https://aio.panphol.com/assets/images/community/6441_bdca98.png

CFARM เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568: โอกาสและความท้าทายในธุรกิจฟาร์มไก่เนื้อ

P/E 28.34 YIELD 0.00 ราคา 0.80 (0.00%)

CFARM เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568: โอกาสและความท้าทายในธุรกิจฟาร์มไก่เนื้อ

สวัสดีค่ะ ท่านนักลงทุนและผู้ถือหุ้นทุกท่าน วันนี้เราจะมาสรุปผลการดำเนินงานของบริษัท ซีฟาร์ม ในรอบไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 และอัปเดตข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจของเราให้ท่านได้รับทราบค่ะ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 บริษัท ซีฟาร์ม เผชิญกับความท้าทายและโอกาสที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานดังนี้:

  • ผลกระทบเชิงบวก:
    • ปริมาณการผลิตไก่เนื้อเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
    • ราคาส่งออกไก่เนื้อปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย
  • ผลกระทบเชิงลบ:
    • รายได้จากการขายลดลงเนื่องจากการบันทึกบัญชีตามมาตรฐาน TFRS 15 ซึ่งมีผลต่อการรับรู้รายได้จากไก่ระหว่างเลี้ยง
    • ผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวน (ฝนตกบ่อย) ทำให้การปรับปรุงพื้นที่ก่อสร้างฟาร์มใหม่ล่าช้า
  • ตัวเลขทางการเงินและสถิติ:
    • สินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อย แต่ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น
    • รายได้จากการขายไก่เนื้อ: 48 ล้านบาท (Q1/68) เทียบกับ 49 ล้านบาท (Q1/67)
    • ปริมาณไก่เนื้อที่เลี้ยง: 3.9 ล้านตัว (Q1/68) เทียบกับ 2.9 ล้านตัว (Q1/67)
    • อัตรากำไรสุทธิ: ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากผลกระทบจาก TFRS 15

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

ซีฟาร์ม มองเห็นโอกาสในการเติบโตและขยายธุรกิจในด้านต่างๆ ดังนี้:

  • โครงการฟาร์มวัว:
    • คาดว่าจะเริ่มนำเข้าวัวได้ในช่วงปลายไตรมาส 3 และเริ่มรีดนมได้ในไตรมาส 1 ปี 2569
    • มีศักยภาพในการเพิ่มรายได้ถึง 5 เท่าของรายได้ปัจจุบัน และเพิ่มอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 10%
  • โครงการฟาร์มไก่ไข่:
    • ได้รับการอนุมัติโครงการลงทุน 120 ล้านบาท
    • คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปี 2568
    • คาดการณ์อัตราผลตอบแทน (Payback) ภายใน 6.3 ปี
  • สถานการณ์ไข้หวัดนกในบราซิล:
    • เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยส่งออกไก่เนื้อได้มากขึ้น
    • ส่งผลให้ราคาไก่เนื้อในประเทศปรับตัวสูงขึ้น

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

บริษัท ซีฟาร์ม ตระหนักถึงความเสี่ยงและความท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจดังนี้:

  • ความเสี่ยงด้านการตลาด:
    • การเปลี่ยนแปลงของราคาไก่เนื้อและต้นทุนอาหารสัตว์
    • การแข่งขันในตลาดส่งออก
  • ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน:
    • การจัดการฟาร์มให้มีประสิทธิภาพ
    • การป้องกันและควบคุมโรคระบาดในสัตว์ปีก
  • ความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ:
    • ผลกระทบจากฝนตกหนักต่อการก่อสร้างและปรับปรุงฟาร์ม

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

ซีฟาร์ม มีแผนการรับมือและแก้ไขปัญหาต่างๆ ดังนี้:

  • การบริหารจัดการต้นทุน:
    • การปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต
    • การจัดหาแหล่งวัตถุดิบที่ราคาเหมาะสม
  • การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านโรคระบาด:
    • การปฏิบัติตามมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice)
    • การเฝ้าระวังและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด
  • การปรับปรุงแผนการก่อสร้าง:
    • การวางแผนงานให้สอดคล้องกับสภาพอากาศ
    • การใช้เทคโนโลยีและวิธีการก่อสร้างที่เหมาะสม

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

บริษัท ซีฟาร์ม มองเห็นแนวโน้มการเติบโตในอนาคตจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้:

  • การขยายธุรกิจ:
    • โครงการฟาร์มวัวและฟาร์มไก่ไข่จะสร้างรายได้และกำไรเพิ่มเติม
    • การเพิ่มรอบการเลี้ยงไก่เนื้อจะช่วยเพิ่มปริมาณการผลิต
  • การปรับปรุงประสิทธิภาพ:
    • การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเลี้ยงสัตว์
    • การพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ
  • การตอบสนองต่อความต้องการของตลาด:
    • การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
    • การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A Session นาทีที่ 43:06]

  1. แนวโน้มผลการดำเนินงาน Q2/68 และการเปรียบเทียบ Q on Q, Y on Y

    ผู้บริหารตอบว่าแนวโน้ม Q2/68 อยู่ในประมาณการที่ตั้งไว้ คาดว่าจะดีกว่า Q2/67 เนื่องจากไม่ใช่ช่วง Seasonal Low และมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี

  2. ผลกระทบจากฝนตกบ่อย

    ผู้บริหารตอบว่าฝนตกมีผลกระทบต่อการก่อสร้างฟาร์มใหม่ แต่ไม่มีผลกระทบต่อฟาร์มไก่เนื้อ เนื่องจากเป็นระบบปิด และมีการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเลี้ยงไก่

  3. ความคืบหน้าโครงการโคนม ลงทุนไปอย่างไร

    ผู้บริหารตอบว่าตอนนี้อยู่ในช่วงศึกษาเรื่องระบบการเลี้ยงที่เหมาะสม ส่วนการลงทุนยังเป็น Pre-Operating Expense ประมาณล้านกว่าบาท คาดว่าจะนำเข้าวัวได้ปลาย Q3/68 และเริ่มรีดนม Q1/69

  4. รายได้ลดลงเพราะ TFRS แสดงว่ามี Grade Stock ไก่ที่ Error หรือไม่

    ผู้บริหารตอบว่าไม่เป็นความจริง รายได้ลดลงจากผลของ TFRS ที่ทำให้ต้องนำไก่ระหว่างเลี้ยงมาคำนวณด้วย และการคำนวณเป็นไปตามหลักการบัญชีที่ถูกต้อง

  5. เวลาเลี้ยงไก่ลดลง น้ำหนักลดลง เพราะผู้ซื้อเร่งซื้อ หรือ เพราะอะไร

    ผู้บริหารตอบว่าผู้ซื้อเร่งซื้อเพราะราคาไก่ดีขึ้น แต่บริษัทก็ยังคงรักษามาตรฐานการเลี้ยงอยู่ และรอบการเลี้ยงที่สั้นลง ทำให้น้ำหนักลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

  6. เลี้ยงวัว Margin ดีกว่าไก่เนื้อ ไก่ไข่ หรือเป็นเท่าไหร่

    ผู้บริหารตอบว่า Margin ของวัวนมดีกว่าไก่เนื้อและไก่ไข่ โดย Margin ของวัวนมมากกว่า 10% ส่วนไก่เนื้อและไก่ไข่อยู่ที่ 7-8%

  7. โครงการไก่ไข่ น่าจะรับรู้รายได้ไตรมาสไหน คาดว่ากำไรประมาณเท่าไหร่

    ผู้บริหารตอบว่าคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ใน Q4/68 และคาดการณ์กำไรประมาณ 8%

  8. Q2/68 จะดีเทียบเท่ากับ Q4/67 ไหม

    ผู้บริหารตอบว่าน่าจะเทียบเคียงกันได้ เพราะผลการดำเนินงานของบริษัทจะเป็นไปตาม Curve ของฤดูกาล

  9. ปีนี้รอบการเลี้ยงกี่รอบ แล้วเลี้ยงกี่ตัว เทียบกับปี 67

    ผู้บริหารตอบว่าปีนี้คาดว่าจะมี 37 รอบการเลี้ยง มากกว่าปี 67 ที่มี 35 รอบ และจำนวนไก่จะมากกว่าปี 67 ประมาณ 5-6 ล้านตัว

  10. สถานการณ์ไข้หวัดนกบราซิล ส่งผลกระทบอะไรกับ CFARM หรือไม่ CFARM มีวิธีรับมือกับไข้หวัดนกอย่างไรบ้าง

    ผู้บริหารตอบว่าสถานการณ์ไข้หวัดนกในบราซิลส่งผลดีทางอ้อมต่อ CFARM เพราะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยส่งออกไก่เนื้อได้มากขึ้น และบริษัทมีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดตามมาตรฐาน GAP

  11. ปี 68 เลี้ยงดีกว่าปี 67 ไหม ราคา

    ผู้บริหารตอบว่าราคาไก่เนื้อ Contact ปีนี้อยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 42 บาท ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย

  12. เปรียบเทียบธุรกิจวัว เปรียบเทียบคู่แข่งต่างประเทศแล้วเราได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร

    ผู้บริหารตอบว่าธุรกิจวัวนมของ CFARM สามารถเทียบเคียงกับคู่แข่งต่างประเทศได้ เนื่องจากใช้เทคโนโลยีและวิธีการเลี้ยงที่ทันสมัย

  13. YIeld Rate เท่าไหร่ครับ เพิ่มเติมที่เกิน 100% ได้ไหม

    ผู้บริหารตอบว่าYield Rate โดยเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ 98.5% แต่บางฟาร์มสามารถทำได้เกิน 100% ขึ้นอยู่กับปริมาณไก่ที่คู่สัญญาจัดส่งมา

  14. ฟาร์มไก่ไข่อีกทีนึง

    ผู้บริหารตอบว่าโครงการฟาร์มไก่ไข่อยู่ในช่วงเริ่มต้น คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ใน Q4/68

  15. ส่วนของฟาร์มโคนมมีการดำเนินงานถึงขั้นตอนไหน

    ผู้บริหารตอบว่าบริษัทกำลังศึกษาเรื่องระบบการเลี้ยงที่เหมาะสม และมีการปรับหน้าดิน ส่วนความคืบหน้าโครงการอยู่ที่ 20%

  16. งบลงทุนทั้งไก่ไข่ และฟาร์มวัว แหล่งเงินจากไหน ต้องเพิ่มทุนไหม

    ผู้บริหารตอบว่าฟาร์มไก่ไข่จะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงิน และกระแสเงินสดของบริษัท ส่วนฟาร์มวัวจะใช้เงิน IPO และเงินกู้

  17. คาดการณ์รายได้และกำไรปีนี้จะเติบโต กี่เปอร์เซ็นต์

    ผู้บริหารตอบว่ารายได้น่าจะเติบโตจากไก่ไข่ และรอบการเลี้ยงที่เพิ่มขึ้น ส่วนกำไรน่าจะดีขึ้นจากสถานการณ์โดยรวม

  18. รอบเลี้ยงแต่ละรอบช่วงเดือนไหนบ้าง

    ผู้บริหารตอบว่ารอบเลี้ยงไม่ได้กำหนดช่วงเดือน แต่จะมีการลงไก่ไล่ไปทุกฟาร์ม ทำให้ทั้งปีมีการเลี้ยงตลอด

  19. สถานการณ์ไข้หวัดนกที่พวกส่งผลกระทบต่อเรามากน้อยแค่ไหน

    ผู้บริหารตอบว่าสถานการณ์ไข้หวัดนกส่งผลดีทางอ้อม เพราะช่วยให้ส่งออกได้มากขึ้น

โดยสรุปแล้ว บริษัท ซีฟาร์ม ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต

โพสต์ล่าสุด