บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ETL โชว์ผลงาน Q1/68 รายได้โต 16% เดินหน้าขยายธุรกิจ Cross Border

โอเคครับ ถอดความและสรุปประเด็นต่างๆ ของหุ้น ETL ในงาน Oppday ปี 2568 ไตรมาส 1 ตามโครงสร้างที่กำหนดดังนี้ครับ

ETL โชว์ผลงาน Q1/68 รายได้โต 16% เดินหน้าขยายธุรกิจ Cross Border

สวัสดีค่ะ ท่านนักลงทุนและสื่อมวลชนทุกท่าน ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Opportunity Day ของบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL และขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ได้เปิดโอกาสให้ทางบริษัทได้พบปะกับนักลงทุนในช่องทางออนไลน์นี้ วันนี้ทุกท่านจะได้รับฟังข้อมูลใน 4 หัวข้อหลักๆ จากทางผู้บริหาร

1. Company Overview
2. Financial Performance ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2568
3. Strategies
4. Outlook ปี 2568

ลำดับต่อไปขอแนะนำผู้บริหารทั้ง 3 ท่าน โดยเริ่มจาก คุณกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการ คุณพรชัย ดวงแก้ววุฒิไกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์คร่ำหวอดในด้านโลจิสติกส์มา กว่า 35 ปี คุณปณิสรา สกุลสำเภาพล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเชิญทุกท่านรับชมรับฟังได้เลยค่ะ ขอเรียนเชิญคุณกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการค่ะ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ETL หรือ ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อปี 2561 ธุรกิจหลักคือการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไปยังประเทศในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงจีนและฮ่องกง โดยแบ่งการขนส่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ

• การขนส่งแบบเต็มตู้ (Full Container Load: FCL): ขนส่งจากประเทศต้นทางไปยังประเทศปลายทางโดยใช้ตู้คอนเทนเนอร์เดียว ไม่มีการเปลี่ยนถ่ายระหว่างทาง
• การขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (Less than Container Load: LCL): มีศูนย์กระจายสินค้าที่ประเทศต้นทางและปลายทาง ลูกค้านำสินค้าจำนวนน้อยมาขนส่งที่ศูนย์รวมสินค้า เมื่อโหลดสินค้าเต็มตู้แล้วจึงจะทำการขนส่งไปยังประเทศปลายทางโดยไม่มีการเปิดตู้

สินค้าที่ขนส่งส่วนใหญ่ครอบคลุมประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย กัมพูชา ลาว เวียดนาม จีน และฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีประเทศพม่าบ้างประปราย โดยขนส่งสินค้าหลากหลายประเภท เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ อะไหล่ รถยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มที่มีการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

ETL มีเครือข่ายทั้งหมด 7 ออฟฟิศใน 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย (2 ออฟฟิศ) ไทย (2 ออฟฟิศ) เวียดนาม และจีน โดยมี Financial Highlights ในไตรมาสที่ 1/2568 คือมีรายได้จากการให้บริการ 312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากจำนวนการขนส่งเพิ่มขึ้น และความต้องการของลูกค้าในการขนส่งจากจีนลงมาทางใต้มีจำนวนมากขึ้น

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

ETL มองเห็นโอกาสในการเติบโตจาก

• การขนส่งแบบ Cold Chain: เนื่องจากฤดูกาลของทุเรียนเริ่มต้นเร็วขึ้น ETL จึงมีจำนวนตู้เย็นที่ลงทุนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้สามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าได้มากขึ้น และคาดว่าในไตรมาสที่ 2 จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
• การได้รับรองมาตรฐาน: ETL ได้รับใบรับรอง ISO 14064 และ Carbon Footprint Organization อย่างต่อเนื่อง ทำให้สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ความเสี่ยงหลักที่ ETL กำลังเผชิญคือการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง เนื่องจากบริษัทมีความจำเป็นต้องวิ่งรถเที่ยวเปล่ามากขึ้น

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

ETL มีแนวทางแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้

• การบริหารจัดการเที่ยวรถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง
• การใช้เทคโนโลยีและ AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และวางแผนการขนส่ง
• การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถมากขึ้น

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

ETL มีเป้าหมายที่จะขยายการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดย

• การเป็น Business Partner กับลูกค้า เชื่อมต่อการขนส่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น Sea to Land, Land to Rail, และ Land to Air
• ขยายตลาดการขนส่ง Cold Chain ให้ครอบคลุมถึงอาหารและเครื่องดื่ม
• ใช้ระบบเทคโนโลยีและ AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการวิเคราะห์และติดตามผลการดำเนินงาน

โดยรวมแล้ว ETL มั่นใจในการวางกลยุทธ์และ Business Focus ของบริษัท และคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสที่เหลือของปี 2568 จะเป็นไปในทิศทางบวก และมีผลประกอบการที่ดีกว่าทุกปีที่ผ่านมา

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 56:52]

คำถามและคำตอบในช่วง Q&A Session มีดังนี้:

• ความกังวลใน 1-3 ปีนี้ และแผนรับมือ: ผู้บริหารมองว่าความกังวลหลักคือเรื่อง Trade War ที่ยังไม่มีความชัดเจน แต่คาดว่าหากจีนเจอปัญหา Trade War สินค้าจีนจะหลั่งลงมาใน South East Asia ทำให้ Volume การขนส่งมากขึ้น แต่สิ่งที่ต้องกังวลคือเรื่อง Balance Trip โดย ETL เตรียมการโดยการศึกษาผลกระทบและเตรียมแผนรับมือ และจะทำ Cost ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
• สิ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจ: ETL ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของธุรกิจทั้งหมด (Key Stakeholder Benefit) ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า และผู้ถือหุ้น
• ตัวเลข ROIC เทียบกับ WACC: ROIC ของ ETL ประมาณ 9% แต่ WACC ยังค่อนข้างสูงเนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วง Investment และคาดว่าในอนาคต WACC จะดีขึ้นหากบริษัทดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
• ROE ค่อนข้างต่ำและการเติบโตติดลบ มีแนวทางแก้ไขอย่างไร: เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงของการพัฒนาให้มีความสามารถในการทำกำไรได้เพิ่มขึ้น โดยเน้น Cost Management และการหาลูกค้าใหม่ๆ และมองว่าในอนาคต ROE จะเพิ่มสูงขึ้น
• ปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตเท่าไหร่ ประเมิน Trade War เปิดโอกาสอะไรให้ ETL บ้าง: ตั้งเป้ารายได้ 1,500 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 20-25% และ Trade War จะทำให้การค้าการขายจากเอเชียด้วยกันมีจำนวนมากขึ้น โดย ETL พยายามโฟกัสเรื่อง Northbound เพื่อให้เกิด Balance Trip
• เบื้องหลังรายการ Big Lot ในผู้ถือหุ้นรายใหญ่: ผู้บริหารขอตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและจะตอบกลับไปในภายหลังทาง YouTube

โดยรวมแล้ว ผู้บริหาร ETL แสดงความมั่นใจในการเติบโตของธุรกิจ และพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ขอขอบคุณผู้บริหารทั้ง 3 ท่าน และในนามของบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจเข้า รับชมรับฟังข้อมูลสำคัญของบริษัท และขอฝากทุกท่านติดตาม Opportunity Day ของบริษัทในครั้งต่อๆ ไปด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ

• Q: ความกังวลและแผนรับมือในระยะ 1-3 ปี
• A: Trade War, เน้น Balance Trip และลดต้นทุน
• Q: สิ่งที่ ETL ให้ความสำคัญสูงสุด
• A: ผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด
• Q: ตัวเลข ROIC และ WACC
• A: ROIC 9%, WACC สูง แต่จะดีขึ้นในอนาคต
• Q: แนวทางแก้ไข ROE ต่ำและการเติบโตติดลบ
• A: Cost Management และหาลูกค้าใหม่
• Q: เป้าหมายรายได้ปี 68 และโอกาสจาก Trade War
• A: 1,500 ล้านบาท, โฟกัส Northbound
• Q: เบื้องหลัง Big Lot ในผู้ถือหุ้นรายใหญ่
• A: ขอตรวจสอบและจะแจ้งรายละเอียดภายหลัง