะให้เล่าให้ฟังให้หน่อยนะคะว่า Overview ที่ผ่านมาเราเป็นยังไงบ้างคะ พี่รัตน์

ก็ขออนุญาตบริษัทสั้นๆ นิดนึงนะคะ ก็บริษัทวิลล่า คุณาลัยจำกัดมหาชนนะคะ ก็เราเนี่ยทำธุรกิจพัฒนาบ้านจัดสรรแนวราบนะคะ โดยเน้นไปที่เขตชานเมืองก็คือ 4 ทิศในเขตปริมณฑลรอบกรุงเทพมหานครเป็นหลัก โดยที่ Product ของเราเนี่ยก็จะมีระดับราคาอยู่ที่ 3 - 12 ล้านในปัจจุบันนี้นะคะ ก็จะมีที่บางบัวทองนะคะที่จากเชิงเทราที่รังสิตแล้วก็ที่ธาม สอบนะคะโดยที่มีโครงการที่ปิดไปแล้วเป็นจำนวนประมาณ 10 กว่าโปรเจคแล้วค่ะตอนนี้แล้วก็ปัจจุบันนี้มีอยู่ที่ 8 โครงการด้วยกันนะคะ

ก็ถือว่าเดี๋ยวเราจะมาขยายความนะคะกับสิ่งที่เราได้ทำไปแล้วปิดไปแล้วนะคะแล้วก็ได้มีการออนโกอิ้งอยู่ด้วยนะคะ ทีนี้อยากให้ขยายความให้หน่อยนะคะเพราะว่าเราได้เห็นภาพรวมของทั้ง 4 ทิศมานะคะว่าเจาะลึกในแต่ละทิศที่มันมีคีย์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นค่ะ

สำหรับเอ่อการเลือกทำเลของเรานะคะแล้วเอ๊ะทำไมเราถึงไปอยู่ที่ 4 ทิศแล้วก็ทำไมอยู่ต้องอยู่ที่ปริมณฑลนะคะ ก็คือว่าบริษัทเนี่ยมีความถนัดในการที่สร้างเมืองนะคะเวลาที่เราไปเนี่ยเราก็ชอบที่จะไปแล้วก็อยู่ในในแต่ละที่ในให้ได้ซักเหมือนเรามองว่าประมาณซัก 10 ปี เราจะสร้างเราเรียกว่า ทาวน์ชิพ เดเวลอปเม้นท์ ก็คือสร้างเมืองมีชุมชนมีบ้านมีหลากหลายมีความเซ็กมีแต่ละ Segment ออกมาผสมกันอะไรอย่างนี้นะคะแล้วก็ในขณะเดียวกันเนี่ยก็สามารถที่จะเติบโตทางด้านรายรับนะคะแล้วก็สร้างฐานลูกค้าได้ด้วย อย่างที่นนทบุรีเนี่ยแน่นอนนะคะก็เป็น Resident ของคนกรุงเทพฯ มีการพัฒนาการสำคัญๆ มากมายในเชิงโครงข่ายคมนาคมขนาดใหญ่นะคะ เช่นในปัจจุบันเนี้ยเส้นเอ่อของถนนกาญจนาภิเษกที่ ที่มาถึงตรงเมืองใหญ่เนี่ยก็เปิดใช้รับ ซึ่งตอนนี้ให้ความสะดวกกันมาก ที่พระราม 2 เองเนี่ยนะคะก็เป็นจุดที่ เอ่อมีความสำคัญมากเลยนะคะในปัจจุบันซึ่งบริษัทก็ได้พลอตลงไปตรงนั้นเนื่องจากว่าในปัจจุบันเนี้ยนอกจากเดิมที่นี่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียนอยู่ ในระยะ 500 เมตรจากโครงการนี้นะคะ ในปีนี้เนี่ยก็จะมีการก่อสร้างเพิ่มก็คือโรงพยาบาลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ซึ่งอยู่ระยะไม่เกิน 500 เมตรเช่นเดียวกัน งั้นมันก็เหมือนกับว่าเนื่องจากอากาศดีเป็นปอกของคนกรุงเทพฯอยู่แล้วนะคะ แล้วก็เป็นพื้นที่ที่ยังสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับเป็นแค่อยู่ได้ นั้นก็เป็นส่วนของพระราม 2 ส่วนปทุมธานีแน่นอนนะคะก็เป็นแหล่งที่Resident ของคนกรุงเทพฯฝั่งเหนือนะคะ แล้วก็มีความหนาแน่นของประชากรซึ่งตรงนั้นเนี่ยประชากรจะเริ่ม Move ในโซนของ Town Home ขึ้นมาเป็นตัวบ้านแฝดบ้านเดี่ยวเราก็จึงไปอยู่ตรงนั้นนะคะส่วนเอ่อตะวันออกนะคะก็มี EEC ซึ่งโปรเจคนี้เราปิดไปแล้วแล้วก็พักไว้แป๊บนึงก่อนนะคะเนื่องจากสถานการณ์ต่างๆเนี่ยเดี๋ยวต้องดูกันนิดนึง ค่ะก็เลยเป็นภาพนะคะของ 4 ทิศที่เป็นคีย์สำคัญๆ นะคะ ทีนี้อยากให้เล่าให้ฟังให้หน่อยเพราะว่านี่ถือว่าเป็น 5 ปีในล็อตที่ 2 ของเรานะคะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างคะ

สำหรับใน 5 ปีปัจจุบันนี้นะคะก็เราตั้งเป้าหมายสำคัญๆ ไว้ประมาณ 5 อย่างนะคะก็จะมีเรื่องการเข้า SET นะคะการเอ่อทำโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแรงรายได้แล้วก็การปันผลต่างๆนะฮะแล้วก็เอ่อสิ่งที่เราได้ทำสำเร็จไปแล้วก็คือการเข้า SET นะคะก็ช้าไปซัก 1 ปีนะคะจริงๆตั้งใจปี 66 แต่ว่าก็ช้านะคะเนื่องจากเอ่อก็คงทราบสถานการณ์ของเอ่อธุรกิจบ้านจัดสรรที่สำคัญในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็คือ Rejection Rate นะคะการไม่เอ่อสถาบันการเงินเนี่ยมีความสติ๊กในการปล่อยกู้นะคะ ก็ทำช้าไปนิดนึง แต่เราก็ยังยืนแผนนะคะส่วนโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแรงเนี่ยเราก็มองกันว่าเราจะเริ่มปรับกันนะคะเนื่องจากตอนที่ในช่วง 5 ปีแรกเนี่ย 61-65 เนี่ยเรามุ่งในเรื่องของการเติบโตเช่นในเรื่องของการเข้าในตลาดหลักทรัพย์ การระดมทุนรวมถึงการออกหุ้นกู้ต่างๆก็เพื่อที่จะสร้างเอ่อฐานหรือว่าสร้างตัวโปรเจคเนี่ยให้ครบครบถ้วนนะคะซึ่งตรงนั้นเนี่ยเราทำเสร็จไป นั้นการ Aggressive ในเรื่องของการเปิดโครงการในตอนหลังนี่เสร็จไปหมดแล้ว แต่ของเราเนี่ยเนื่องจากเราทำอย่างที่เล่าให้น้องเมย์ฟังตอนแรกว่า เอ่อเราเน้นในเรื่องของการสร้าง Town Ship คือเมืองแต่ละที่เราอยู่ได้ประมาณ 10 กว่าปีเลย เพราะฉะนั้นเนี่ยเมื่อซื้อจบแล้วเนี่ยที่เหลือเราก็มาทำเรื่องทางการเงินต่อซึ่งตรงเนี้ยเราก็จะเริ่มเห็นนะคะว่าเราก็จะค่อยๆทยอยคืนหุ้นกู้ลดปริมาณการเงินที่เกี่ยวกับหนี้ลงอะไรแบบนี้ค่ะแล้วก็ทำไป ส่วนที่เหลือน่ะค่ะในเรื่องของการปันผลก็ต้องพยายามนิดนึงในช่วงนี้นะคะ แต่เราก็จะทำเต็มที่แล้วก็ในเรื่องรายได้ก็ถ้าพูดถึงงานขายทำได้ ได้ดีเลยนะคะแต่ว่ารายได้ยัง ยังยังตัดไม่ได้แต่ก็ยังมีเวลา 68 69 70 คุณ อะไรก็ยังสู้ อยู่นะคะ ก็ยังยืนที่จะทำรายได้เฉลี่ย 5 ปีให้ได้ค่ะ

ยังไงแล้วนะคะในในภาพที่เกิดขึ้นนะคะเรายังคงที่จะผ่านพ้นและในช่วง Aggressive ของเรานะคะเราใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเข้ามาช่วยทำให้ฐานการของเราเนี่ยมันแข็งแกร่งที่หลังจากนี้เป็นการเก็บดอกผลของเรานั่นเองค่ะ มาต่อกันเลยค่ะอยากจะให้ดูการส่วนของการอัปเดตโครงการปัจจุบันกันหน่อยนะคะ

ในปัจจุบันนี้นะคะเราเปิดอยู่ 8 โครงการด้วยกันนะคะโดยที่ 6 โครงการเนี่ยอยู่ที่บางบัวทองนะคะแล้วก็มีที่พระราม 2 1 โครงการ แล้วก็รังสิต 1 โครงการนะคะ ซึ่งเป็น Flagship ใหม่แล้วก็เป็นเอ่อโครงการที่เอ่อต้องถือว่าประสบความสำเร็จนะคะ ในด้านยอดขายแล้วก็กำไรเป็นตัวช่วยที่ดีในสถานการณ์ปัจจุบันของการเอ่อทำธุรกิจของเราไปเลยนะคะ ซึ่งทั้งหมดนี้ Total Project Value เนี่ยก็อยู่ที่ประมาณ 14,000 ล้านใน Padline นะคะซึ่งทั้งหมดก็มีเอ่อบ้านพร้อมอยู่ประมาณ 1,000 กว่าล้านที่ตอนเนี้ยเราทำกำลังจะจบในเดือนมิถุนายนแล้วนะคะก็จะทำให้บริษัทเนี่ยมีความพร้อมอยู่พร้อมขายแล้วก็ไปต่อ ไปสู่การเอ่อทำรายได้ทำกำไรอย่างที่ตามแผนที่ได้ตั้งใจไว้

เพราะฉะนั้นถ้าเราจะให้เจาะลึกกันเกี่ยวกับเรื่องของแนวคิดในการพัฒนาโครงการบริษัทของเราเนี่ยค่ะ ที่ได้บอกออกไปนะคะว่าเราจะมีการสร้าง Township Development ที่เราจะกินระยะเวลานะคะในการ Aggressive ด้วยแล้วก็เก็บเกี่ยวผมของเราด้วยอยากให้เจาะลึกตรงนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ

หมายถึงการซื้อที่ดินขนาดใหญ่อย่างนี้ใช่ไหมคะ ก็เล่าให้ฟังอย่างภาพนี้ นะคะ ก็ เอ่อจะเห็นได้ว่าอาจจะ คืออาจจะเป็นความถนัดนะคะ บางบริษัทก็ ซื้อแล้วก็ทำไปเรื่อยๆ ในหลักทำเล ใช่ไหม คะแต่คุณอะไรเนี่ยเราจะเน้นอยู่ใน 1 ทำเลแล้วก็มองตรงนั้นให้อยู่ได้ซัก 10 กว่าปี แล้วก็จะเน้นแบบนี้นะคะทีนี้ในภาพที่ให้เห็นเนี่ยค่ะก็เป็นตัวอย่างของที่ดินในบางบัวทองที่เรามี ในปัจจุบันก็ประมาณเกือบ 2,000 กว่าหลังคาเรือนนะฮะก็จะเห็นว่าเอ่อลักษณะของที่ดินเนี่ยที่ดินขนาดใหญ่เนี่ยมีประโยชน์นะคะ ก็คือว่าเราซื้อวันนี้ก็เหมือนกับต้น ทุนเนี่ยถูกล็อคในระยะยาวซึ่งทำให้ใน 10 ปีข้างหน้าเนี่ยบริเวณตรงนั้นเราก็ไม่ ไม่ต้องไปหาซื้อที่ดินอีกไม่ ไม่ต้องมีความเสี่ยง ในขณะเดียวกันที่ดินขนาดใหญ่เนี่ยเรายังสามารถที่จะในอนาคตก็สามารถที่จะต่อสู้กับคู่แข่งที่เป็นรายใหม่ได้ก็สร้าง Barrier of New Entry ได้ในเชิง Marketing แล้วก็ถ้าดีเราสามารถที่เพิ่ม Segment ได้ เราแล้วก็คุณ อะไรเนี่ยเก่งในเรื่องของการสร้างแฟนคลับหรือว่าฐานลูกค้าเก่าเก่งในเรื่องความการดูแล อย่างสำคัญเลยก็คือ Friend Get Friend นั้นก็คือถ้าเราอยู่ ที่ใดที่หนึ่งเนี่ยโดยธรรมชาติของคนไทยเนี่ยก็จะไปอยู่กับเพื่อนอยู่กับญาติอยู่กับอะไร อย่างนี้นะคะก็ เอ่อก็เค้าก็จะแนะนำบอกต่อถ้าเราทำสินค้าได้ดี นั้นเนี่ยอย่างที่บางบัวทองเนี่ยหรือว่าในปัจจุบันนี้นะคะยอดลูกค้าแนะนำของเราเนี่ยอยู่ที่ 30% นี่เป็น Success Rate ซึ่งสำหรับก็ถือว่าภูมิใจแล้วก็ยังเป็นเป้า Challenge เช่นในปีนี้เราอยากจะทำซัก 35-40% ที่เป็นลูก ค้าแนะนำ ในขณะที่เราอาจจะเห็นในเรื่องของรายได้แล้วกำไรในกราฟด้านล่างซ้ายนะคะก็ จะเห็นว่าเฉพาะบางบัวทองเนี่ยเราจะเห็นเลยค่ะว่าใน 10 ปีที่ผ่านมาเนี่ยก็จะ Gross อันนี้ก็จะเป็นโมเดล Business ที่เราจะใช้ในการทำต่อไป ส่วนข้างบนก็จะเป็นถังโครงการก็จะเห็นว่ามีการ Sale Out ไปเรื่อยๆแล้วก็จะ Study ไปทำความเข้าใจลูกค้าไปเป็น Customer Centric แล้วก็จะเลือกสินค้าเนี่ยมาวางใหม่ๆเพิ่มเติมขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยความ Success หรือว่าการเอ่อประสบความสำเร็จในการที่จะขายในอนาคตเนี่ยมันก็จะค่อนข้าง Promising ค่ะเพราะฉะนั้นเวลาที่เราทำ Town Ship เนี่ยปัญหาที่เราจะแก้ในในการทำธุรกิจมันจะน้อยลง มันก็อาจจะเป็นแก้เช่นปัจจุบันอย่างเงี้ย ขายดีค่ะแต่ก็มาแก้ในเรื่องของ Rejection Rateเอา มันก็จะไม่ต้องว่า เอ้ยเราขายดีแล้วไปอยู่ที่ไหนดีหรือพนักงานจะตามไปอยู่กันยังไงหรืออะไร ค่ะก็มองใน Lifestyle แบบนั้นกันด้วย เหมือนที่ เองมองกลยุทธ์ในเวอร์ชั่นแบบ Long Term ระยะยาวกันด้วยตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการซื้อที่ดินเอาไว้เลยนะคะเพื่อจะให้ที่นอนนั้นเนี่ยมันสามารถล็อคกำไรล็อคต้นทุนตั้งแต่ตรงนั้นเลย

ใช่ค่ะแล้วก็แบบเหมือนอาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ที่มาเนี่ยนะคะเรามองเห็นว่าถ้าเราอยู่ในที่ใดที่หนึ่งในระยะเวลาหนึ่งพอสมควรเนี่ยมันมีทางที่เราจะสู้ปัญหาได้ ได้ดีค่ะดีกว่าที่การที่เราจะเทคความเสี่ยงมากตลอดเวลาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราหรือว่าคุณอะไรค่ะ

ก็อยากจะให้ลงลึกกันเลยนะคะเพราะว่าก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการใหม่นะคะที่เราเองได้มีการปรับแบรนด์ของเรานะคะไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของทำเลเอยนะคะหรือว่าจะเป็นในส่วนของราคาที่เราอัปขึ้นมาด้วยนะคะ เอาเริ่มกันที่จุดนี้กันก่อนเลยที่พระราม 2 ค่ะ นวราค่ะ

พระราม 2 เนี่ยเราเริ่มเอ่อทำโครงการในช่วงปี 2565 นะคะแล้วก็ทำมาจนถึงปัจจุบันเป็นโครงการขนาดใหญ่นะคะ ในปัจจุบันก็มียอดโอนไปประมาณซัก 60 กว่าแล้ว ก็คือโอนในปี 2567 2566 แล้วก็ต้นปีที่ผ่านมา ที่นี่เนี่ยก็ เอ่อน่ารักค่ะน้องเมย์แล้วก็อยู่ในเอ่อคุณอะไรเวลาเราไปเราก็จะจะจะหาความนิดนึงนะคะว่าเอ๊ะทำไมถึงต้องไปอยู่ตรงนั้นก็ เอ่อบางขุนเทียนชายทะเลเนี่ยเป็นเส้นถนนที่มีความน่าสนใจนะคะเนื่องจากมีอากาศที่ดี ซึ่งอย่างที่เรียนไปว่าปัจจุบันก็ก้ำกึ่งจะกลายเป็น Wellness Hub ละนะคะเนื่องจากว่ามีโรงพยาบาลขนาดใหญ่เป็นการลงทุนในเชิงสุขภาพในบริเวณตรงนั้นเนี่ยเป็นจำนวนมากเราก็อยู่ในระยะไม่ถึงประมาณ 500 เมตร รอบโครงการเรานะคะก็จะเป็นการตอกย้ำว่าเอออากาศตรงนั้นดี จริงๆ นะคะแล้วก็เราทำค่าสถิติออกมาเนี่ยในช่วงที่มีฝุ่นในกรุงเทพฯเนี่ยที่นั่นเนี่ยต่ำกว่าเป็นแบบว่าอาจจะ 40-50 ดีเจตหน่วยเลยนะคะต่อวันในในเรื่องของ PM 2.5 ในขณะที่บ้านที่นั้นเนี่ยนะคะก็เอ่อเนื่องจาก เอ่อเราเป็นบ้านเดี่ยวนะคะขนาดประมาณซัก 5-10 กว่าล้านนะคะสูงสุดที่เราขายไป 14 ล้านเนี่ย ก็ เป็นโครงการที่ทำ Margin ได้ดีจริงๆ เราประมาณซัก 30 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ค่ะด้วยค่ะ ก็ถือว่าได้รับการยอมรับที่ดีมากเลยแล้วก็มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายด้วยค่ะ อื ค่ะก็ถือว่าได้ฐานของการเป็นศูนย์ Wellness แล้วนะคะปอกของกรุงเทพฯในรอบนี้มันก็ขยายฐานลูกค้าของคุณอะไรไปด้วยนะคะ มาต่อกันสำหรับที่รังสิตกันบ้างค่ะของ นวราค่ะ รังสิตก็เป็นอีกโครง การหนึ่งที่มีเสน่ห์ที่มาก มากเลยนะคะพี่โปรเจ็กต์นี้ประมาณ 1,000 กว่าหลังคาเรือนนะฮะแล้วก็มีผู้อยู่อาศัยแล้วประมาณ 200 กว่า ตอนนี้เราก็เปิดโครงการเรียบร้อยแล้วนะคะก็ใช้เวลา Develop มาประมาณซักปี 2566 เริ่มโอนเมื่อปีที่ 2567 ที่ผ่านมานะคะ แล้วก็ตอนนี้เนี่ยก็พยายามเร่งสร้างให้เป็นบ้านพร้อมอยู่สำหรับนะคะก็ใช้เวลานิดนึงซึ่งตอนนี้เราว่างานมันก็จะค่อยๆทยอยทันกันนะคะ ก็ยังสำหรับฝ่ายบริหารเองก็นับว่าโชคดีที่เราได้ตัดสินใจนี้ถือว่าตัดสินใจถูกต้องอีกมากเลยนะคะก็ไปอยู่แล้วก็เป็นตัวช่วยในเรื่องของ Margin ในปัจจุบัน รังสิตเนี่ยมีเสน่ห์ที่สำคัญแล้วก็หายากมากในปัจจุบันก็คือต้นไม้ มีต้น จามจุรี ป่าเลยนะคะหลายร้อยต้นอยู่ในนั้น ต้นไม้ใหญ่สวยมากนะคะแล้วก็เอ่อเป็นเอ่อทำให้บริเวณนั้นเนี่ย นอกจากอากาศดีก็มีอุณหภูมิที่ลดลงนะ แล้วก็เป็นบ้านเดี่ยวไซซิ่งประมาณ 65 ตร.วา ขึ้นไปทั้งหมดไปจนถึงระดับประมาณ 200 ตร.วา ซึ่งในอนาคตเนี่ย คุณ อะไรเนี่ยปัจจุบันนี้เราทำอยู่ประมาณซัก 5 ล้าน-10 ล้าน ใช่ไหมคะ ในอนาคตเนี่ยที่เนี่ยก็สามารถที่จะทำต่อยอดไปถึงระดับ 20 ล้านบาท ได้ซึ่งก็เป็นสาเหตุว่าทำไมเราถึงเลือกโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ที่ segment อย่างงี้ค่ะ จะเป็นเป็นตัวตอบไว้ค่ะที่นี่ก็อยู่ได้ซัก 10 ปีปีละซัก 7-8 อืม ประมาณนี้ค่ะก็ถือว่าเป็นการทยอยนะคะทยอยที่จะส่งมอบนะคะแล้วก็มาเต็มตัวบุ๊คให้กับฐานทางการเงินของเราด้วยนะคะ มากันที่เรื่องของ Financial กันบ้างค่ะพี่โจขาอัปเดตกันหน่อยนะคะสำหรับตัวของ Financial Statement ของเราค่ะ

ก็ เอ่อเรื่องแรกนะครับที่อยากให้นักลงทุนดูนะครับว่าว่าโครงการของเราทั้งหมดเนี่ยที่เราที่คุณ ปรวีรัตน์เรียนไว้เนี่ยก็มีทั้งหมด 8 โครงการนะครับมูลค่ารวมเนี่ยอยู่ที่ประมาณ 14,000 ล้านนะครับ ปัจจุบันนี้เนี่ยโครงการทั้ง 8 โครงการเนี่ยเราโอนไปแล้วเนี่ยประมาณ 2,760 ล้านนะคะแล้วก็ยังมีมูลค่าโครงการคงเหลือเนี่ยอยู่ประมาณซัก 12,000 ล้านนะครับ ใน 12,000 ล้าน เองเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยก็คือใน Quater ที่ 1 เนี่ยเรามียอด Blacklog เนี่ยที่รอโอนสำหรับไตรมาสที่ 2 เนี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 172 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้เองเนี่ยยอด Blacklog ในช่วง Quater ที่ 1 เนี่ยปรับดีขึ้นนะครับจากยอด Blacklog ในช่วงสิ้นปีนะครับสิ้นปีเรามีอยู่ประมาณซัก 90 กว่าล้านนะครับ ก็ถือว่าในช่วง Q1 เนี่ยมีลูกค้าที่ยังมีความต้องการบ้านยังอยู่ในระดับที่ดีนะครับก็คือเข้ามาเยี่ยมชมโครงการแล้วก็เข้ามาจองซื้อในโครงการของของกลุ่มบริษัทเนี่ยแล้วก็สามารถทำ Blacklog ได้เพิ่มขึ้นนะครับโดยกลุ่มนี้เองเนี่ยก็คาดว่าเนี่ยน่าจะทยอยโอนในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไปนะครับก็ 170 กว่าล้านตรงนี้นะครับ ถัดไปครับผม

ถัดไปนะครับก็จะเป็นภาพรวมของตัว Quarter ที่ 1 นะครับในในใน Quarter ที่ 1 ที่ผ่านมานะครับ ตัว Pre Sale ของตัวบริษัทนะครับ อ่าจะเป็นกราฟแท่งด้านซ้ายมือนะครับ ตัว Pre Sale ของบริษัทนะครับในปี 2025 อันนี้เป็นตัวแท่งขวานะครับ แท่ง แท่ง ซ้าย จะเป็น 2024 นะ ครับ อ่าแท่ง แท่ง ขวา นี่ครับก็คือเราทำ Pre Sale ได้ 274 ล้านนะครับ ก็ ก็ต้องยอมรับว่า Pre Sale ใน Quarter ที่ 1 ปีนี้เนี่ยต่ำกว่าปีที่แล้วนะครับ ปีที่แล้วเราทำได้ 327 ล้านนะครับก็ลดลงอยู่ประมาณซัก 16% นะครับ แต่ว่า Pre Sale ของ Quarter ที่ 1 เนี่ยเมื่อเทียบกับ Pre Sale ของ Quarter ที่ 4 เองเนี่ยเราขยับตัวเพิ่มขึ้นนะครับ ใน Quarter ที่ 4 เนี่ยเราทำได้อยู่ประมาณซัก 220 ล้าน แสดงว่าใน Quarter ที่ 4 เนี่ย Sediment เนี่ยลูกค้าเนี่ยก็อาจจะดรอปลงไปบ้างแล้วก็มีเข้าช่วง celebrate แต่ว่า พอ Quarter ที่ 1 เนี่ยลูกค้าก็กลับมาแล้วก็สามารถทำยอดขายได้ดีขึ้นนะครับ ก็ถือว่าเติบโตเทียบกับ Quarter ที่ 4 เนี่ยปีที่แล้วเนี่ยก็ประมาณซัก 20% นะครับ

สำหรับตัวกราฟถัดไปนะครับก็คือจะแสดงให้เห็นว่าเอ่อตัว Pre Sale ของเราเนี่ยที่ที่เกิดขึ้นใน Quarter ที่ 1 ที่ผ่านมาเนี่ยส่วนใหญ่เป็นโครงการอะไรบ้างนะครับ อย่างที่ คุณ ประวีรัตน์เรียนไปครับว่าในสีเขียวเนี่ยจะเห็นว่ามีเปอร์เซ็นต์ที่สูงที่สุดก็คือโครงการที่ นวรา พระราม 2 ซึ่งจะถือว่าเป็นเรือธงของเราในปี ปีนี้นะครับ ก็โครงการนี้ก็คือได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องนะครับ โดยอันเนี้ยจะเป็นช่วงช่วงประมาณเดือน เดือน 1 ถึงเดือน 3 นะ ครับ แล้วก็หลังมีเหตุการณ์เรื่องแผ่นดินไหวเนี่ยในเดือนที่ 4 เองเนี่ยก็มี มี มีผลตอบรับที่ดีนะครับเพราะว่าโครงการนี้ บังเอิญว่าอยู่ตรงพระราม 2 เองเนี่ยก็ ก็การคมนาคมเนี่ยก็อาจจะไม่ได้ลำบากมากนักถ้าถ้าสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆแล้วเสร็จนะครับ ลูกค้าที่เคยอยู่ อาคารสูงในช่วงประสบเอ่อประสบเรื่องของตัวแผ่นดินไหวเนี่ยก็เริ่มหาบ้านนะครับโดยโซนพระราม 3 เองเนี่ยก็มีมาหาบ้านในโครง ใน โครงการของเราในโซนพระราม 2 ซึ่ง ซึ่งเป็นการเดินทางที่ไม่ได้ไกลจากเดิมมากนักนะครับ อันนี้ก็คือเป็น เป็น เป็น เป็นเหมือน เป็นโอกาสที่ดีของเราในช่วง ในช่วงที่ผ่านมานะครับ ถัดไปเองเนี่ยก็จะ เป็นโครงการที่เราขายได้ดีนะครับใน ใน ในโครงการถัดไปก็คือโครงการเอ่อคุณ อะไร เดซี่นะครับ กราฟสีออกชมพูชมพูนะครับก็โครงการนี้ก็จะอยู่โซนบางบัวทองนะครับก็จะเป็นบ้านระดับราคาประมาณซัก 3 ล้าน-5 ล้านนะครับ ก็จะเห็นได้ว่าจริงๆแล้วเนี่ยกลุ่มลูกค้าที่เป็น Real Demand ของเราเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยยังมีความต้องการบ้านอยู่นะครับ ใน โดย โดยทุกระดับราคา โดย แล้วก็ Segment Segment ระดับ 3 ล้าน-5 ล้าน เนี่ยจริงๆแล้วลูกค้าเนี่ยก็อยากจะได้บ้านนะครับแล้วจังหวะนี้ก็อาจจะเป็นจังหวะที่ ที่ลูกค้าเนี่ยเข้ามาซื้อบ้านได้นะครับนะครับแล้วก็ลำดับถัดไปก็จะเรียงเดงลงไปนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ Quarter ที่ 1 ที่เห็นอยู่นะครับว่าที่เราเจอเนี่ยก็คือเรื่องของการปฏิเสธสินเชื่อ นะครับ ใน Quarter ที่ 1 เนี่ยเรามีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อเนี่ยสูงขึ้นไปทันทีนะครับถึงประมาณ 53% นะฮะ แต่ว่าใน 53% เนี่ยถ้าเราแยก แยก แยก แยก Segment ออกมาเนี่ยจะเห็นว่ากลุ่มระดับลูกค้าเนี่ยเอ่อต่ำกว่า ต่ำกว่า 5 ล้านลงเนี่ยจะเจอ เจอ การปฏิเสธสินเชื่อเนี่ยสูงถึง 76% แต่ว่ากลุ่มระดับระดับ 5 ล้านขึ้นเนี่ยเราจะเจอการปฏิท ปฏิเสธสินเชื่อใน Quarter ที่ 1 เนี่ย อยู่ประมาณซัก 37% ซึ่งถือว่าต่ำกว่ากันมากนะครับก็นี้ก็จะเป็นที่มาว่าตอนนี้บริษัทเราเองเนี่ยมุ่งเน้นในโครงการที่ระดับราคา 5 ล้านขึ้นไปก็จะอยู่ในทำเลที่พระราม 2 และรังสิตนะครับก็จะเป็นสัดส่วนการรับรู้รายได้ที่เราเราเราเล็งไว้เนี่ยก็อยู่ประมาณซัก 60% ถ้าเทียบกับโซนบางบัวทองที่เราตั้งรออยู่ที่ 40% เพราะว่าด้วย ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันกลุ่มลูกค้า 5 ล้านเนี่ยยังมีศักยภาพในเรื่องของการขอสินเชื่อที่ดีอยู่นะครับอันนี้ก็ ก็ต้องเรียนเรียนท่านนักลงทุนว่าเราเองเราก็เริ่มขยับ Segment นะครับให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ ช่วงปัจจุบันนี้ด้วยนะครับ

แล้ว Timeline มันเป๊ะพอดีด้วยนะคะพี่โจในตอนนี้ ใช่ครับก็เป็น Timeline ที่เราเสร็จพอดีก็อย่างที่ คุณ ปรวีรัตน์เรียนไปว่าเราพยายามเร่งบ้านให้แล้วเสร็จแล้วก็เป็นบ้านพร้อมขายดังนั้นเวลาลูกค้ามาดูเนี่ยก็จะ ได้บุ๊คบ้านแล้วก็สามารถทำเรื่องยื่นกู้สิน ยื่นกู้กับธนาคารได้เลยครับผม มาต่อกันเลยนะคะค่ะ

อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของตัวเอ่องบกระแสเอ่องบแสดงฐานะทางการเงินนะครับก็ ก็จะเห็นว่าสินทรัพย์รวมของบริษัทนะครับก็เติบโตขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อสิ้นปีนะครับก็อยู่ที่ 2,907 ล้านนะครับเติบโตขึ้นเล็กน้อยแล้วก็ทางด้านหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้นเองเนี่ยก็สัดส่วนของหนี้สินเองเนี่ยก็ขยับขึ้นเล็กน้อยนะครับก็เมื่อเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเรามีการออกหุ้นกู้แปลงสภาพนะครับก็มียอดๆ ที่ขายได้เสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพได้เนี่ยที่ 69 ล้านก็ จะเห็นว่าจริงๆแล้วเนี่ยหนี้สินเนี่ยมันก็ขยับขึ้นนะครับแต่ว่าก็ขยับขึ้นไม่ถึง 69 ล้าน ดังนั้นในภาพรวมของหนี้สินเองใน Quarter ที่ 1 เนี่ยในภาพรวมของเขาเองเนี่ยขยับหนี้สินเราจริงๆถ้าหากหุ้นกู้แปลงสภาพไปแล้วเนี่ยมันถือว่าลดลงนะครับ สำหรับตัวส่วน ของผู้ถือหุ้นครับส่วนผู้ถือหุ้นเนี่ยเราก็ขยับลดลงนะครับก็อยู่ที่ 849 ล้านนะครับ นี้ก็ ก็เป็นผลต่อเนื่องกับเดี๋ยวสไลด์ถัดไปก็จะเห็นนะครับ

ค่ะนี่เลยค่ะไฮไลท์ของเราค่ะ ก็ต้องเรียนนักลงทุนว่าใน Quarter ที่ 1 นะ ครับ ผลประกอบการของเราเนี่ยไม่ได้เป็นไปตามที่คาดนะครับถึงแม้ว่าเราจะมี Pre Sale ที่ดีขึ้นนะครับมี Backlog ที่ดีขึ้นนะครับแต่เรื่องต่างๆเนี่ยก็ก็ยังไม่สามารถเอ่อเอามาสามารถเป็นรับรู้รายได้ได้ทันทีใน Quarter ที่ 1 นะครับ โดยยอด ยอดรับรู้รายได้ใน Quarter ที่ 1 เนี่ยเราลดลงนะครับเหลืออยู่ที่ 80.85 ล้านบาท นะครับถ้าเทียบกับ Quarter ที่ 1 ปีที่แล้วเนี่ยเราอยู่ที่ 150 ล้านบาท นะ ครับ ตอนนี้ก็เลยค่อนข้างลดลงค่อนข้างอยู่ประมาณซัก 46% นะครับ แล้วก็ถัดไปนะครับเป็นเรื่องของการ เอ่อเรื่องของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารนะครับโดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเนี่ยก็จะเห็นว่าเราขยับตัวเพิ่มขึ้นนะครับ แต่สาเหตุจริงๆแล้วเนี่ยของการขยับตัวเพิ่มขึ้นใน Quarter ที่ 1 เองเนี่ยก็ต้องยอมรับว่า 1 เป็นเพราะยอดขายที่ลดลงนะครับก็เหลืออยู่ 80 ล้านนะครับ แต่ว่าอีกสาเหตุหนึ่งเนี่ยก็คือว่าใน Quarter ที่ 1 ที่ผ่านมาเนี่ยเรามีการเอ่อปรับปรุงทางด้านบัญชีในเรื่องของการการปรับปรุงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการโอนให้แก่นิติบุคคลนะครับ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเข้ามาเนี่ยอยู่ประมาณซัก 3 ล้านบาท นะ ครับ ซึ่งค่าใช้จ่ายตัวนี้เองเนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยถ้าหักลบกับค่าใช้จ่ายรวมของค่าใช้จ่ายบริหารและขายเนี่ย จะเทียบกับ Quarter ที่ 1 เนี่ยถือว่าภาพรวมของเขาเนี่ยลดลงนะคะ เพราะว่าใน Quarter ที่ 1 เองเนี่ยในปีที่แล้วเนี่ยเรามีค่าใช้จ่ายขายและบริหารเนี่ยประมาณ 28 ล้านบาท นะครับส่วน Quarter 1 ปีเนี้ยเราอยู่ 27 ล้านแต่ถ้าหาก 3 ล้านตรงนี้ไปเนี่ยค่าใช้จ่ายขายและบริหารเนี่ยเราอยู่ประมาณซัก 24 ล้านเท่านั้นเอง ก็ถือว่าเราเองเราสามารถ Control ค่าใช้จ่ายตัวนี้ได้แต่ว่าเพียงแต่ว่าเรามีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวที่เกิดขึ้นใน Quarter นี้โผล่เข้ามาประมาณ 3 ล้านที่ อย่าง อย่าง อย่างที่ว่ามันก็เลยทำให้เป็นผลว่าค่าใช้จ่ายของขายและบริหารเนี่ยสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ก็จะสูงขึ้นนะครับ ซึ่ง ซึ่งอันนี้ก็ผลเสริมของคุณโจ นะคะปี นี้นะคะเราปิดโปรเจ็กต์เก่าไปได้ 2 โปรเจ็กต์ด้วยกันคือการส่งมอบผล ได้สำเร็จ นะคะก็โดยเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ด้วยนะคะ ขนาด 60 กว่าไร่แล้วก็อีก 30 กว่าไร่ ซึ่งทั้ง 2 ที่เนี้ยก็จะทำให้ในส่วนของงบเนี่ยก็ลดค่าใช้จ่ายลงได้ อย่างมาก เลย ค่ะแต่ว่าถึงเวลาเราก็ต้องส่งมอบซึ่งก็จะเกิดขึ้นประมาณปีละ ครั้งนึงอย่างเงี้ยค่ะ ก็จะให้นักลงทุนได้เข้าใจตรงกับมันจะเกิดแค่ ปีละ 1 ครั้ง ปีละ 1 ครั้งก็เกิดขึ้น บางโปรเจกอาจจะใช้เวลาถึง 2 ปีในการปิด ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะมี ในการส่งมอบก็มีขั้นตอนมีเงินต่างๆที่จะต้องไปจัดการในการซ่อมบำรุง อะไรก็ตามเนี่ยซึ่งตรงเนี้ยฐานที่สำคัญเราดูแลลูกค้าดีส่งมอบได้ดีมันก็จะเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญที่จะไปต่อเนื่องยอดขายด้วยเพราะฉะนั้นเนี่ยถึงเวลาเราก็เปิด คุณ อะไรเนี่ยก็อย่างที่เห็นเนี่ยก็จะปิดปิดทุกโปรเจ็กต์ถึงมันจะปิดทั้งหมด ค่ะโดยภาพของบริษัทเองเนี่ยก็พยายามสมมอบนิติให้แล้วเสร็จนะครับเ พราะเราโครงการโอนขายได้ทั้งหมดเพราะว่ามันจะไม่ได้เป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทในระยะยาวนั้นการส่งมอบนิติบุคคลแล้วก็ทำให้ลูกค้าพึงพอใจในเรื่องของการรับมอบนิติบุคคลเนี่ยเป็นส่วนสำคัญที่เราให้ความสำคัญด้วย นะครับ ถัดไปนะครับก็เป็นเรื่องของกำไรนะครับก็จากภาพรวมว่ารายได้เราลดลงนะครับใน Quarter ที่ 1 เราก็ยังมีค่าใช้จ่ายบริหารที่เกิดขึ้นเป็น เป็นเรื่องของเฉพาะเฉพาะขึ้นมาเนี่ยก็ทำให้กำไรของ Quarter ที่ 1 เนี่ยลดลงนะครับลดลงไปก็คือขาดทุนเนี่ยขาดทุน 8 ล้านนะครับซึ่งอันนี้เองเนี่ยก็ ก็ต้องเรียนนักลงทุนว่าตัวนี้เองเนี่ยก็เรามองถึง Quarter ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 เนี่ยก็มองว่าเราเองเราสามารถพลิกกลับมาได้นะครับเพราะว่าเราก็มองว่าจะสภาพของตัว Pre Sale ที่ยังดีอยู่แล้วก็ Backlog ที่เรามีเพิ่มขึ้นนะครับรวมถึงโครงการที่ที่เราเปิดขายแล้วก็มุ่งเน้นไปเนี่ยก็คือเป็นบ้านระดับ 5 ล้าน อัปเนี่ยมามีศักยภาพในการขอสินเชื่อที่ดีกว่าเนี่ย เราก็คิดว่ากลุ่มเนี้ยก็สามารถพลิกกลับมาได้ใน ในช่วงที่เหลือของปีครับ ก็ถือว่าเป็นความมั่นใจนะคะจากทาง อ่า ทาง CMO นะคะว่าในมุมของเราในตอนนี้โอเคละเรารับทราบเรียบร้อยแล้วในช่วงของ Q1 นะคะ แต่ว่าในช่วง Q อื่นๆ เนี่ยมันจะมีบุ๊คที่ อ่ารอนะคะในการที่ทำให้พลิกกลับมามีกำไรนั่นเองนะคะ พี่รัตน์เสริมต่อได้เลยค่ะ อ๋อ ค่ะก็จะเสริมทางของคุณโจ นิดนึงในในเรื่องของ อ่า ใน งบของที่ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เอ่อหลายๆส่วนเนี้ยในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเอ่อแม้ว่า Pre Sale เราจะดี ซึ่งเอ่อก็เป็นตัวเลขที่ดีมาตลอด แล้วก็จะเห็นว่าน้อยลงเมื่อกี้ก็จะมีกราฟให้เห็นเนี่ยในปัจจุบันนี้นะคะในการขายเนี่ยเราจะแบ่ง Product เนี่ยออกเป็น 2 2 2 ราคาด้วยกัน 2 ระดับราคา ก็คือต่ำ 5 ล้าน แล้วก็ 5 ล้าน ขึ้นไป สำหรับต่ำ 5 ล้านแน่นอนนะคะก็ Impact ในเรื่องของการปฏิเสธสินเชื่อเนี่ยสูงมากสูงมากเลย นะคะแล้วก็พอ 5 ล้านขึ้นไปแล้วเนี่ยกลุ่มนี้เขาก็จะน้อย อือ งั้นในยอด Pre Sale ที่เราเห็นเนี่ยนะคะก็จะยังไม่ ไม่ได้รวมถึงยอดที่เราเนี่ยปฏิเสธไม่รับจองด้วย นะคะในปัจจุบันเนี้ยการปฏิเสธสินเชื่อเนี่ย requirement ต่างๆหรือว่าสิ่งที่ทำแบงค์ต้องการเพื่อที่จะให้กู้ให้สำเร็จเนี่ยต้องยอมรับว่ายากขึ้นนะคะ บริษัทเองเนี่ยก็ทำงานร่วมกันกับแบงค์พันธมิตรซึ่งเรามีครบทุกแบงค์แล้วนะคะแล้วก็ทำความเข้าใจในแต่ละแบงค์แล้วเนี่ยเวลาที่ลูกค้าเข้ามาหาเราเนี่ยเอ่อก็ไม่ได้รับจอง ซะทั้งหมด อื้อ ขนาดนั้นเนี่ยเรายังเห็นว่ายอดรีเจคเนี่ยยังสูงขนาดนี้ อื้อ ก็ ก็ต้องถือว่ารีเจคเนี่ยเป็นปัญหาที่สำคัญซึ่งเป็นปัญหาเดียวแล้ว คะในเชิงธุรกิจที่เราแทบจะแก้ไม่ได้เลย นอกจากนั้นการทำงานเนี่ย เอ่อทีมทั้งทุกอย่างเนี่ยนะคะเราคิดว่าเขาได้ทำเต็มที่ ค่ะ ก็ถือว่าอันนี้ในพาร์ทของทางพี่โจนะคะมีอะไรจะเพิ่มเติมไหมคะในส่วนของตัวเลขทางการเงินของเราค่ะ ก็ยังมีเรื่องสัดส่วนหนี้สินของทุนนะครับ ก็อยากให้พูดให้นักลงทุนสบายใจว่าถ้าเทียบกับ Quarter ที่ 1 ปีที่แล้วเนี่ยเราอยู่ที่ 2.75 นะครับก็ถือว่าสูงมากนะครับ ปีนี้เองเนี่ยก็อยู่ที่ 2.42 นะครับ ก็ปีที่แล้วก็มีกำไรเพิ่มขึ้นบ้างแล้วก็แล้วก็ตัวการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงเข้ามานะครับ แล้วก็ เราก็คิดว่าตัวนี้เองเนี่ยเราก็คิดว่าจะพยายามไม่ให้มันสูงเกิน เกิน กว่าที่เราคิดมองไว้นะครับ เพราะว่า ก็เป็นสัดส่วนหนึ่งที่เราให้ความสำคัญเช่นเดียวกันนะครับ ก็เป็นแผน 5 ปี คือโครงสร้างทางการเงินก็จะเห็นว่า เอ่อ DA ของบริษัทเนี่ยทยอยลดลงไปอย่างต่อเนื่องแล้วก็จะค่อยๆเห็นไปเรื่อยๆ ค่ะ ตอนนี้ก็จะค่อยๆชัดขึ้นค่ะ ได้เลยค่ะ ในช่วงนี้นะคะมี Q&A จากทางผู้ถือหุ้นนะคะถาม เข้ามาอย่างต่อเนื่องเราเองก็ได้จัด Grouping มาเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะให้พี่รัตน์เนี่ยปิดท้ายเกี่ยวกับเรื่องของภาพอนาคตหรือแม้กระทั่งในตัวของโครงการที่เราจะเกิดขึ้นในปีนี้ขอไปที่พี่โจก่อนเลยนะคะว่ามีนักลงทุนนะคะที่เป็นแฟนเลยของคุณอะไรเนี่ยถามถึงนี่เลยค่ะผลตอบแทนจากเงินการลงทุนแล้วก็ต้นทุนเฉลี่ยของกิจการอย่างละกี่เปอร์เซ็นต์คะ

เอ่อในเรื่องของผลตอบแทนจากการลงทุนนะครับก็ถ้ามองถึงภาพปีที่แล้ว เองเนี่ยเราของบริษัทเองเนี่ยจะอยู่ประมาณซัก เอ่อต้องมองว่ามันก็ยังไม่ได้เยอะมากนะครับ เพราะว่าตัวทุนเองเนี่ยที่เรามีอยู่เนี่ยมันค่อนข้างจะอยู่สูงแล้วก็รายได้ปีที่แล้วก็ลดลงแล้วก็กำไรก็น้อยนะครับ จะอยู่ประมาณสัก 2% กว่าๆเท่านั้นเองนะครับ ส่วน ส่วนเรื่องของค่าเฉลี่ยของต้นทุนของบริษัทเองเนี่ยของกิจการเนี่ย ตอนนี้ก็ตั้งแต่เรื่องภาวะดอกเบี้ยที่ขยับขึ้นมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วถึงแม้ วันนี้ กนง.จะลดดอกเบี้ยแล้วเนี่ยแต่ แต่นักลงทุนเองหรือเราเองก็จะเข้าใจว่าสถาบันควรจะลดตามในระดับเดียวกันกับแต่จริงๆว่า 2 ครั้งที่ลดมาเนี่ยเราเองก็ได้รับการลดดอกเบี้ยไปเนี่ยอยู่เพียงแค่จุด 2 เท่านั้นเอง ถ้าเทียบกับกนง.ที่ลดจุด 5 นะครับก็ ก็ตรงนี้เองเนี่ยทำให้ ทำให้คอร์สตัว WACC ตัวต้นทุนเฉลี่ยของเราเนี่ยก็ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่นะครับก็อยู่ประมาณสัก 7 กว่าเปอร์เซ็นต์ 7% กว่านะครับ ซึ่ง ซึ่งอันนี้คือของปีที่แล้วนะครับแล้วก็แต่เราก็มองภาพว่าปีนี้เองเนี่ยเราก็คิดว่าตัวดอกเบี้ยอาจจะมีลงอีกแต่ว่าแนวโน้มของการลดดอกเบี้ยของสถาบันเนี่ยก็คิดว่าอาจจะไม่ได้ลด แรงเท่ากับ กนง. นะครับ ก็แล้วก็มองว่าลูกค้า เองเนี่ยก็หรือกลุ่ม ลูก กลุ่ม ของทางสถาบันเนี่ยก็มองว่าอาจจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอาจจะเรื่องของตัวอาจจะ โค้ด ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เพราะ บริษัท เองเนี่ยก็ ก็พยายามระมัดระวังนะครับในเรื่องของการเบิกใช้เงินต่างๆด้วยนะครับ

โอเคค่ะ เครื่องมือทางการเงินไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของการชำระคืนหุ้นกู้เอยมีแผนออกหุ้นกู้ในปีนี้อีกหรือเปล่ารวมไปถึงการเพิ่มทุนอยากให้มีการวางแผนเรื่องของ Product ทางการเงินที่จะมาช่วย Support เราตรงนี้ด้วยค่ะ ครับก็สำหรับปีนี้นะครับในเรื่องของเครื่องมือทางการเงินที่เรามีอยู่นะครับเราเองอย่างที่เรียนไปว่าใน Quarter ที่ 1 เรามีออกตัวหุ้นกู้แปลงสภาพไปนะครับ 1 ครั้งนะครับก็ได้เงินมาอยู่ที่ 69.5 ล้าน แล้วก็ในช่วง Quarter ที่ 2 เองเนี่ยก็เมื่อต้นเดือน ต้นเดือนนี้เองเนี่ยเราก็มีออกหุ้นกู้นะครับเอ่อมีออกหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันนะครับ อันนี้ก็ออกไปได้อยู่ที่ 148 ล้านนะครับซึ่ง 2 ตัวนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ ที่เราเนี่ยเอ่อกำหนดวัตถุประสงค์ในเรื่องของการนำมาชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนกรกฎาคมนี้นะครับ นักลงทุนเองจะเห็นว่ามันยังไม่ครบ 440 ล้านบาทนะครับเพียงแต่ว่าเราเองเนี่ยเราเองได้รับเงินกู้จากสถาบันนะครับก็ตอนนี้ได้รับเงินกู้จากสถาบันเนี่ยก็คือส่วนต่างแล้วก็อาจจะมากกว่าตรงนั้นนะครับเพื่อจะมาชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนกรกฎาคมที่ ที่จะถึงนี้นะครับอันนี้ก็แสดงบอกนักลงทุนให้มั่นใจได้ว่าบริษัทเนี่ยมีเงินทุนนะครับที่จะสามารถอ่าเอาไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดนะครับ แล้วก็ เดือนกรกฎาคม และก็อยากจะเสนอ นักลงทุนอีกครั้งหนึ่งว่าหลังจากเราชำระคืนหุ้นกู้ไปแล้วเนี่ยเราเองกำลังทำเรื่องของ

โพสต์ล่าสุด