บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

SPCG กำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ร่วง 61% เหลือ 139.5 ล้านบาท เหตุรายได้ขายไฟลด หลังเงินอุดหนุน Adder หมดอายุ แต่ธุรกิจ Solar Roof ยังเติบโต ช่วยพยุงรายได้

รายได้และกำไรที่ลดลง

SPCG รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวม 534.4 ล้านบาท ลดลง 27% จาก 735.5 ล้านบาทในปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 139.5 ล้านบาท ลดลงถึง 61% จาก 358.4 ล้านบาทในปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลดลง เนื่องจากรายได้เงินอุดหนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ได้สิ้นสุดลง

ถึงแม้ว่าปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายได้จะเพิ่มขึ้น 8% แต่รายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กลับ ลดลง 37% อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) กลับ เพิ่มขึ้น 34%

ข้อสังเกตและพัฒนาการ

ต้นทุนขายและการให้บริการ เพิ่มขึ้น 5% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น ลดลงจาก 62% เหลือ 45% เนื่องจากการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย เพิ่มขึ้น 20% สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ Solar Roof

นอกจากนี้ SPCG ยังมีการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ในบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัท อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงิน ลดลง 91% จากการจ่ายชำระคืนหุ้นกู้

ภาพรวมและสรุป

สินทรัพย์รวมของ SPCG เพิ่มขึ้น 1% โดยมีเงินสดและเงินฝากธนาคารรวมกับเงินลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินระยะสั้น เพิ่มขึ้น 11% ในขณะที่หนี้สินรวม เพิ่มขึ้น 57% ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 0.01 เท่า เป็น 0.02 เท่า

โดยสรุป SPCG มีผลประกอบการที่ลดลงในไตรมาส 1 ปี 2568 เนื่องจากการสิ้นสุดของ Adder อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Solar Roof ยังคงเติบโตได้ดีและมีส่วนช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป นอกจากนี้ บริษัทยังมีการบริหารจัดการเงินสดและโครงสร้างเงินทุนที่ดี