https://aio.panphol.com/assets/images/community/6317_a8c9bd.png

สรุป Oppday MGC: กลยุทธ์เติบโต 2568 ท่ามกลางความท้าทายในอุตสาหกรรมยานยนต์

P/E 9.93 YIELD 2.22 ราคา 4.08 (0.00%)

สรุป Oppday MGC: กลยุทธ์เติบโต 2568 ท่ามกลางความท้าทายในอุตสาหกรรมยานยนต์

สวัสดีครับ ผม ดร. สันตวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Millennium Group Corporation (Asia) หรือ MGC Asia ขอขอบคุณผู้จัดงานและนักลงทุนที่ให้ความสนใจบริษัทของเราในวัน Oppday วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ครับ

MGC Asia ก่อตั้งในปี 2543 ประกอบธุรกิจนำเข้า จัดจำหน่าย ค้าปลีกรถยนต์ Big Bike รถยนต์มือสอง และเรือสันทนาการ นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาเราได้ขยายธุรกิจไปยังรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากจีนภายใต้แบรนด์พรีเมียมอย่าง Xpeng และ Seeker รวมถึงบริการหลังการขายครบวงจร ทั้งซ่อมทั่วไป ซ่อมสี และตัวถัง นอกจากนี้ยังมีธุรกิจ Operator อย่างรถเช่า Master Car Rental Fleet และ Six รวมถึง Outsource อกร. พนักงานขับรถ และธุรกิจ Innovation ต่างๆ เราดำเนินธุรกิจกับแบรนด์ Partnership กว่า 20 แบรนด์ มีพนักงานประมาณ 2,500 ท่าน และมียอดขายประมาณ 9,000 คันในปี 2567 ที่ผ่านมา

  1. 1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

    ผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบ:

    ตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์ในปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายในการสร้างอัตราการเติบโต ทั้งในส่วนของภาคการผลิตและการส่งออก ปัจจัยกดดันมาจากการประกาศนโยบายภาษีของ Trump ทำให้เกิดภาวะชะลอตัวในภาคผลิตและกำลังซื้อในประเทศ

    การผลิตรถยนต์โดยรวมลดลง 22% โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่ลดลงเกือบ 40% อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เติบโต 100% และรถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV/PHEV) ก็ยังคงเติบโตได้ดี

    ตัวเลขทางการเงินและสถิติ:

    • การผลิตรถยนต์ลดลง 22%
    • รถยนต์สันดาปภายในลดลงเกือบ 40%
    • รถยนต์ไฟฟ้าเติบโต 100%
    • ยอดขาย Q1 ลดลง 6% YoY
    • รถยนต์สันดาปภายใน Q1 ลดลง 25%
    • รถยนต์ไฟฟ้า Q1 โตขึ้นเท่าตัว (20,000 คัน)
  1. 2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

    โอกาสในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า:

    MGC Asia เล็งเห็นโอกาสในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต จึงได้ขยายธุรกิจไปยังส่วนนี้ก่อนหน้า 1 ปี และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์ Xpeng

    บริษัทได้เปิดตัวและส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า X9 ให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว

  1. 3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

    ความเสี่ยงด้านการตลาดและสินเชื่อ:

    นอกเหนือจากนโยบาย Trump แล้ว ภาวะการเงินตึงตัวและการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นก็เป็นปัจจัยกดดันการซื้อขายรถยนต์ในประเทศ ทำให้การครอบครองรถยนต์เป็นไปได้ยากขึ้น

  1. 4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

    การปรับกลยุทธ์และการควบคุมต้นทุน:

    MGC Asia วางแผนและเตรียมตัวรับมือกับความท้าทาย โดยพยายามรักษาระดับการขายให้อยู่ในระดับที่เติบโตได้ แม้จะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่ก็เติบโตกว่าในอุตสาหกรรม

    บริษัทให้ความสำคัญกับการควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารต้นทุนการขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรักษาระดับ Gross Profit และ EBITDA ให้อยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา

  1. 5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

    การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว:

    MGC Asia มีวิสัยทัศน์ในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความผูกพันกับลูกค้าผ่านโปรแกรม Loyalty ต่างๆ และการขยายธุรกิจไปยังตลาดที่มีศักยภาพ เช่น เวียดนาม

    บริษัทมุ่งเน้นการใช้ Data และ AI ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อลดต้นทุนการบริหารงานและสร้างอัตราการเติบโตที่สูงกว่าคู่แข่ง

  1. 6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 40:27]
    • แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568:
      • คาดว่าอัตราการเติบโตจะสูงขึ้นอีก จาก Backlog ที่มีจำนวนมาก และการส่งมอบรถยนต์ที่เป็นไปตามเป้าหมาย
      • การเติบโตอาจจะไม่ก้าวกระโดด แต่จะเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงกว่าอุตสาหกรรม
    • เป้าหมายรายได้ปี 2568 เติบโต 10%:
      • เน้นการเติบโตของ Bottom Line (Net Profit) มากกว่า Top Line (รายได้รวม)
      • โฟกัสการควบคุมต้นทุน บริหารค่าใช้จ่าย และเลือกขายรถยนต์ที่ทำกำไรได้ดี
      • คาดว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของ Net Profit ให้สูงขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
    • การขยายการลงทุนในเวียดนาม:
      • ยังอยู่ในช่วงศึกษาแผนการลงทุน โดยพิจารณาปัจจัยใหม่ๆ เช่น นโยบายภาษีของ Trump
      • ตลาดเวียดนามมีโอกาสเติบโตสูง จากประชากรวัยรุ่นที่มีกำลังซื้อสูง
      • หากการศึกษาแล้วพบว่ามีความพร้อม จะนำเสนอแผนเข้าบอร์ด MGC Asia เพื่อพิจารณา
    • ธุรกิจสินเชื่อ Alpha X:
      • Q1/2568 พอร์ตสินเชื่อเติบโต 7% หรือประมาณ 11,100 ล้านบาท
      • วางแผนขยายพอร์ตให้เติบโต 20-25% (12,500 ล้านบาท) โดยรักษา NIM และควบคุมค่าใช้จ่าย/NPL อย่างเข้มงวด
    • ผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยวต่อธุรกิจรถเช่า:
      • มีผลกระทบแน่นอน แต่พยายามบริหารและปรับพอร์ต Fleet เพื่อรักษา Bottom Line ให้เติบโตตามเป้าหมาย 10%
      • อาจมีการปรับ Feed และ Exercise Feed ในส่วนของ Six เพื่อรักษาอัตราการเติบโตในส่วนของ Bottom Line ไว้
    • ผลกระทบของ Trade War และการปรับกลยุทธ์:
      • Trade War จะไม่กระทบทุกอุตสาหกรรม แต่จะกระทบกลุ่มที่ไม่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน
      • MGC Asia จะโฟกัสกลุ่มที่มี Strength มีขีดความสามารถ และเป็น Product Champion ของไทย
      • เป็นการ Steer ธุรกิจไปยังกลุ่มที่มีโอกาสและศักยภาพมากขึ้น
    • ความเชื่อมั่นในการเติบโตของ MGC Asia:
      • มั่นใจในการรักษาอัตราการเติบโตของ Bottom Line (Net Profit) ให้สูงกว่าปีที่ผ่านมา
      • Q1 มีอัตราการเติบโตสูง แต่ยังไม่เป็นที่พอใจ (55 ล้านบาท)
      • Q2 จะรักษาอัตราการเติบโตต่อเนื่อง จาก Backlog และการ Maintain ลูกค้าผ่าน Loyalty Program
      • เชื่อว่า 2 สิ่งนี้จะสร้างอัตราการเติบโตได้ดี
      • เมื่อเทียบ H1 ปี 2568 กับ H1 ปี 2567 มั่นใจว่า Bottom Line จะเติบโตขึ้นแน่นอน

โดยสรุป MGC Asia มุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง การควบคุมต้นทุน การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ตั้งไว้

โพสต์ล่าสุด