SABINA ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจซบเซา Q1/68 กำไร 103 ล้าน! พร้อมกลยุทธ์ดันยอดขายโตต่อเนื่อง

P/E 12.86 YIELD 8.76 ราคา 15.30 (0.00%)

SABINA ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจซบเซา Q1/68 กำไร 103 ล้าน! พร้อมกลยุทธ์ดันยอดขายโตต่อเนื่อง

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ไม่ได้หมายถึงราคาหุ้น หมายถึงผลประกอบการของ SABINA รายได้รวม 845 ล้านบาท ติดลบ 6.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (Year-on-Year)

ถึงแม้รายได้จะลดลง แต่ Gross Profit Margin สูงขึ้น และ SG&A สูงขึ้น ซึ่งมี 2 เหตุผลหลัก:

  • **เหตุผลที่ 1:** การปรับโครงสร้างภายในองค์กร โดยย้ายค่าใช้จ่ายด้านขนส่ง, คลังสินค้า, และฝ่ายศิลป์จากต้นทุนการผลิตมาอยู่ใน SG&A ทำให้ SG&A สูงขึ้น แต่ต้นทุนการผลิตต่ำลง
  • **เหตุผลที่ 2:** สภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทำให้ยอดขายลดลง, ส่วนลดเพิ่มขึ้น, โปรโมชั่นเยอะขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นต่ำลง
  • กำไรสุทธิ 103 ล้านบาท ลดลง 16% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (123 ล้านบาท)

    2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

    บริษัทมองหาโอกาสในการขยาย Standalone Shop หรือจุดขายที่ดี ในปี 2568 คาดว่าจะเปิดได้ 10-15 สาขา ซึ่งจะเป็นจังหวะที่ดีในการต่อรองราคา และช่วยสร้าง Branding ที่ดีขึ้น

    OEM ยังมีโอกาสเติบโต โดยในไตรมาส 2 หรือจากนี้ไป น่าจะดีขึ้น เนื่องจากบริษัทไม่มีลูกค้าในอเมริกาโดยตรง แต่ลูกค้าอเมริกาเริ่มมาเคาะประตู บริษัทก็ต้องพิจารณา โดยเน้นการสร้างแบรนด์มากกว่าการทำ OEM เพียงอย่างเดียว

    3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

    ความเสี่ยงหลักคือ สภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง และการแข่งขันในตลาดสูง

    สินค้าจากจีนทะลักเข้ามาในตลาด ทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น

    สถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน เช่น การเจรจาการค้าระหว่างไทยกับอเมริกา ที่ยังไม่ได้รับการรับนัด

    4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

    ปรับโครงสร้างองค์กร โดยย้ายค่าใช้จ่ายบางส่วนมาที่ SG&A เพื่อให้เห็นต้นทุนที่แท้จริงและสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    เน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำลง และสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

    ระมัดระวังในการใช้จ่ายด้านการตลาด และเลือกใช้เม็ดเงินให้คุ้มค่าที่สุด

    พยายามดาวน์ไซซ์องค์กร เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

    5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

    บริษัทคาดการณ์ว่า Gross Profit จะอยู่ที่ประมาณ 54% และ SG&A จะอยู่ที่ 35% ในอนาคต

    มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ

    ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและนวัตกรรม

    ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

    6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** [เริ่ม Q&A นาทีที่ 36:19]
    • **ยอดขายผ่าน TikTok เป็นอย่างไรบ้างเมื่อเทียบ Year-on-Year และ Q-on-Q?**

      โตขึ้นเยอะมาก ทั้งยอดขายและค่าใช้จ่าย เป็นช่องทางที่มีโอกาส แต่ต้องมีการปรับตัว

    • **ปีนี้ภาพรวมตลาดชุดชั้นในมีโอกาสหดตัวหรือไม่?**

      น่าจะยังมีการเติบโต แต่ Segment ของการเติบโตอาจแตกต่างไป โอกาสอยู่ที่การเข้าถึงจุดนั้น

    • **ช่วงที่เหลือของปีมีกลยุทธ์ให้ยอดขายและกำไรเติบโตอย่างไรบ้าง และมีโอกาสแค่ไหนในกำลังซื้อที่จำกัดแบบนี้?**

      ขยายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ไม่ใช่ฐานเดิม เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโต กลยุทธ์เน้นการเติบโตที่ไม่พึ่ง NSR ช่องทางเดียว

    • **ใช่สินค้าจีนหรือไม่ที่ทำให้ SABINA เหนื่อยขึ้นในการเติบโต?**

      เป็นองค์ประกอบหนึ่ง สินค้าจีนไม่ได้เพิ่งเข้ามา แต่บริษัทต้องทำอย่างไรให้ลูกค้าที่เลือกใช้สินค้านั้นหันมามองสินค้าบริษัทมากขึ้น

    • **NSR โตเป็น 36% ของรายได้แล้ว เป้าสูงสุดภายใน 3 ปีอยู่ที่เท่าใด?**

      สัดส่วนที่เหมาะสมจะอยู่ประมาณ 35-40%

    โดยสรุป SABINA กำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเสี่ยง และมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโต โดยมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ พร้อมกับการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

    โพสต์ล่าสุด