บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ถอดรหัส SAPPE ปี 2568 Q1: ผลกระทบ, โอกาส, และความท้าทายในโลกเครื่องดื่ม
P/E 11.32 YIELD 7.26 ราคา 31.25 (0.00%)
ถอดรหัส SAPPE ปี 2568 Q1: ผลกระทบ, โอกาส, และความท้าทายในโลกเครื่องดื่ม
สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน วันนี้ผมอเนก CFO และคุณเปียจิต CEO จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลประกอบการของ SAPPE ในไตรมาส 1 ปี 2568 โดย Agenda ในวันนี้จะประกอบด้วยภาพรวม Overview, ผลการดำเนินงานทางการเงิน Financial Performance, Business Update และ Sustainability
ในส่วนของ Overview นั้น SAPPE ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ของคนไทยให้เป็น Global Brand โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เรามี 5 Category 20 แบรนด์ และมี Present ไปถึง 100 กว่าประเทศทั่วโลก
Journey ของเราในช่วง Recent Year ประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่เรา Scale ในตลาดต่างประเทศได้ดี และเริ่ม Win ใน Key Country ที่มากขึ้น โครงสร้างของบริษัทยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเรายังส่งออกผลิตภัณฑ์จากเมืองไทยทั้งหมด และมีธุรกิจ Domestic คือ Thailand ธุรกิจการส่งออก และ OEM ซึ่ง OEM ของเราเองจะทำงานร่วมกับ Strategic Partner ปัจจุบันเราทำกับ Danone ภายใต้ JV ในส่วนของ Shareholding ของเรา มี All Coco ถือ 51%, Danone SAPPE 25%, M Intergentes 16% และ SAPPE ฟิลิปปินส์ ถือหุ้นอยู่ 100%
Category ของเรายังเหมือนเดิม Major ของเราจะเป็น Jewish Drink 65% ตามด้วย Functional Drink หลาย ๆ ท่านอาจจะรู้จัก SAPPE ก็จะนึกถึง Beauty Drink Functional Drink แต่ Major ของเราจะอยู่ต่างประเทศ ก็คือเป็น Jewish Drink คือแบรนด์ Mogu Mogu แล้วก็ Functional Powder บางส่วน และ Head Snack กับ Supplement ก็ยังเป็น Portion ที่เล็กอยู่
Innovation เป็นสิ่งที่ SAPPE ให้ความสำคัญ โดยในไตรมาส 1 เรามีการ Launch สินค้าใหม่ออกสู่ตลาดถึง 9 SKU ด้วยกัน ซึ่งเรามีการพัฒนาจาก In-house รวมถึงการทำ Partnership และการร่วมมือกับ Local Goodness หรือ Indo Studio
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ผลกระทบเชิงลบ: Top Line ติดลบ 38% เนื่องจากการชะลอตัวของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปและเอเชียบางประเทศ
ปัจจัยภายนอก: สภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในบางประเทศ, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน, Tariffs และ Trade War ส่งผลกระทบต่อยอดขายในต่างประเทศ
ปัจจัยภายใน: การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดผลกระทบต่อ Net Profit
ตัวเลขทางการเงิน: Net Profit อยู่ที่ 224 ล้านบาท ลดลง 36% แต่ยังดีกว่า Top Line ที่ลดลงมากกว่า
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
ตลาดในประเทศ: Domestic Market เติบโต 26% แสดงถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ในประเทศ
New Products: การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มความหลากหลายและดึงดูดลูกค้าใหม่
TT Channel: ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาด TT (Traditional Trade) ในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ตลาดต่างประเทศ: ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ, Tariffs และ Trade War ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม
การแข่งขัน: การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องดื่ม โดยเฉพาะในเกาหลีใต้
Supply Chain: ปัญหา Supply Chain ที่ยาวนาน อาจส่งผลกระทบต่อการส่งมอบสินค้าให้ทันเวลา
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
Cost Management: บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาระดับ Net Profit
New Products: มุ่งเน้นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
Partner Engagement: สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ Partner และ Distributor เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายตลาด
Production Plan: การขยายกำลังการผลิตและปรับปรุง Warehouse เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
การฟื้นตัว: คาดการณ์ว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในไตรมาส 3 และกลับมาเป็นบวกเมื่อเทียบกับ Year on Year
Domestic Market: ยังคงเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
Global Brand: ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [นาทีที่ 30:46]
-
ความกังวลใน 1-3 ปีข้างหน้า
- คำถาม: บริษัทมีความกังวลอะไรใน 1-3 ปีข้างหน้าบ้างไหม และมีแผนรับมืออย่างไร?
- คำตอบ: สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือ Consumer และ Consumer behavior ที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างไว เราจะต้องทำอย่างไรให้รู้ทันเท่าทัน Consumer ให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังอาจมีเรื่อง Trade War และ Tariffs ที่ต้องพิจารณาและศึกษาเพิ่มเติมในเรื่อง Local Production
-
ROIC และ WACC
- คำถาม: ในเรื่องของตัวเลข ROIC เทียบกับ WACC เป็นอย่างไรบ้าง?
- คำตอบ: ต้นทุนของบริษัท (WACC) ไม่ค่อยต่างจากคนอื่นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โดยปกติจะ Range อยู่ 8-9% ส่วน ROIC ในเรื่อง Investment ค่อนข้างสูง เพราะส่วนใหญ่เรา Invest ใน Core Business และ Break Even ของเราจะประมาณ 4 ปี
-
กำลังการผลิต
- คำถาม: กำลังการผลิตที่แสดง รวมวันหยุดเครื่องจักร Maintenance ด้วยเรียบร้อยแล้วหรือไม่?
- คำตอบ: ใช่ จุดที่เราคิดว่าจะทำได้สูงสุดน่าจะอยู่ที่ 80% อีก 20% จะเป็นวันหยุด Maintenance ซ่อมบำรุงต่าง ๆ
-
วัตถุดิบขาดแคลน
- คำถาม: วุ้นมะพร้าวว่านเป็นผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งมีธรรมชาติเกี่ยวข้อง มีโอกาสเกิดการขาดแคลนหรือไม่?
- คำตอบ: วุ้นมะพร้าวและว่านเป็น Byproduct ของต่าง ๆ เราไม่เห็นปัญหาตรงนี้ เพราะมี Source ของมันที่ค่อนข้างใหญ่และเยอะ และมีแหล่งหลาย ๆ แหล่งที่สามารถ Balance ได้ ตัวที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสูงคือน้ำมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็น Business ของ All Coco
-
แนวโน้ม Q2/68
- คำถาม: แนวโน้มผลการดำเนินงานใน Q2/68 เป็นอย่างไรบ้าง เปรียบเทียบ Q on Q และ Year on Year เพราะอะไร?
- คำตอบ: Q1/68 น่าจะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุด และ Q2/68 จะเห็นการฟื้นตัวจาก Q1/68 เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ Year on Year อาจจะต้องใช้เวลา เพราะยังติดลบอยู่ และคาดว่าจะกลับมาเติบโตใน Q3/68 เป็นต้นไป
-
ปัจจัยบวก
- คำถาม: ปัจจัยบวกที่เหลือในช่วงที่เหลือของปี 2568 มีอะไรบ้าง?
- คำตอบ:
- ปัญหาใน UK และฝรั่งเศสเริ่มจัดการได้
- มี New Product ที่ Launch ในประเทศต่าง ๆ มากขึ้น
- การ Execute In-store ที่เคยแชร์กับนักลงทุนว่าทำได้ไม่ดี เริ่ม Execute บางส่วนแล้ว
-
เป้าหมายลูกค้า Mogu Mogu
- คำถาม: Mogu Mogu ปัจจุบันจับกลุ่มลูกค้าช่วงอายุเท่าไหร่ และมีแผนที่จะทำ Mogu Mogu ผสมวิตามินหรือแร่ธาตุเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าหรือไม่?
- คำตอบ: Target Group ในแต่ละประเทศอาจไม่เหมือนกัน ในยุโรปอาจจะโตหน่อย ในเอเชียอาจจะเด็กหน่อย แต่ Overall คือ Gen Z และอาจจะมี Gen Alpha เข้ามาด้วย ส่วนเรื่องเพิ่มวิตามินก็อยู่ในแผนที่มองไว้
-
สัญญาณที่ดีใน UK, ฝรั่งเศส
- คำถาม: ผู้บริหารมองเห็นสัญญาณอะไรเป็นพิเศษในฝรั่งเศสและ UK ถึงคาดว่า Stock Level จะดีขึ้นตั้งแต่ Q2/68 และ Q3/68?
- คำตอบ: เรา Monitor 2 ตัวหลัก:
- Consumer Offtake ซึ่งเราซื้อ Data อยู่
- ระดับ Inventory ที่ Share จาก Distributor
-
สถานการณ์หลังรอมฎอน
- คำถาม: สถานการณ์ Inventory เรื่องเดียวกันหลังรอมฎอนเป็นอย่างไรบ้างใน Middle East และอินโดนีเซีย?
- คำตอบ: Middle East Q2/68 คาดว่าจะกลับมาเป็นปกติ ส่วนอินโดนีเซียมีสัญญาณชะลอตัวนิดหน่อย แต่ Key Inventory ในอินโดนีเซียค่อนข้างน้อย ไม่ได้มีปัญหาเรื่อง Inventory
-
Outlook ฟิลิปปินส์และเกาหลี
- คำถาม: รบกวน Update Outlook ฟิลิปปินส์และ South Korea ด้วยค่ะ
- คำตอบ: ฟิลิปปินส์ยังดีอย่างต่อเนื่อง และมีแผนในส่วนของฟิลิปปินส์ค่อนข้างเยอะ โดยปีนี้จะเข้าบุกตลาด TT มากขึ้น จะมี New SKU Launch เข้าไป ส่วนเกาหลีมีการจัดการเรื่อง Trade Scheme เพราะ Competition ค่อนข้างสูง ตอนนี้เราเริ่มมีทีมที่เข้าไป Focus ในเรื่องการทำ Trade Scheme ต่าง ๆ และมี New Product ที่กำลัง Launch ไป
-
ปัญหา Over Stock
- คำถาม: ในยุโรปเราเจอ Over Stock ที่ Supplier ที่ Supply แต่ในส่วน End Consumer ที่ยุโรป สถานการณ์เดียวกับเกาหลีที่ยอดจับจ่ายลดลงหรือไม่? หรือว่า End User ยังปกติอยู่?
- คำตอบ: คล้าย ๆ กัน ในยุโรปคือ UK กับ France ในเชิง Offtake Consumer มีการปรับตัวลดลงในระดับ 10% กว่า แต่ที่หายไปค่อนข้างเยอะเพราะ Inventory
-
Utilization Rate
- คำถาม: Utilization Rate กี่ % Break Even?
- คำตอบ: ตอบคำถามยากว่า Break Even เป็นอย่างไร แต่ถ้าถามว่า U Rate ที่ Efficient น่าจะอยู่ประมาณเท่าไหร่ Maximum ของเราคือ 80% ที่ระดับ 50-60% ก็ Run ได้ แต่ถ้า Efficiency สูงจริง ๆ จะอยู่ประมาณ 70%
-
สงครามภาษี
- คำถาม: สงครามภาษีเป็นปัจจัยภายนอก เราควบคุมยาก แต่เราพอมีแผนรับมือภายในไหม?
- คำตอบ: เรื่องภาษีตอนนี้ Too early to say จริง ๆ และเรื่องนี้ใหญ่เกินกว่า เราเรียนรู้มาตลอดว่าต้องบริหาร Resource ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และ Resource ของเราเองจะไปใน Portfolio ใน Key Country ใน Key Brand ไหนที่ทำให้เราได้ประโยชน์มากสุด
-
แนวโน้มเครื่องดื่ม
- คำถาม: มองแนวโน้มการบริโภคน้ำหวาน 3-5 ปีของในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง คาดว่าจะโตกี่ %?
- คำตอบ: Consumer สมัยนี้มี 2 ประเภท: Health Conscious มาก ๆ กับ Balance ตัวเอง ไม่ว่าจะสนใจเรื่อง Physical Health และ Mental Health การบริโภคของหวานยังคงมีอยู่ แต่เราอาจจะต้องจับกลุ่ม Consumer Segment ที่ยังต้องการน้ำตาลอยู่ กับอีกกลุ่มที่ต้องการน้ำตาลน้อยลง
-
ตลาดจีน ฮ่องกง
- คำถาม: มีความสนใจที่จะไปเจาะตลาดจีนฮ่องกงเหมือนแบรนด์น้ำมะพร้าวไทยเจ้าอื่นที่ประสบความสำเร็จบ้างไหม?
- คำตอบ: เรายังทำอยู่ เรายังสนใจ แต่อาจจะต้องหา Partner ที่เหมาะสม และลองเข้าไปอีกที ตอนนี้ก็มีการดูอย่างจริงจังในส่วนของตลาดจีนมากขึ้น
-
JV ต่างประเทศ
- คำถาม: มีแผนทางด้าน JV กับบริษัทในต่างประเทศบ้างไหม?
- คำตอบ: Explore อยู่
สำหรับภาพรวมในวันนี้ แม้ว่า SAPPE จะเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกหลายประการ แต่บริษัทก็ยังคงมุ่งมั่นในการปรับตัวและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจครับ
**ชื่อหัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป:**- ความกังวลใน 1-3 ปีข้างหน้า
- ROIC และ WACC
- กำลังการผลิต
- วัตถุดิบขาดแคลน
- แนวโน้ม Q2/68
- ปัจจัยบวก
- เป้าหมายลูกค้า Mogu Mogu
- สัญญาณที่ดีใน UK, ฝรั่งเศส
- สถานการณ์หลังรอมฎอน
- Outlook ฟิลิปปินส์และเกาหลี
- ปัญหา Over Stock
- Utilization Rate
- สงครามภาษี
- แนวโน้มเครื่องดื่ม
- ตลาดจีน ฮ่องกง
- JV ต่างประเทศ