บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SPCG โชว์ผลงาน Q1 ปี 2568: กำไรโตสวนกระแส แต่ยังต้องฝ่าความท้าทาย!
P/E 21.02 YIELD 14.12 ราคา 8.50 (0.00%)โอเคครับ นี่คือสรุปผลการดำเนินงาน Oppday หุ้น SPCG ไตรมาส 1 ปี 2568 ตามโครงสร้างที่คุณต้องการครับ
SPCG โชว์ผลงาน Q1 ปี 2568: กำไรโตสวนกระแส แต่ยังต้องฝ่าความท้าทาย!
สวัสดีครับท่านนักลงทุนและท่านผู้ถือหุ้นทุกท่าน พบกับ Opportunity Day ของบริษัท SPCG จำกัดมหาชนอีกครั้ง ผม ธีรพัฒน์ อิยัทนานนท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน พร้อมด้วยคุณรุ่งฟ้า ลาภจินดานนท์ รองกรรมการบริหารสายบัญชีและงบประมาณ และคุณกิตตินันท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและงบประมาณ จะมาอัปเดตและนำเสนอภาพรวมผลประกอบการของ SPCG ใน Q1 ปี 2568
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
- โครงสร้างบริษัท: ปัจจุบันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่แล้ว SPCG ประกอบด้วยบริษัทลูก 44 บริษัทย่อย
- Timeline ธุรกิจ:
- ก่อตั้งบริษัทปี 2549
- เริ่มพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มปี 2553
- เริ่มธุรกิจโซลาร์รูฟปี 2557
- ลงทุนในต่างประเทศปี 2561
- ลงทุนในโครงการ Fukushima Mega Solar ปี 2563
- ปี 2567 ลงทุนในโครงการ Kagoshima (8 MW) และ COD แล้วในเดือนมีนาคม
- โครงสร้างธุรกิจหลัก: ประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลัก
- ธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม
- ธุรกิจโซลาร์รูฟ
- After Sales Service ของ SMA Inverter จากเยอรมัน
- ข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์: อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดพลังงาน มีทุนจดทะเบียน 1,055,790,000 บาท และจำนวนหุ้นเท่ากัน
- ผู้ถือหุ้นหลัก: 10 ผู้ถือหุ้นหลักยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- หุ้นปันผล: SPCG เป็นหุ้นปันผล เริ่ม COD (Commercial Operation Date) ปี 2557 และเริ่มปันผลปี 2558 จ่ายปันผลต่อเนื่องทุกปี ล่าสุดปี 2568 จ่ายปันผลรวมทั้งปี 1.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 15%
- ธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม: ประกอบด้วยโรงไฟฟ้า 36 แห่งในไทย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและลพบุรี) และในญี่ปุ่น
- ผลผลิตไฟฟ้า: ปี 2567 ผลิตไฟฟ้าจาก 36 โครงการในไทยได้ 372,494,551 หน่วย ลดการปล่อยคาร์บอนในบรรยากาศได้ประมาณ 200,000 ตัน CO2
- โครงการในญี่ปุ่น:
- โครงการ Tottori (30 MW)
- โครงการ Fukushima (480 MW, อยู่ระหว่างก่อสร้าง)
- โครงการ Kagoshima (8 MW, COD แล้ว)
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
- เป้าหมายปี 2593: มีเป้าหมายกำลังผลิตรวมไม่น้อยกว่า 10,000 MW
- โครงการในอนาคต: มองหาโอกาสในการประมูลงานกับภาครัฐ และการลงทุนในต่างประเทศ
- ตลาดเป้าหมาย: ให้ความสำคัญกับตลาดญี่ปุ่นเนื่องจากมีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง (Kyocera Corporation) และมีนโยบายที่ชัดเจน
- การขยายธุรกิจ: มองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงาน แต่ยังอยู่ในช่วงศึกษาข้อมูล
- เงินทุนสำรอง: มีกระแสเงินสดสำรองในบริษัทไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมสำหรับการลงทุนใหม่ๆ
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
- ธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม: รายได้ลดลงเนื่องจาก Adder หมดอายุ และค่า FT ลดลง
- ธุรกิจโซลาร์รูฟ: สภาพเศรษฐกิจและสงครามการค้าอาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย
- โครงการ EEC: มีความล่าช้าเนื่องจากปัญหาการขอใบอนุญาตและอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง
- อัตราแลกเปลี่ยน: ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากต่างประเทศ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
- การลงทุนในโครงการใหม่: มองหาโอกาสในการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
- การบริหารจัดการต้นทุน: พยายามลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- การปรับกลยุทธ์: ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
- การบริหารเงินสด: บริหารเงินสดอย่างระมัดระวังและลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
- แนวโน้มธุรกิจ: คาดว่าผลประกอบการปี 2568 จะลดลงจากปี 2567 เนื่องจาก Adder หมดอายุและค่า FT ลดลง
- เป้าหมายระยะยาว: ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายกำลังการผลิตและเติบโตในระยะยาว
- การลงทุนในเทคโนโลยี: สนใจลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 36:29]
ความคืบหน้าโครงการ EEC
- คำถาม: สอบถามความคืบหน้าของโครงการที่เกี่ยวข้องกับ EEC เป็นอย่างไรบ้าง อยู่ในแผนหรือว่าชะลออยู่คะ
- คำตอบ: ปัจจุบันยังชะลอไปก่อน อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องขั้นตอนการขอใบอนุญาต สามารถติดตามข่าวความคืบหน้าได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ มีการแจ้งความคืบหน้าทีละสเต็ป
เป้าหมายการเติบโตปี 2568
- คำถาม: เป้าหมายการเติบโตในปี 2568 วางไว้อย่างไร
- คำตอบ: ถ้ามองในแง่ของรายได้และกำไรของบริษัทในปี 2568 ต้องยอมรับว่าจะต้อง Drop ลงไปจากปี 2567 เนื่องจาก Adder หมดอายุและราคาขาย (FT) ลดลง
งบลงทุนปี 2568
- คำถาม: งบลงทุนปี 2568 วางไว้เท่าใด และใช้ในส่วนใดบ้าง
- คำตอบ: โครงการหลักของบริษัทคือ Solar Farm และ Solar Roof มีปัจจัยเรื่องใบอนุญาต และติดตามข่าวจากภาครัฐเรื่องการประมูลงาน เรามีความพร้อมในการประมูลงานกับภาครัฐ
ทิศทางผลงานไตรมาส 2
- คำถาม: ทิศทางผลงานในไตรมาสที่ 2 มีโอกาสที่ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วหรือไม่
- คำตอบ: ทิศทางในไตรมาสที่ 2 ค่อนข้าง Stable และค่อนข้างจะไปในทางที่ลดลงจากไตรมาสที่ 1 และน่าจะใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
แผนขยายกำลังผลิตเป็น 10,000 MW ในปี 2593
- คำถาม: ขอทราบแผนการขยายกำลังผลิตเพิ่มเป็น 10,000 MW ในปี 2593 จะทำอะไรและไปในทิศทางไหน
- คำตอบ: อิงกับแผน PDP ของภาครัฐที่อยากให้มีสัดส่วนของพลังงานสะอาดไม่น้อยกว่า 30% SPCG น่าจะมีส่วนร่วมในการเข้าประมูลหรือร่วมโครงการกับภาครัฐ
แผนเข้าประมูลสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
- คำถาม: แผนการเข้าประมูลสัญญารับซื้อขายไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างไร
- คำตอบ: ต้องดูรายละเอียดของ TOR ที่ภาครัฐจะออกมา สามารถเข้าข่ายที่จะร่วมประมูลได้หรือไม่ ส่วนในต่างประเทศจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์หลักคือ Kyocera Corporation เน้นโครงการในญี่ปุ่นเป็นหลัก
รายได้ชดเชย Adder และปัจจัยลบ
- คำถาม: รายได้ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้สามารถทดแทนรายได้ที่เคยมีจาก Adder ได้ไหม และมีปัจจัยลบอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อบริษัท
- คำตอบ: บริษัทจะไม่มีรายได้อะไรที่จะมาชดเชยรายได้ Adder ที่หายไปได้ เพราะยังไม่มีธุรกิจใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา
สัญญา Open End ของ Solar Farm
- คำถาม: Solar Farm ที่มีรายรับอยู่ในปัจจุบัน จะมีรายรับต่อเนื่องไปอีกกี่ปี
- คำตอบ: สัญญาจะเป็นสัญญา Open End มีอายุ 5 ปี และต่ออัตโนมัติทุกๆ 5 ปี อุปกรณ์ที่ลงทุนไว้ในช่วงเริ่มต้นจะสามารถใช้งานอยู่ในช่วง 20-30 ปี
เป้าหมายกำลังการผลิตสิ้นปี 2568 และ 2569
- คำถาม: เป้าหมายกำลังการผลิตสิ้นปี 2568 และ 2569
- คำตอบ: Energy Output ในปีนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว อยู่ที่ 370-372 ล้านหน่วย ทั้งในปี 2568 และ 2569 เป็นต้นไป
แนวทางการบริหารเงินสด
- คำถาม: แนวทางการบริหารเงินสด มุมการลงทุนที่ไม่เกี่ยวกับพลังงาน
- คำตอบ: จะเอาเงินไปลงทุนในพวกกองทุนที่มีสภาพคล่องและมีความเสี่ยงต่ำ ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 1.5-2% และก็มีสภาพคล่อง T+1
งบ Renovate ช่วงปี 2568-2569
- คำถาม: งบ Renovate ช่วงปี 2568-2569 วางไว้เท่าไหร่ Renovate นี่น่าจะหมายถึงการ Replace ตัวอุปกรณ์ที่อยู่ใน Solar Farm
- คำตอบ: โซล่าฟาร์มของเราค่อนข้างใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานในระดับสากล อย่างแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ใช้แบรนด์ Kyocera ซึ่งมี Track Record มากกว่า 30-40 ปี และ Inverter ใช้ของ SMA ซึ่งเป็นแบรนด์ของเยอรมัน ในปัจจุบัน รวมถึงในระยะเวลาอีก 3-5 ปีข้างหน้า เรายังไม่ได้มี Plan ที่จะ Renovate ที่จะ Replace สำหรับอุปกรณ์พวกนี้ เพราะว่ายังคงใช้งานได้ดีอยู่แล้วก็อัตราการเสื่อมสภาพต่ำ ซึ่งอัตราการเสื่อมสภาพเนี่ยเราก็มีการส่งไปวัดสอบเทียบตามมาตรฐานทุกๆ ปี ก็จะไม่ได้มีการเสื่อมสภาพในอัตราที่สูงจนกระทั่งเราจะต้องมีการ Replace สำหรับอุปกรณ์พวกนี้ค่ะ
โดยสรุป SPCG ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอก แต่บริษัทก็มีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนและมีเงินทุนสำรองที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะคว้าโอกาสใหม่ๆ และเติบโตในระยะยาว