https://aio.panphol.com/assets/images/community/610_KEAEU2.png

CREDIT กำไรปี 67 โต 1.9% แม้ NPL พุ่ง แต่ยังน่าสนใจลงทุน

P/E 6.47 YIELD 3.16 ราคา 19.00 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: ผลประกอบการปี 2567

ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) ปิดปี 2567 ด้วยกำไรสุทธิ 3,624 ล้านบาท เติบโต 1.9% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 10.5% สอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 13.2% อย่างไรก็ตาม ธนาคารเผชิญความท้าทายจาก NPL ที่เพิ่มขึ้น และการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

รายละเอียดผลประกอบการและคุณภาพสินทรัพย์

ในไตรมาส 4/2567 สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ของธนาคารอยู่ที่ 7,228.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% จากปีก่อน ส่งผลให้อัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% จาก 4.2% ในปี 2566 สาเหตุหลักมาจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่สิ้นสุดลง และภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ธนาคารได้เพิ่มความเข้มงวดในการติดตามหนี้ และตั้งสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น 8.8% เป็น 10,739.0 ล้านบาท เพื่อรักษา Coverage Ratio ให้อยู่ในระดับสูงที่ 148.6% อัตราผลตอบแทนสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ (NIM) อยู่ที่ 8.6% ลดลงเล็กน้อยจาก 8.7% ในปี 2566 แต่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 30.7% เหลือ 22.0% สะท้อนประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่าย ณ สิ้นปี 2567 สินเชื่อรวมอยู่ที่ 163,158.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อที่อยู่อาศัย

โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน

ธนาคารไทยเครดิตยังมีศักยภาพในการเติบโต โดยมีโอกาสจากการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มไมโครเอสเอ็มอีและรายย่อย, การขยายสาขาและลงทุนในเทคโนโลยี, และการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถในการทำกำไรยังอยู่ในระดับสูง โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 24.8% อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังมีความเสี่ยงจาก NPL ที่เพิ่มขึ้นตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่หมดลง, การแข่งขันในธุรกิจธนาคารที่สูงขึ้น, และความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย หุ้น CREDIT จึงยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวเพื่อรอการเติบโต

โพสต์ล่าสุด
บทความ
3 วันที่แล้ว 13:30 น.
No Title Found