บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
PHOL โชว์ผลงาน Q1/68 กำไรสุทธิโตสวนกระแส พร้อมลุยขยายตลาด Consumer
P/E 8.52 YIELD 8.39 ราคา 2.74 (0.00%)
PHOL โชว์ผลงาน Q1/68 กำไรสุทธิโตสวนกระแส พร้อมลุยขยายตลาด Consumer
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ได้จัดงาน Opportunity Day เพื่อนำเสนอข้อมูลและผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมี CEO คุณธัญญา วังธำรงค์ และ CFO คุณพรศักดิ์ ชุณหาจินดา เป็นผู้ให้ข้อมูล
โดยภาพรวมผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมา ยอดขายและกำไรขั้นต้นของบริษัทค่อนข้างใกล้เคียงกับปี 2565 และ 2566 แต่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนยอดขาย โดยเฉพาะในส่วนของสินค้า Medical and Health ที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น
สำหรับไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 246.31 ล้านบาท ลดลง 5.02% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว มีกำไรขั้นต้น 65.85 ล้านบาท ลดลง 5.87% และมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 26.74% ในขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 16.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.07% โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์กำไรสุทธิอยู่ที่ 6.46%
รายได้ของบริษัทในไตรมาสแรกต่ำกว่าไตรมาสแรกของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการบำบัดน้ำในช่วงไตรมาสแรกน้อยกว่า และสภาพเศรษฐกิจและดัชนีอุตสาหกรรมที่โตต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ยอดขายในส่วนอุตสาหกรรมต่ำกว่าที่คาด
อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น รวมทั้งมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่าในไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**บริษัทกำลังมุ่งเน้นการขยายตัวไปยังตลาด Consumer Market มากขึ้น จากสินค้าใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าสุขภาพ เช่น สินค้าเกี่ยวกับผู้สูงอายุ และมีการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และ Marketplace โดยตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 100% ในตลาดนี้
นอกจากนี้ ยังเน้นเพิ่มลูกค้าในกลุ่มลูกค้าข้าราชการและโรงพยาบาลต่างๆ เพิ่มขึ้น
บริษัทใช้กลยุทธ์การเร่งการขยายตัวแบบต่อยอดจากธุรกิจเดิมเป็นหลัก (Rapid Organic Growth) โดยมีกลยุทธ์ 3M คือ More Penetrate, More Product, และ More Efficiency
- More Penetrate: เน้นการขยายลูกค้าโดยการสร้างระบบที่ทำให้เข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพทีมขาย การใช้ระบบ CRM และ Telesales
- More Product: เน้นการเพิ่มสินค้าที่หลากหลายและตรงความต้องการลูกค้า รวมถึงการนำเสนอสินค้าที่อยู่ในเทรนด์ปัจจุบันด้านสุขภาพและความยั่งยืน เช่น สินค้าเกี่ยวกับ Ergonomic สินค้าเกี่ยวกับผู้สูงอายุ และสินค้า Low Carbon
- More Efficiency: นำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการสร้างระบบทำงานที่มีประสิทธิภาพ เช่น ระบบ IT ในการเชื่อมโยงข้อมูลการขาย สต็อก และบริการหลังการขาย และระบบ Vending Machine และ Asset Tracking System เพื่อนำเสนอสินค้าและสร้างความแตกต่าง
บริษัทมีความกังวลในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากธุรกิจมีความเกี่ยวข้องกับสภาพอุตสาหกรรมของประเทศ หากอุตสาหกรรมการผลิตเติบโตต่ำ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัท
นอกจากนี้ การหดตัวของการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงการชะลอตัวของลูกค้าที่เป็นโรงงานผลิตโซลาร์เซลล์ ส่งผลให้ยอดขายสินค้ากลุ่ม Cleanroom ลดลง
มีการแข่งขันจากสินค้าจีนที่มีราคาถูกกว่า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัท
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**บริษัทกระจายความเสี่ยงโดยการขยายไปยังตลาด Consumer Market, ตลาดราชการ, และตลาดโรงพยาบาลมากขึ้น
บริษัทใช้สินค้าจีนในการจำหน่ายด้วย โดยคัดสรรคุณภาพสินค้าและนำเสนอในราคาที่แข่งขันได้
บริษัทบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้ดีขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีและโปรแกรมต่างๆ
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**บริษัทตั้งเป้าเติบโตในส่วนของตลาดอุตสาหกรรมประมาณ 3% ในปีนี้ และมุ่งเน้นการเติบโตในตลาด Consumer Market มากกว่า 100%
บริษัทคาดว่าลูกค้ากลุ่ม Cleanroom อาจจะไม่ลดกำลังการผลิตมากไปกว่านี้แล้ว และสินค้ากลุ่มนี้จะมี ยอดขายที่ค่อนข้างคงที่และอาจจะดีขึ้นในอนาคต
บริษัทมีแผนการลงทุนในการขยายและพัฒนาช่องทางจำหน่าย และปรับปรุงคุณภาพของการดำเนินงาน โดยจะมีการลงทุนในด้าน IT และโปรแกรมต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 29:33** * **ความกังวลและแผนรับมือใน 1-3 ปีข้างหน้า** * **คำถาม:** บริษัทมีความกังวลอะไรใน 1-3 ปีข้างหน้า และมีแผนรับมืออย่างไร? * **คำตอบ:** บริษัทมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากธุรกิจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิต หากอุตสาหกรรมเติบโตต่ำจะกระทบต่อการเติบโตของบริษัท บริษัทให้ความสำคัญกับการเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของประเทศ * **ความสำคัญอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจ** * **คำถาม:** บริษัทให้ความสำคัญกับอะไรเป็นสิ่งแรกในการดำเนินธุรกิจ? * **คำตอบ:** บริษัทให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก เพราะลูกค้าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทเจริญเติบโตและมีรายได้ อีกส่วนที่สำคัญคือพนักงานของบริษัท เนื่องจากเป็นธุรกิจเทรดดิ้งที่ใช้พนักงานจำนวนมากในการบริหารและสร้างรายได้ * **ตัวเลข ROIC และ WACC** * **คำถาม:** ตัวเลข ROIC เทียบกับ WACC เท่าไหร่บ้าง? * **คำตอบ:** ROE และ ROA อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงคือ 16.5% ROA เฉลี่ยประมาณ 11% ROIC อยู่ที่ประมาณ 13-13.4% WACC ต้นทุนของบริษัทไม่สูง อยู่ที่ประมาณ 4.4% * **แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2** * **คำถาม:** สอบถามผลการดำเนินงานไตรมาส 2 มีแนวโน้มเป็นอย่างไรบ้าง? * **คำตอบ:** เท่าที่ดู ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 ยังถือว่าโอเค โดยภาพรวมลูกค้ามีบางส่วนที่การผลิตลดลง แต่บริษัทรับรู้แล้วว่ามีการผลิตลดลง หลังจากนี้คาดว่าจะอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างดีขึ้น บริษัทยังคงขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องของอุตสาหกรรมที่ยอดขายลดลง โดยการกระจายไปในส่วนของตลาด Consumer และตลาดราชการ รวมถึงตลาดโรงพยาบาลมากขึ้น * **สินค้าสำหรับตลาด Consumer และช่องทางการขาย** * **คำถาม:** สินค้ากลุ่มที่บริษัทจะทำตลาด Consumer เป็นสินค้าอะไรบ้าง และขายผ่านช่องทางไหน? * **คำตอบ:** สินค้าที่ทำตลาดขาย Consumer ตอนนี้มีส่วนหนึ่งที่เป็นสินค้า Safety แต่เป็นสินค้า Safety ที่ใช้ในอุตสาหกรรม โรงงานขนาดเล็ก SME หรือ Service ต่างๆ ก็มีการใช้ด้วย เช่น ถุงมือ รองเท้า หรือแว่นตา นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่เป็น Consumer แท้ๆ คือผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ซึ่งขายในช่องทางออนไลน์ และมีการเข้าประมูลของราชการด้วย * **ช่องทางการขายออนไลน์** * **คำถาม:** ในออนไลน์ขายผ่านอะไรบ้าง? * **คำตอบ:** ขายผ่าน Marketplace Lazada, Shopee และ TikTok * **การแข่งขันจากสินค้าจีนราคาถูก** * **คำถาม:** มีสินค้าจีนที่ราคาถูกกว่าเข้ามาแข่งขันมากหรือไม่ ในแง่ของสินค้าที่ทับซ้อนกับของเรา? * **คำตอบ:** สินค้าจีนเข้ามาแข่งขันได้สักพักแล้ว แต่เนื่องจากเป็นธุรกิจเทรดดิ้ง ในขณะที่สินค้าจีนเข้ามาบริษัทก็ใช้สินค้าจีนในการจำหน่ายด้วย ทำให้ต้นทุนในการนำสินค้าจีนเข้ามาค่อนข้างต่ำกว่าในตลาด และบริษัทคัดสรรคุณภาพสินค้าก่อนนำเข้ามาจำหน่าย * **แผนการลงทุนเพิ่มเติมในปีนี้** * **คำถาม:** จะมีแผนลงทุนเพิ่มเติมในปีนี้หรือไม่ มูลค่าลงทุนจะประมาณเท่าไหร่? * **คำตอบ:** ในส่วนของแผนลงทุนที่เป็นโปรเจคใหญ่ๆ ในปีนี้อาจจะยังไม่มี แต่มีเรื่องของการลงทุนในการขยายและพัฒนาช่องทางจำหน่าย และปรับปรุงคุณภาพของการดำเนินงาน โดยจะมีการลงทุนในด้าน IT และโปรแกรมต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยสรุป PHOL ยังคงรักษาการเติบโตได้ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย โดยมีกลยุทธ์ในการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ