บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

MGC โชว์ผลงานไตรมาส 1 ปี 2568 พลิกกลับมาทำกำไรสุทธิ 54.9 ล้านบาท จากที่เคยขาดทุน 9.5 ล้านบาทในปีก่อนหน้า หนุนโดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมอย่าง Neo Mobility Asia และ Howden Maxi แม้รายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย แต่การบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้นส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ

รายได้ลด แต่กำไรโต:

ในไตรมาสนี้ MGC มีรายได้รวม 4,065.4 ล้านบาท ลดลง 10.1% จาก 4,522.5 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ BMW และ Honda อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นกลับเพิ่มขึ้น 6.1% เป็น 463.5 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นจาก 9.8% เป็น 11.4% เป็นผลมาจากการปรับตัวของอัตรากำไรขั้นต้นในกลุ่มรถยนต์ BMW และธุรกิจให้บริการหลังการขาย

สินทรัพย์มั่นคง หนี้สินลด:

ด้านสถานะทางการเงิน MGC ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1% เป็น 15,205.2 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเพื่อการจัดแสดงและการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีในการวัดมูลค่าที่ดิน ในขณะที่หนี้สินรวมลดลง 2.9% เหลือ 11,108.5 ล้านบาท เนื่องจากการชำระคืนเจ้าหนี้การค้าและเงินกู้ยืมระยะสั้น ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ลดลงจาก 3.0 เท่า เป็น 2.7 เท่า

สรุปและแนวโน้ม:

แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น และการอนุมัติสินเชื่อที่ยากขึ้น แต่ MGC สามารถปรับตัวและสร้างผลกำไรได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทพลิกกลับมาทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนสภาพคล่องที่ลดลงเล็กน้อยและวงจรเงินสดที่ยาวนานขึ้นเป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง ในขณะที่อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว